คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุวัฒน์ รัตรสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 605 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2551/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องบังคับจำนอง: การบอกกล่าวบังคับจำนองโดยทนายความและการไม่เคลือบคลุมของฟ้อง
โจทก์ฟ้องบังคับจำนอง และขอให้บังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของจำเลยผู้จำนองด้วย แม้คำฟ้องจะมิได้บรรยายถึงสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่จะให้จำเลยรับผิดนอกเหนือไปจากสัญญาที่จำนอง ก็มีผลเพียงว่าศาลจะบังคับตามคำขอของโจทก์ในส่วนที่ขอให้บังคับเอาจากทรัพย์สินอื่นของจำเลยไม่ได้เท่านั้น หาทำให้ฟ้องโจทก์ทั้งหมดเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยระบุพยานเพิ่มเติมจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบพยาน และมิได้ฎีกาคัดค้านว่าการที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยระบุพยานเพิ่มเติมนั้นไม่ชอบด้วยเหตุผลอย่างไร ฉะนั้น ปัญหาที่จำเลยฎีกาว่า การที่จำเลยจะนำพยานบุคคลมาสืบตามข้อต่อสู้ของจำเลยเป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารสัญญาจำนองหรือไม่จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย
ทนายโจทก์ได้บอกกล่าวบังคับจำนองในนามของโจทก์ แม้โจทก์จะไม่ได้มอบอำนาจเป็นหนังสือ แต่เมื่อโจทก์ยอมรับเอาการบังคับจำนองดังกล่าวแล้ว ย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้ให้สัตยาบันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 823 และถือได้ว่าโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2550/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการชำระหนี้ต้องมีลายมือชื่อพยานรับรองตามกฎหมาย มิฉะนั้นใช้เป็นหลักฐานไม่ได้
เอกสารที่เป็นหลักฐานการชำระหนี้กู้ยืมเงินกว่า 50 บาทขึ้นไป แม้มีลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ให้ยืม แต่ไม่มีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 วรรคสาม เท่ากับผู้ให้ยืมมิได้ลงลายมือชื่อในหลักฐานการใช้เงินนั้น ผู้ยืมจึงใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ว่าผู้ให้ยืมได้รับชำระหนี้แล้ว
ฎีกาข้อกฎหมายที่ไร้สาระศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2550/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการชำระหนี้ต้องมีลายมือชื่อพยานรับรองตามกฎหมาย การใช้ลายพิมพ์นิ้วมือไม่เพียงพอ
เอกสารที่เป็นหลักฐานการชำระหนี้กู้ยืมเงินกว่า 50 บาทขึ้นไป แม้มีลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ให้ยืม แต่ไม่มีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 วรรคสาม เท่ากับผู้ให้ยืมมิได้ลงลายมือชื่อในหลักฐานการใช้เงินนั้น ผู้ยืมจึงใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ว่าผู้ให้ยืมได้รับชำระหนี้แล้ว
ฎีกาข้อกฎหมายที่ไร้สาระศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2445/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝากไม่จดทะเบียน โมฆะ แต่สิทธิครอบครองเกิดได้จากการสละการครอบครองและแสดงเจตนา
เอกสารมีข้อความว่า ถ้าผู้ขายฝากไม่ไถ่ถอนตามกำหนดยินยอมยกที่ดินที่ขายฝากให้แก่ผู้รับซื้อฝากถือกรรมสิทธิ์ได้ต่อไป เมื่อ อ. ไม่ได้ไถ่ที่พิพาทคืนภายในกำหนดตามที่ตกลงกัน ก็เท่ากับ อ. ได้สละการครอบครองที่พิพาทแก่ ล. ล. ได้ ครอบครองต่อมา และแจ้ง ส.ค.1 ในนามของตนเอง เป็นการแสดงเจตนาเพื่อตน จึงได้สิทธิครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2423/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาคดีเช่า: แม้ที่ดินพิพาทจะเป็นสาธารณสมบัติ ก็ไม่อุทธรณ์บังคับตามคำพิพากษาเดิมได้
เมื่อศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้วว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จำเลยอยู่ในที่พิพาทโดยการเช่าจากโจทก์ จำเลยผิดสัญญาและโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้วจำเลยจึงไม่มีสิทธิอยู่ในที่พิพาทอีกต่อไป คำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันจำเลย จำเลยจะอ้างว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน เพื่อมิให้จำเลยต้องถูกบังคับตามคำพิพากษาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2410/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินย่อมรวมถึงสิ่งปลูกสร้างที่เป็นส่วนควบ หากไม่มีเงื่อนไขจำกัดสิทธิ
บ้านเรือนซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินแปลงใด ย่อมเป็นส่วนควบของที่ดินแปลงนั้น ถ้าไม่ปรากฏหลักฐานเป็นอย่างอื่นผู้ใดเป็นเจ้าของที่ดินแปลงใด ย่อมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านที่ปลูกอยู่ในที่ดินแปลงนั้น ดังนั้น การจำนองหรือการโอนที่ดินถ้าหากไม่ปรากฏว่ามีเงื่อนไขว่าจำนองหรือโอนไปโดยไม่รวมถึงบ้านอันเป็นส่วนควบของที่ดินแล้ว ก็ต้องถือว่าได้จำนองหรือโอนบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินแปลงนั้นด้วย โดยไม่จำต้องระบุว่าการจำนองหรือโอนนั้นให้รวมถึงสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2332/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมรสโมฆะ, การครอบครองปรปักษ์, และการสละมรดก: สิทธิในกองมรดกของทายาท
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1488 (เดิม)บุคคลใดจะอ้างว่าการสมรสเป็นโมฆะไม่ได้ นอกจากศาลพิพากษาว่าเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ แม้ขณะเจ้ามรดกจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ที่ 1แต่เจ้ามรดกยังอยู่กินฉันสามีภริยากับ อ. ซึ่งเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 และศาลยังมิได้พิพากษาว่าการสมรสระหว่างโจทก์ที่ 1 กับเจ้ามรดกเป็นโมฆะ การสมรสจึงยังสมบูรณ์อยู่ โจทก์ที่ 1 เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย และโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรของโจทก์ที่ 1 กับเจ้ามรดก จึงเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดก
โจทก์ที่ 2 ที่ 3 เข้าใจว่าเจ้ามรดกไม่มีทรัพย์สินอันใดอยู่อีกจึงได้ทำเอกสารไว้ต่อผู้จัดการมรดกตามที่ผู้จัดการสั่งให้ทำ ความว่าผู้จัดการมรดกได้แบ่งมรดกตามที่ควารได้ให้แก่ผู้รับไว้ถูกต้องแล้วผู้รับขอรับรองว่าหมดสิทธิในกองมรดกทั้งหมด เอกสารนี้ถือไม่ได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความเพราะโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ไม่มีข้อพิพาทอันใดต่อผู้จัดการมรดก และมิใช่เป็นการสละมรดกตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1612

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2332/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมรส, มรดก, และการครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกาวินิจฉัยสถานะภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย, สิทธิในมรดก, และอายุความ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1488(เดิม)บุคคลใดจะอ้างว่าการสมรสเป็นโมฆะไม่ได้ นอกจากศาลพิพากษาว่าเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ แม้ขณะเจ้ามรดกจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ที่ 1แต่เจ้ามรดกยังอยู่กินฉันสามีภริยากับ อ. ซึ่งเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 และศาลยังมิได้พิพากษาว่าการสมรสระหว่างโจทก์ที่ 1 กับเจ้ามรดกเป็นโมฆะ การสมรสจึงยังสมบูรณ์อยู่ โจทก์ที่ 1 เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย และโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรของโจทก์ที่ 1 กับเจ้ามรดก จึงเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดก
โจทก์ที่ 2 ที่ 3 เข้าใจว่าเจ้ามรดกไม่มีทรัพย์สินอันใดอยู่อีกจึงได้ทำเอกสารไว้ต่อผู้จัดการมรดกตามที่ผู้จัดการสั่งให้ทำ ความว่าผู้จัดการมรดกได้แบ่งมรดกตามที่ควารได้ให้แก่ผู้รับไว้ถูกต้องแล้วผู้รับขอรับรองว่าหมดสิทธิในกองมรดกทั้งหมด เอกสารนี้ถือไม่ได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความเพราะโจทก์ที่ 2 ที่ 3 ไม่มีข้อพิพาทอันใดต่อผู้จัดการมรดก และมิใช่เป็นการสละมรดกตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1612

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2253/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิการเช่าและการเพิกถอนตามพ.ร.บ.ล้มละลายฯ หากผู้ให้เช่ายินยอม
สิทธิการเช่าเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่งซึ่งผู้เช่าอาจโอนให้แก่บุคคลอื่นได้ถ้าผู้ให้เช่ายินยอม เมื่อปรากฏว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้โอนสิทธิการเช่าแก่ผู้คัดค้านตามคำร้องของลูกหนี้ซึ่งเป็นผู้เช่าในระหว่างระยะเวลาสามปีก่อนมีการขอให้ลูกหนี้ล้มละลาย ศาลก็มีอำนาจสั่งเพิกถอนการโอนได้ตาม พระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 114

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2226/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์ในความผิด พ.ร.บ.กำหนดราคาสินค้า: ทรัพย์ที่ขายไปแล้วไม่เป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิด
พระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ.2522มิได้บัญญัติเรื่องริบทรัพย์ไว้โดยเฉพาะ จึงอยู่ในบังคับแห่งหลักว่าด้วยการริบทรัพย์ทั่วไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33
จำเลยจำหน่ายปูนซิเมนต์เกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ตามประกาศคณะกรรมการกลาง ความผิดของจำเลยอยู่ที่การฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการกลางตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ปูนซิเมนต์ซึ่งจำเลยได้ขายไปแล้วมิใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33(1) เงินที่ได้จากการขายปูนซิเมนต์จึงริบไม่ได้
เมื่อไม่ริบของกลางและมิได้ปรับจำเลย ก็ไม่มีทางที่จะสั่งจ่ายเงินรางวัลได้
of 61