พบผลลัพธ์ทั้งหมด 56 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2051/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมทุนซื้อที่ดิน แม้มีชื่อผู้ซื้อคนเดียว ผู้ร่วมทุนมีสิทธิเรียกร้องได้ หากแสดงกิริยารับรองสัญญาก็ผูกพัน
การร่วมทุนกันซื้อที่ดิน แม้ในสัญญาซื้อขายจะลงชื่อคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ซื้อแต่ผู้เดียว ผู้ที่ร่วมทุนซื้อด้วยมีสิทธิฟ้องและขอสืบเหตุแห่งความจริงว่าได้ร่วมทุนซื้อด้วยได้.
ผู้เยาว์ที่ร่วมทุนซื้อที่ดินกับบุคคลอื่นที่มีชื่อในหนังสือสัญญาซื้อขาย ซึ่งเมื่อซื้อมาแล้วได้แบ่งที่ดินให้ผู้เยาว์ครอบครองมาจนล่วงเลยอายุความการให้สัตยาบัน โดยมิได้บอกล้างเช่นนี้ ถือว่า เป็นการแสดงกิริยารับรองต่อผู้เยาว์ ๆจึงได้สิทธิ
ผู้เยาว์ที่ร่วมทุนซื้อที่ดินกับบุคคลอื่นที่มีชื่อในหนังสือสัญญาซื้อขาย ซึ่งเมื่อซื้อมาแล้วได้แบ่งที่ดินให้ผู้เยาว์ครอบครองมาจนล่วงเลยอายุความการให้สัตยาบัน โดยมิได้บอกล้างเช่นนี้ ถือว่า เป็นการแสดงกิริยารับรองต่อผู้เยาว์ ๆจึงได้สิทธิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแลกเปลี่ยนที่ดินกับผู้เยาว์: ความสมบูรณ์ของนิติกรรมและการพิจารณาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ตกลงแลกเปลี่ยนที่ดินกับโจทก์และโจทก์ได้โอนที่ดินของโจทก์ให้จำเลยไปแล้ว จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยไม่เคยจะแลกเปลี่ยนที่ดินกับโจทก์ ที่ดินที่โจทก์โอนให้จำเลยนี้ โจทก์โอนให้โดยเสน่หา โจทก์แถลงรับว่าเมื่อตกลงแลกเปลี่ยนที่ดินนั้นจำเลยยังเป็นผู้เยาว์อยู่ในความปกครองของโจทก์ได้ความดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้อง โดยอ้างว่าการแลกเปลี่ยนที่ดินนี้จะฟ้องร้องบังคับกันไม่ได้ เพราะเป็นการทำนิติกรรมกับผู้เยาว์ และทั้งไม่ได้ทำให้ถูกแบบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงเพียงเท่านี้ยังไม่เพียงพอจะให้วินิจฉัยคดีได้ ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนสัญญายอมความของผู้เยาว์ที่ทำโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม
ผู้เยาว์และผู้แทนโดยชอบธรรมร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องคดีและทำสัญญายอมความโดยผู้เยาว์มิได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมและผู้แทนโดยชอบธรรมก็ไม่เคยให้สัตยาบัน ดังนี้ ผู้แทนโดยชอบธรรมฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญายอมความนั้นได้
ผู้ที่อ้างว่าเป็นบิดาและมารดาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญายอมความที่ผู้เยาว์ทำไว้ โดยอ้างว่าบิดามิได้ให้ความยินยอม ถ้ายังปรากฏความในฟ้องต่อไปซึ่งแสดงให้เห็นว่าโจทก์ฟ้องโดยหมายความว่าผู้เยาว์ไม่อาจทำนิติกรรมโดยตนเองได้แล้วแม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าบิดาไม่ใช่ผู้แทนโดยชอบธรรม ก็ถือได้ว่าฟ้องตรงกับประเด็นแล้ว.
ผู้ที่อ้างว่าเป็นบิดาและมารดาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญายอมความที่ผู้เยาว์ทำไว้ โดยอ้างว่าบิดามิได้ให้ความยินยอม ถ้ายังปรากฏความในฟ้องต่อไปซึ่งแสดงให้เห็นว่าโจทก์ฟ้องโดยหมายความว่าผู้เยาว์ไม่อาจทำนิติกรรมโดยตนเองได้แล้วแม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าบิดาไม่ใช่ผู้แทนโดยชอบธรรม ก็ถือได้ว่าฟ้องตรงกับประเด็นแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญายอมความของผู้เยาว์: ผู้แทนโดยชอบธรรมมีสิทธิเพิกถอนได้หากไม่ได้รับความยินยอม
ผู้เยาว์และผู้แทนโดยชอบธรรมร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องคดีและทำสัญญายอมความ โดยผู้เยาว์มิได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมและผู้แทนโดยชอบธรรมก็ไม่เคยให้สัตยาบัน ดังนี้ ผู้แทนโดยชอบธรรมฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญายอมความนั้นได้
ผู้ที่อ้างว่าเป็นบิดาและมารดาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญายอมความที่ผู้เยาว์ทำไว้ โดยอ้างว่าบิดามิได้ให้ความยินยอม ถ้ายังปรากฏความในฟ้องต่อไปซึ่งแสดงให้เห็นว่าโจทก์ฟ้องโดยหมายความว่าผู้เยาว์ไม่อาจทำนิติกรรมโดยตนเองได้แล้ว แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าบิดาไม่ใช่ผู้แทนโดยชอบธรรม ก็ถือได้ว่าฟ้องตรงกับประเด็นแล้ว
ผู้ที่อ้างว่าเป็นบิดาและมารดาฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญายอมความที่ผู้เยาว์ทำไว้ โดยอ้างว่าบิดามิได้ให้ความยินยอม ถ้ายังปรากฏความในฟ้องต่อไปซึ่งแสดงให้เห็นว่าโจทก์ฟ้องโดยหมายความว่าผู้เยาว์ไม่อาจทำนิติกรรมโดยตนเองได้แล้ว แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าบิดาไม่ใช่ผู้แทนโดยชอบธรรม ก็ถือได้ว่าฟ้องตรงกับประเด็นแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีหนี้จากการกู้เงินโดยภรรยาโดยไม่ได้รับความยินยอมของสามี และการแยกสินบริคณห์
หญิงมีสามีกู้เงินโดยไม่ได้รับความยินยอมของสามีสัญญานั้นเป็นโมฆียะ เมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมนั้นแล้วหญิงก็ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวซึ่งเจ้าหนี้ฟ้องขอแยกสินบริคณห์เพื่อเอาชำระหนี้ได้
เมื่อคดีไม่ปรากฎว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อนหรือหลังใช้ประมวลแพ่งฯ บรรพ 5 ศาลย่อมแบ่งสินสมรสให้สามีภรรยานั้นคนละครึ่ง.
เมื่อคดีไม่ปรากฎว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อนหรือหลังใช้ประมวลแพ่งฯ บรรพ 5 ศาลย่อมแบ่งสินสมรสให้สามีภรรยานั้นคนละครึ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินโดยไม่ได้รับความยินยอมของคู่สมรส ทำให้สัญญานั้นเป็นโมฆียะ และเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องจากสินสมรส
หญิงมีสามีกู้เงินโดยไม่ได้รับความยินยอมของสามีสัญญานั้นเป็นโมฆียะเมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมนั้นแล้วหญิงก็ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวซึ่งเจ้าหนี้ฟ้องขอแยกสินบริคณห์เพื่อเอาชำระหนี้ได้
เมื่อคดีไม่ปรากฏว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อนหรือหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ศาลย่อมแบ่งสินสมรสให้สามีภรรยานั้นคนละครึ่ง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2488
เมื่อคดีไม่ปรากฏว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อนหรือหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ศาลย่อมแบ่งสินสมรสให้สามีภรรยานั้นคนละครึ่ง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2488
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสามารถในการฟ้องคดีของผู้เยาว์: การพิจารณาคดีที่ไม่ถูกต้องและผลกระทบต่อคำพิพากษา
ไนคดีที่จำเลยเปนผู้เยาว์และดำเนินไปโดยมิได้ปติบัติไห้ถูกต้องไนเรื่องความสามารถนั้น สาลดีกามีอำนาดกำหนดไห้สาลชั้นต้นพิจารนาไหม่โดยให้แยกคดีที่ผู้เยาว์เปนจำเลยออกจากคดีเดิมและไห้ยกเว้นค่าทำเนียบสาลอุธรน์ดีกาสำหรับฝ่ายที่เคยเสียมาแล้ว
หากจะอุธรน์ดีกาต่อไปและงดคดีส่วนตัวจำเลยอื่นไว้รอคดีสำหรับตัวจำเลยที่เปนผู้เยาว์ด้วย
หากจะอุธรน์ดีกาต่อไปและงดคดีส่วนตัวจำเลยอื่นไว้รอคดีสำหรับตัวจำเลยที่เปนผู้เยาว์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลฎีกาในการพิจารณาคดีผู้เยาว์และการงดคดีส่วนตัว
ในคดีที่จำเลยเป็นผู้เยาว์และดำเนินคดีไปโดยมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องในเรื่องความสามารถนั้น ศาลฎีกามีอำนาจกำหนดให้ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่โดยให้แยกคดีที่ผู้เยาว์เป็นจำเลยออกจากคดีเดิมและให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ฎีกาสำหรับฝ่ายที่เคยเสียมาแล้วได้ หากจะอุทธรณ์ฎีกาต่อไปและงดคดีส่วนตัวจำเลยอื่นไว้รอคดีสำหรับตัวจำเลยที่เป็นผู้เยาว์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างโมฆียะกรรมสัญญาโดยผู้เยาว์ ไม่ถือเป็นการรับสภาพหนี้
บิดาจำเลยตาย. โจทก์จำเลยได้ตกลงแปลงหนี้ใหม่. คือแปลงหนี้ที่บิดาจำเลยเป็นหนี้สามีโจทก์มาเป็นสัญญาที่จำเลยจะขายที่ดินให้โจทก์. แต่ภายหลังจำเลยได้บอกล้างโมฆียะกรรมเพราะในขณะจำเลยทำสัญญาเป็นผู้เยาว์. เช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้เดิมหรือให้สัตยาบันอันจะทำให้อายุความมรดกสะดุดหยุดลง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญารับสภาพหนี้โดยภรรยาน้อย: ไม่ผูกมัดบุตรภรรยาหลวง
ภรรยาน้อยไปทำสัญญารับสภาพหนี้ของผู้ตายโดยตนมิได้เป็นผู้จัดการทรัพย์มรดก หรือเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้ร้องซึ่งเป็นบุตรภรรยาหลวง. สัญญานั้นย่อมไม่ผูกมัดผู้ร้องในอันที่จะมีส่วนได้ในมรดกด้วย.