พบผลลัพธ์ทั้งหมด 605 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2226/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์ในความผิด พ.ร.บ.กำหนดราคาสินค้าฯ เงินจากการขายของกลางไม่เข้าข่ายทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิด
พระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ.2522มิได้บัญญัติเรื่องริบทรัพย์ไว้โดยเฉพาะ จึงอยู่ในบังคับแห่งหลักว่าด้วยการริบทรัพย์ทั่วไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33
จำเลยจำหน่ายปูนซีเมนต์เกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ตามประกาศคณะกรรมการกลาง ความผิดของจำเลยอยู่ที่การฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการกลางตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ปูนซีเมนต์ซึ่งจำเลยได้ขายไปแล้วมิใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33(1) เงินที่ได้จากการขายปูนซีเมนต์จึงริบไม่ได้
เมื่อไม่ริบของกลางและมิได้ปรับจำเลย ก็ไม่มีทางที่จะสั่งจ่ายเงินรางวัลได้
จำเลยจำหน่ายปูนซีเมนต์เกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ตามประกาศคณะกรรมการกลาง ความผิดของจำเลยอยู่ที่การฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการกลางตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ปูนซีเมนต์ซึ่งจำเลยได้ขายไปแล้วมิใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33(1) เงินที่ได้จากการขายปูนซีเมนต์จึงริบไม่ได้
เมื่อไม่ริบของกลางและมิได้ปรับจำเลย ก็ไม่มีทางที่จะสั่งจ่ายเงินรางวัลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความอาญา เนื่องจากจำเลยไม่ได้อธิบายเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยพยานหลักฐานนอกสำนวน
จำเลยฎีกาว่า ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยออกเช็คให้ ส. เจ้าหนี้ จำเลยมิได้นำสืบถึงว่าเงินหนี้มีอยู่เท่าใด ไม่มีการคิดเงินหนี้สินที่ติดพันกันมาก่อนและหนี้ที่ซื้อเชื่อกันหลายครั้งหลายหน ไม่น่าจะมีจำนวนเงินครบถ้วน 12,000 บาทโดยไม่มีเศษเงินเลยเป็นการวินิจฉัยคำพยานนอกสำนวน คลาดเคลื่อนต่อพยานหลักฐานในสำนวนนั้น แต่จำเลยมิได้ยกเหตุผลขึ้นอ้างอิงเลยว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยพยานหลักฐานนอกสำนวนอย่างไร หรือคลาดเคลื่อนต่อพยานหลักฐานในสำนวนอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195ประกอบด้วยมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2115/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตสัญญาค้ำประกัน: การเปลี่ยนแปลงหน้าที่ลูกจ้างไม่กระทบความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันเดิม
โจทก์ทำสัญญาจ้างจำเลยที่ 1 เป็นผู้ช่วยผู้จัดการและหน้าที่อื่น ๆตามที่คณะกรรมการดำเนินการจะมอบหมายโดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ทำสัญญาค้ำประกัน ดังนั้นการที่คณะกรรมการดำเนินการของโจทก์ปรับปรุงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการเป็นตำแหน่งผู้จัดการ และมอบหมายให้จำเลยที่ 1ทำงานในตำแหน่งที่ปรับปรุง จึงเป็นการกระทำตามที่จำเลยที่ 1 ได้ให้ไว้ตามสัญญา ซึ่งจำเลยที่ 2 ยอมตนเข้าทำสัญญาค้ำประกันไว้นั่นเอง กรณีจึงไม่จำต้องแจ้งให้จำเลยที่ 2 ทราบ หรือขอให้จำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันงานในหน้าที่ใหม่ ของจำเลยที่ 1 เสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2060/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำนอกเหนือขอบเขตการจ้าง: การกระทำความผิดทางอาญาเพื่อปกปิดความผิดเดิม
บุตรโจทก์มิได้ถึงแก่ความตายเพราะจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ชนในขณะกระทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 แต่ถึงแก่ความตายเพราะเมื่อชนแล้วจำเลยที่ 1 โดยเจตนาฆ่าบุตรโจทก์เพื่อปกปิดความผิด ได้นำบุตรโจทก์ไปทิ้งในคูน้ำริมถนนเพื่อให้จมน้ำตายการกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นคนละเรื่องคนละตอนกับที่จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ชนบุตรโจทก์และเห็นได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของจำเลยที่ 1 โดยเฉพาะเจาะจงหาเกี่ยวกับการที่จำเลยที่ 2 ได้จ้างให้จำเลยที่ 1 กระทำไม่ การกระทำของจำเลยที่ 1 ในการฆ่าบุตรโจทก์จึงไม่เป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2060/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำนอกเหนือขอบเขตการจ้างของลูกจ้าง แม้เกิดจากเหตุละเมิดก่อนหน้า
บุตรโจทก์มิได้ถึงแก่ความตายเพราะจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ชนในขณะกระทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2แต่ถึงแก่ความตายเพราะเมื่อชนแล้วจำเลยที่ 1 โดยเจตนาฆ่าบุตรโจทก์เพื่อปกปิดความผิด ได้นำบุตรโจทก์ไปทิ้งในคูน้ำริมถนนเพื่อให้จมน้ำตายการกระทำของจำเลยที่ 1จึงเป็นคนละเรื่องคนละตอนกับที่จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ชนบุตรโจทก์และเห็นได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของจำเลยที่ 1 โดยเฉพาะเจาะจงหาเกี่ยวกับการที่จำเลยที่ 2 ได้จ้างให้จำเลยที่ 1 กระทำไม่ การกระทำของจำเลยที่ 1 ในการฆ่าบุตรโจทก์จึงไม่เป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2052/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบงานล่าช้า, การยอมรับมอบงานโดยไม่มีข้อโต้แย้ง, และผลกระทบต่อการลดหย่อนค่าจ้างตามสัญญา
ฟ้องแย้งมีทุนทรัพย์ 29,500 บาทศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นต้องห้ามมิให้ฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
โจทก์ส่งมอบงานเกินกำหนดเวลาตามสัญญาและจำเลยยอมรับมอบงานจากโจทก์โดยมิได้อิดเอื้อน โจทก์จึงไม่ต้องรับผิดเพื่อการส่งมอบที่เนิ่นช้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 597
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 596 ให้ถือเอาการส่งมอบการงานเป็นการทำงานเสร็จสิ้น การขนย้ายปั้นจั่นล่าช้าของโจทก์เกิดขึ้นภายหลังการส่งมอบการงานเสร็จสิ้นแล้วจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก ไม่ใช่เหตุแห่งการส่งมอบงานที่เนิ่นช้าซึ่งจะเป็นเหตุให้ลดสินจ้างได้
โจทก์ส่งมอบงานเกินกำหนดเวลาตามสัญญาและจำเลยยอมรับมอบงานจากโจทก์โดยมิได้อิดเอื้อน โจทก์จึงไม่ต้องรับผิดเพื่อการส่งมอบที่เนิ่นช้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 597
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 596 ให้ถือเอาการส่งมอบการงานเป็นการทำงานเสร็จสิ้น การขนย้ายปั้นจั่นล่าช้าของโจทก์เกิดขึ้นภายหลังการส่งมอบการงานเสร็จสิ้นแล้วจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก ไม่ใช่เหตุแห่งการส่งมอบงานที่เนิ่นช้าซึ่งจะเป็นเหตุให้ลดสินจ้างได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1991/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งการครอบครองที่ดิน: จำเลยต้องพิสูจน์การครอบครองก่อนฟ้องเกิน 1 ปี เพื่ออ้างสิทธิ
การได้มาซึ่งการครอบครองที่ดินมือเปล่าโดย แย่งการครอบครองนั้น จำเลยมีหน้าที่นำสืบว่า จำเลยได้ครอบครองที่พิพาทก่อนโจทก์ฟ้อง เกินกว่า 1 ปีแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สละมรดกบางส่วนและสัญญาแบ่งปันมรดก: ผลผูกพันตามกฎหมาย
แม้เอกสารที่โจทก์ทำจะมิใช่เอกสารสละมรดกตามความหมายของมาตรา 1612 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะได้ความว่าทรัพย์มรดกที่โจทก์มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งในฐานะทายาทนอกจากที่ระบุไว้ในเอกสารนั้นแล้ว ยังมีทรัพย์อื่นอีกและการสละมรดกจะทำแต่เพียงบางส่วนไม่ได้ตามมาตรา 1613แต่เอกสารดังกล่าวก็เป็นหลักฐานแห่งสัญญาแบ่งปันมรดกซึ่งโจทก์ลงลายพิมพ์นิ้วมือให้ไว้กับจำเลยว่า โจทก์เป็นทายาทของเจ้ามรดก มีสิทธิได้รับมรดกแต่โจทก์ไม่พึงปรารถนาที่จะรับโอนมรดก โดยตกลงยินยอมให้จำเลยซึ่งเป็นบุตรของเจ้ามรดกเป็นผู้รับโอนย่อมมีผลบังคับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850,852 และ 1750โจทก์เรียกร้องทรัพย์มรดกส่วนนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1955/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารติดบัญชีหนี้สินไม่ใช่หลักฐานการกู้ยืม ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 653
ข้อความในเอกสารเป็นแต่เพียงการคิดบัญชีแสดงหนี้สิน ที่มีอยู่ต่อกันระหว่างโจทก์กับ ส. ผู้ตาย และเป็นหนังสือนำส่งเช็คซึ่ง ส. ออกสั่งจ่ายเงินเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ตามที่ เป็นหนี้กันอยู่ และที่ขอแลกเงินสดจากโจทก์ไปอีกเท่านั้น หามีข้อความตอนใดแสดงว่า ส. ได้กู้ยืมเงินโจทก์ไม่ เอกสารดังกล่าวจึงไม่ใช่หนังสืออันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืม คดีโจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องบังคับคดีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1938/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ที่ดินขายฝาก: การชำระหนี้ไม่ครบถ้วนและการขยายกำหนดเวลาไถ่เป็นโมฆะ
ในวันครบกำหนดสัญญา โจทก์นำเงินไปชำระแก่จำเลยเป็นการไถ่ที่ดิน แต่เป็นการชำระหนี้บางส่วนไม่ถูกต้องตามสัญญา และจำเลยไม่ยอมรับ ถือไม่ได้ว่าเป็นการใช้สิทธิไถ่ภายในกำหนดสัญญา การที่จำเลยยินยอมจะให้โจทก์ไถ่ที่ดินคืนหลังจากพ้นกำหนดไถ่ ก็หาใช่เป็นคำมั่นว่าจำเลยจะขายที่ดินคืนให้แก่โจทก์ไม่ แต่เป็นการตกลงขยายกำหนดเวลาไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝาก ซึ่งขัดต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496 เป็นโมฆะ โจทก์จะขอให้บังคับโอนที่ดิน ที่ขายฝากคืนแก่โจทก์หาได้ไม่