คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุวัฒน์ รัตรสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 605 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3035/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเว้นการจับกุมผู้บุกรุกและการแจ้งความเท็จ ผู้เสียหายต้องพิสูจน์ความเสียหายโดยตรง
เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ตามที่โจทก์กล่าวมาในฟ้องทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแต่ประการใด การที่จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการจับกุมผู้บุกรุกที่สาธารณะ จึงมิใช่เป็นการกระทำเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โจทก์จึงมิใช่เป็นผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3035/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเสียหายโดยตรงจากการละเว้นการจับกุมและการแจ้งความเท็จ ผู้เสียหายต้องมีความเสียหายโดยตรงจากการกระทำ
เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ตามที่โจทก์กล่าวมาในฟ้องทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแต่ประการใด การที่จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการจับกุมผู้บุกรุกที่สาธารณะ จึงมิใช่เป็นการกระทำเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โจทก์จึงมิใช่เป็นผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2980/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าววาจาหยาบคายระหว่างพี่น้อง ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาทหรือเนรคุณ
จำเลยเป็นพี่โจทก์ โจทก์จำเลยโต้เถียงกันเนื่องจากโจทก์เรียกให้จำเลยโอนที่ดินที่โอนให้จำเลยแล้วคืน จำเลยจึงกล่าวว่า มึงยกให้กูแล้วมึงยังมีหน้ามาบอกให้กูแบ่งให้คนอื่นหรือ อ้ายสัตว์อ้ายขี้โกง โคตรพ่อโคตรแม่มึงเป็นเช่นนี้หรือ อ้ายคอมมิวนิสต์ใหญ่ มึงอยากได้ให้มึงไปฟ้องเอา ดังนี้ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวเป็นแต่เพียงการกล่าววาจาหยาบคายเท่านั้นเอง ความหมายและน้ำหนักของถ้อยคำดังกล่าวหาเป็นการทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2980/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าวคำหยาบคายระหว่างพี่น้องไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง ไม่ถือเป็นเหตุเพิกถอนการให้
จำเลยเป็นที่โจทก์ โจทก์จำเลยโต้เถียงกันเนื่องจากโจทก์เรียกให้จำเลยโอนที่ดินที่โอนให้จำเลยแล้วคืน จำเลยจึงกล่าวว่า มึงยกให้กูแล้ว มึงยังมีหน้ามาบอกให้กูแบ่งให้คนอื่นหรือ อ้ายสัตว์ อ้ายขี้โกง โคตรพ่อโคตรแม่มึงเป็นเช่นนี้หรือ อ้ายคอมมิวนิสต์ใหญ่ มึงอย่างได้ให้มึงไปฟ้องเอา ดังนี้ ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวเป็นแต่เพียงการกล่าววาจาหยาบคายเท่านั้นเอง ความหมายและน้ำหนักของถ้อยคำดังกล่าวหาเป็นการกระทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 (2) ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2976/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายของบุตรนอกกฎหมายที่ผู้ตายรับรอง
โจทก์ในฐานะมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ซึ่งเป็นบุตรนอกกฎหมายที่ผู้ตายได้รับรองแล้ว มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายกรณีที่รถของผู้ตายถูกรถจำเลยชนแทนผู้เยาว์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2789/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเลื่อนคดีเนื่องจากเจ็บป่วย/ถอนทนาย และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องว่าตัวโจทก์ป่วยและทนายโจทก์มีความคิดเห็นในการดำเนินคดีขัดแย้งกับตัวโจทก์ หากดำเนินคดีให้แก่ตัวโจทก์ต่อไปจะเกิดความเสียหายได้ ทนายโจทก์จึงขอถอนตัวจากคดี คำร้องดังกล่าวแม้จะไม่มีข้อความขอเลื่อนคดี ก็เท่ากับเป็นการขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว ศาลชั้นต้น สั่งให้ทนายโจทก์ส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์ทราบก่อน แล้วศาล จะได้สั่งคำร้องในภายหลัง ศาลชั้นต้นจึงชอบที่ จะดำเนิน กระบวนพิจารณาในเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 65 เสียก่อน ทั้งใน วันนั้นทนายจำเลยก็ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก เพราะ ความเจ็บป่วย ซึ่งศาลควรจะต้องสั่งเลื่อนคดีตาม มาตรา 40 อยู่แล้ว ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์และนัดสืบพยานจำเลยต่อไปจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2) แม้โจทก์จะมิได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นไว้ คดีก็ไม่ ต้องห้าม อุทธรณ์ฎีกา และเป็นกรณีแตกต่างกับการที่ ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจ สั่งให้เลื่อนหรือไม่ให้เลื่อนคดี ซึ่งคู่ความที่จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่ง ระหว่างพิจารณาดังกล่าวจะต้องโต้แย้งคำสั่งศาลไว้จึงจะมีสิทธิ อุทธรณ์ฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2739/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบทรัพย์เพื่อขายและการผิดสัญญา ไม่เข้าข่ายยักยอก
โจทก์ร่วมกับจำเลยตกลงกันให้จำเลยเอาแหวนเพชรของโจทก์ร่วมจำนวน 6 วงราคารวม 216,000 บาทไปขาย ภายในเงื่อนไขว่าจำเลยจะขายในราคาเท่าใดเป็นเรื่องของจำเลย เพียงแต่ว่าภายในเวลาที่กำหนดกันไว้ จำเลยจะต้องนำเงินค่าแหวนแต่ละวงดังกล่าวมาชำระให้โจทก์ร่วม ถ้าขายไม่ได้ให้จำเลยนำแหวนที่เหลือมาคืน ดังนี้ เห็นได้ว่าเมื่อได้รับมอบแหวนไปแล้ว จำเลยจะขายแหวนเหล่านั้นในราคาเท่าใดก็ได้ เพียงแต่จำเลยจะต้องนำเงินมาชำระให้โจทก์ร่วมตามจำนวนที่โจทก์ร่วมตกลงไว้กับจำเลยเท่านั้น หากจำเลยไม่นำเงินมาชำระให้โจทก์ร่วมก็เป็นเพียงการผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้ ซึ่งโจทก์ร่วมมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวได้ คดีไม่มีมูลเป็นความผิดทางอาญาฐานยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2739/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายตกลงกันเองและการผิดสัญญา ไม่เข้าข่ายความผิดทางอาญาฐานยักยอก
โจทก์ร่วมกับจำเลยตกลงกันให้จำเลยเอาแหวนเพชรของโจทก์ร่วมจำนวน 6 วง ราคารวม 216,000 บาทไปขาย ภายในเงื่อนไขว่าจำเลยจะขายในราคาเท่าใดเป็นเรื่องของจำเลย เพียงแต่ว่าภายในเวลาที่กำหนดกันไว้ จำเลยจะต้องนำเงินค่าแหวนแต่ละวงดังกล่าวมาชำระให้โจทก์ร่วม ถ้าขายไม่ได้ให้จำเลยนำแหวนที่เหลือมาคืน ดังนี้ เห็นได้ว่าเมื่อได้รับมอบแหวนไปแล้ว จำเลยจะขายแหวนเหล่านั้นในราคาเท่าใดก็ได้ เพียงแต่จำเลยจะต้องนำเงินมาชำระให้โจทก์ร่วมตามจำนวนที่โจทก์ร่วมตกลงไว้กับจำเลยเท่านั้น หากจำเลยไม่นำเงินมาชำระให้โจทก์ร่วมก็เป็นเพียงการผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้ ซึ่งโจทก์ร่วมมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวได้ คดีไม่มีมูลเป็นความผิดทางอาญาฐานยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2680/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีขับไล่จากหนังสือมอบอำนาจทั่วไป: หนังสือมอบอำนาจครอบคลุมการแต่งตั้งทนายความฟ้องขับไล่ ย่อมมีอำนาจฟ้องได้
หนังสือมอบอำนาจมีความว่า โจทก์มอบอำนาจให้ ส.แต่งทนายความฟ้องขับไล่บรรดาผู้อาศัย ผู้เช่าเดิม และผู้ครอบครองที่ดินตามโฉนดเลขที่ระบุไว้ซึ่งบริษัทโจทก์เช่ามาได้ เมื่อจำเลยเป็นผู้หนึ่งซึ่งเช่าและครอบครองส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดนี้อยู่ ส.ย่อมมีอำนาจตามใบมอบอำนาจดังกล่าวที่จะลงชื่อในใบแต่งทนายความในนามบริษัทโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยได้
การที่ปรากฏในใบมอบอำนาจนั้นว่า ได้มีการมอบอำนาจอื่นๆ อีกหลายอย่างและปิดอากรแสตมป์มา 10 บาท ไม่ทำให้การมอบอำนาจที่บริษัทโจทก์มอบไว้ดังกล่าวมาในตอนต้นเสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2680/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจฟ้องขับไล่ชอบด้วยกฎหมาย แม้มีข้อความอื่นประกอบ และปิดอากรแสตมป์ไม่ครบ
หนังสือมอบอำนาจมีความว่า โจทก์มอบอำนาจให้ ส. แต่งทนายความฟ้องขับไล่บรรดาผู้อาศัย ผู้เช่าเดิม และผู้ครอบครองที่ดินตามโฉนดเลขที่ระบุไว้ซึ่งบริษัทโจทก์เช่ามาได้เมื่อจำเลยเป็นผู้หนึ่งซึ่งเช่าและครอบครองส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดนี้อยู่ ส. ย่อมมีอำนาจตามใบมอบอำนาจดังกล่าวที่จะลงชื่อในใบแต่งทนายความในนามบริษัทโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยได้
การที่ปรากฏในใบมอบอำนาจนั้นว่า ได้มีการมอบอำนาจอื่นๆ อีกหลายอย่าง และปิดอากรแสตมป์มา 10 บาท ไม่ทำให้การมอบอำนาจที่บริษัทโจทก์มอบไว้ดังกล่าวมาในตอนต้นเสียไป
of 61