พบผลลัพธ์ทั้งหมด 557 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลบังคับตามข้อตกลงประมูลทำนาพิพาท แม้ไม่มีคำพิพากษา
การประมูลทำนาพิพาทระหว่างคู่ความในคดีนั้นเป็นเรื่องที่คู่ความตกลงกันในศาลเกี่ยวกับคดีที่ดำเนินการพิจารณาอยู่ เมื่อศาลสั่งให้เป็นไปตามข้อตกลงนั้นแล้วและคู่ความฝ่ายที่ประมูลได้ได้ทำสัญญาไว้ต่อศาลว่าจะนำเงินมาวางศาลเช่นนี้ ศาลก็ย่อมมีอำนาจออกคำบังคับให้โจทก์นำเงินมาวางศาลได้โดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีให้มีคำพิพากษาขึ้นมาเสียก่อน กรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องการบังคับคดีตามคำพิพากษา (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1924/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความกับการบังคับจำนอง: สิทธิในทรัพย์สินยังไม่หลุดจนกว่าจะผิดนัด
เจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินกู้และดอกเบี้ยจากจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ จำเลยทำยอมชำระหนี้โดยดี ในระหว่างนั้นผู้รับจำนองได้ฟ้องบังคับจำนองเอากับจำเลยบ้าง จำเลยทำยอมต่อศาลว่ายอมชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยให้ภายในกำหนด ถ้าไม่ชำระภายในกำหนดยอมให้ที่นา 2 แปลงที่จำนองไว้ หลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับจำนอง ดังนี้ตามสัญญาประนีประนอมดังกล่าวยังหามีผลให้นา 2 แปลงหลุดเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้รับจำนองทันทีไม่ หากแต่มีเงื่อนไขยอมให้หลุดเป็นสิทธิเมื่อไม่ใช้หนี้ภายในกำหนด ฉะนั้นถ้าเจ้าหนี้เงินกู้นำยึดนา 2 แปลงนี้ เพื่อขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ของตนก่อนกำหนดในสัญญาประนีประนอมยอมความ ระหว่างผู้รับจำนองและจำเลยแล้ว ผู้รับจำนองก็จะมาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่นา 2 แปลงนั้นไม่ได้ เพราะขณะนำยึดนา 2 แปลงนั้นยังเป็นของจำเลยอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1924/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำนอง vs. สิทธิยึด: การยึดทรัพย์ก่อนกรรมสิทธิจำนองตกเป็นของผู้รับจำนอง
เจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินกู้และดอกเบี้ยจากจำเลยผู้เป็นลูกหนี้จำเลยทำยอมชำระหนี้โดยดี ในระหว่างนั้นผู้รับจำนองได้ฟ้องบังคับจำนองเอากับจำเลยบ้าง จำเลยทำยอมต่อศาลว่ายอมชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยให้ภายในกำหนด ถ้าไม่ชำระภายในกำหนดยอมให้ที่นา 2 แปลงที่จำนองไว้หลุดเป็นสิทธิแก่ผู้รับจำนอง ดังนี้ ตามสัญญาประนีประนอมดังกล่าว ยังหามีผลให้นา 2 แปลงหลุดเป็นกรรมสิทธิแก่ผู้รับจำนองทันทีไม่หากแต่มีเงื่อนไขยอมให้หลุดเป็นสิทธิเมื่อไม่ใช้หนี้ภายในกำหนดฉะนั้น ถ้าเจ้าหนี้เงินกู้นำยึดมา 2 แปลงนี้ เพื่อ ขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ของตน ก่อนกำหนดในสัญญาประนีประนอมยอมความ ระหว่างผู้รับจำนองและจำเลยแล้ว ผู้รับจำนองก็มาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่นา 2 แปลงนั้นไม่ได้ เพราะขณะนำยึดนา 2 แปลงนั้นยังเป็นของจำเลยอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการเลือกวิธีชำระหนี้ตามคำพิพากษา: การแบ่งมรดกหรือชำระเป็นเงิน
ศาลตัดสินให้โจทก์ชนะคดีโดยให้จำเลยแบ่งมรดก ที่สวนที่นาและสวนมะพร้าวตามบัญชีท้ายฟ้องให้โจทก์ครึ่งหนึ่งหรือใช้เงินให้โจทก์ 15000 บาท ถ้าไม่แบ่งหรือแบ่งแยกไม่ได้ หรือไม่ใช้เงินภายใน 1 เดือน ก็ให้ขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันคนละครึ่ง เมื่อปรากฎว่าที่สวนมะพร้าว แพงขึ้นจำเลยจึงเลือกเอาทางนำเงิน 15000 บาทมาวางศาลเพื่อชำรแก่โจทก์ ดังนี้ ถ้าโจทก์ไม่ตกลงด้วย ศาลก็ต้องบังคับให้จำเลยแบ่งที่มรดกให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกโดยการแบ่งทรัพย์สินหรือชำระเป็นเงิน หากไม่สามารถทำได้ให้ขายทอดตลาด
ศาลตัดสินให้โจทก์ชนะคดีโดยให้จำเลยแบ่งมรดก ที่สวนที่นาและสวนมะพร้าวตามบัญชีท้ายฟ้องให้โจทก์ครึ่งหนึ่งหรือใช้เงินให้โจทก์ 15,000 บาท ถ้าไม่แบ่งหรือแบ่งแยกไม่ได้ หรือไม่ใช้เงินภายใน 1 เดือน ก็ให้ขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันคนละครึ่ง เมื่อปรากฏว่าที่สวนมะพร้าวแพงขึ้นจำเลยจึงเลือกเอาทางนำเงิน 15,000 บาทมาวางศาลเพื่อชำระแก่โจทก์ ดังนี้ ถ้าโจทก์ไม่ตกลงด้วยศาลก็ต้องบังคับให้จำเลยแบ่งที่มรดกให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินซ้ำซ้อน ศาลรวมพิจารณาคดีและวินิจฉัยสิทธิของผู้ซื้อทั้งสอง
เจ้าของที่ดินทำสัญญาจะขายที่ดินแก่ผู้ซื้อคนหนึ่ง แล้วกลับไปทำสัญญาจะขายแก่ผู้ซื้ออีกคนหนึ่งอีก ผู้ซื้อทั้ง 2 ต่างเป็นโจทก์ฟ้องเจ้าของคนละสำนวน ขอให้ศาลบังคับให้เจ้าของผู้เป็นจำเลยโอนที่ดินรายเดียวกันนั้นให้แก่ตนตามสัญญา ศาลชั้นต้นได้รวมพิจารณาคดี 2 สำนวนด้วยกัน สืบพยานรวมกันมาเป็นเรื่องเดียวกัน แล้วพิพากษาให้เจ้าของโอนที่ให้แก่ผู้ซื้อคนหลัง และยกฟ้องผู้ซื้อคนแรกนั้นเสีย ผู้ซื้อคนแรกอุทธรณ์ฝ่ายเดียวศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษากลับให้จำเลยโอนที่ดินแก่ผู้ซื้อคนแรก ดังนี้ ก็เท่ากับได้วินิจฉัยชี้ขาดกรณีพิพาทระหว่างผู้ซื้อคนหลัง ผู้ซื้อคนแรก และผู้ขาย โดยรวมกันไปเสร็จสิ้นแล้ว คงอยู่แต่ชั้นบังคับคดีซึ่งต้องให้เป็นผลไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ตามคำพิพากษา: โอนทรัพย์ก่อนคืนเงิน, การจำนองไม่เป็นเหตุให้ไม่ต้องชำระหนี้
คำพิพากษาของศาลบังคับให้จำเลยโอนขายนากับเรือนให้โจทก์ถ้าไม่สามารถโอนขายได้จึงให้คืนเงิน ดังนี้ เป็นการกำหนดให้กระทำการชำระหนี้ทีละอย่างก่อนหลังตามลำดับ ไม่ใช่เป็นการกระทำหลายอย่างอันลูกหนี้จะพึงเลือกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 198
การที่จำเลยเอาทรัพย์ไปจำนองสหกรณ์ไว้ไม่ทำให้การโอนขายที่ดินและเรือนเป็นอันพ้นวิสัย อันจะเป็นเหตุให้จำเลยยกขึ้นอ้างว่า ไม่สามารถจะโอนขายที่ดินและเรือนได้ฉะนั้นโอกาสที่จำเลยจะขอคืนเงินให้โจทก์ จึงยังไม่อาจเกิดขึ้น
การที่จำเลยเอาทรัพย์ไปจำนองสหกรณ์ไว้ไม่ทำให้การโอนขายที่ดินและเรือนเป็นอันพ้นวิสัย อันจะเป็นเหตุให้จำเลยยกขึ้นอ้างว่า ไม่สามารถจะโอนขายที่ดินและเรือนได้ฉะนั้นโอกาสที่จำเลยจะขอคืนเงินให้โจทก์ จึงยังไม่อาจเกิดขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานในคดีพิพาทที่ดิน: ศาลต้องดำเนินการสืบพยานให้ครบถ้วนก่อนพิพากษา หากยังไม่พอพิพากษาได้
กรณีศาลชั้นต้นสืบตัวโจทก์หนึ่งปากแล้ว งดสืบพยานต่อไป พิพากษายกฟ้องโจทก์เสียเมื่อปรากฎว่าข้อที่สืบยังไม่เป็นหลักฐานที่แน่นอน พอจะพิพากษาชี้ขาดคดีได้โดยแน่ชัด ศาลสูงก็ต้องพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล: คำร้องขอประกันตัวไม่ใช่คำคัดค้านคำสั่ง
ผู้ร้องถูกศาลสั่งขังในฐานเป็นบริวารของจำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามคำบังคับของศาล สามีผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องไม่ใช่บริวารของจำเลยและยื่นคำร้องขอประกันตัวผู้ร้อง ศาลมีคำสั่งว่า ผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลย ให้ยกคำร้องดังนี้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลนั้น เพราะเป็นคำสั่งระหว่างศาลกับสามีผู้ร้องและคำร้องของสามีผู้ร้องก็เป็นเรื่องยื่นขอประกันตัวผู้ร้อง ไม่ใช่เป็นคำร้องคัดค้านคำสั่งศาลหรือเป็นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาในข้อที่ว่า ผู้ร้องมิใช่บริวาร ศาลจะสั่งขับไล่ผู้ร้องไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล: คำร้องขอประกันตัวไม่ใช่คำคัดค้านคำสั่ง หรือข้อโต้แย้งสถานะบริวาร
ผู้ร้องถูกศาลสั่งขังในฐานเป็นบริวารของจำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามคำบังคับของศาล สามีผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องไม่ใช่บริวารของจำเลยและยื่นคำร้องขอประกันตัวผู้ร้อง ศาลมีคำสั่งว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยให้ยกคำร้อง ดังนี้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลนั้น เพราะเป็นคำสั่งระหว่างศาลกับสามีผู้ร้อง และคำร้องของสามีผู้ร้องก็เป็นเรื่องยื่นขอประกันตัวผู้ร้องไม่ใช่เป็นคำร้องคัดค้านคำสั่งศาล หรือเป็นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาในข้อที่ว่า ผู้ร้องมิใช่บริวาร ศาลจะสั่งขับไล่ผู้ร้องไม่ได้