คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุวัฒน์ รัตรสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 605 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2327/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีเงินทดแทนต้องวางเงินตามคำสั่งก่อน หากไม่วางเงิน ศาลไม่รับฟ้อง
การที่โจทก์จะนำคดีมาสู่ศาลในกรณีที่อธิบดีกรมแรงงานมีคำสั่งอุทธรณ์เงินทดแทนให้โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างจ่ายเงินทดแทนให้แก่ผู้ยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนนั้นตามข้อ 60 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 โจทก์จะต้องวางเงินต่อศาลเป็นจำนวนตามคำสั่งของอธิบดีกรมแรงงาน จึงจะฟ้องคดีได้ ถ้าปรากฏว่าโจทก์มิได้วางเงินดังกล่าวต่อศาลโจทก์ก็นำคดีมาสู่ศาลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2226/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการแจ้งเจ้าของกรรมสิทธิ์: เจ้าหนี้บังคับคดีเฉพาะทรัพย์สินลูกหนี้รายเดียว ไม่ต้องแจ้งอีกราย
จำเลยทั้งสองเป็นลูกหนี้ร่วมของโจทก์ตามคำพิพากษาแล้วไม่ชำระหนี้โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยที่ 2 ออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาเช่นนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่จำต้องแจ้งการยึดหรือแจ้งประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดแก่จำเลยที่ 1 เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งการยึดแก่จำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และเจ้าพนักงานที่ดินตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 304 แล้วการยึดทรัพย์รายนี้จึงถูกต้องตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกัน - การผิดสัญญาต้องมีเจตนา การเจ็บป่วยเป็นเหตุจำเป็นที่สมควร
แม้สัญญาประกันที่ทำไว้ต่อศาลจะระบุไว้ว่านายประกันหรือจำเลยจะปฏิบัติตามนัดของศาลหากผิดสัญญาศาลมีอำนาจบังคับให้นายประกันใช้เบี้ยปรับเต็มตามจำนวนในสัญญาก็ตามแต่การที่จะถือว่านายประกันหรือจำเลยผิดสัญญานั้น จะต้องได้ความว่านายประกันหรือจำเลยจงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามนัดหาใช่ว่าเมื่อจำเลยไม่มาศาลตามที่ศาลนัดไม่ว่าเพราะมีความจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงหรือมีอุปสรรคขัดข้องสักเท่าใดก็ต้องถือว่านายประกันผิดสัญญาไปทั้งนั้น
การเจ็บป่วยเป็นเหตุจำเป็นที่มิอาจก้าวล่วงได้ประการหนึ่งที่มีเหตุผลเพียงพอที่จำเลยจะขอเลื่อนคดีเพราะไม่สามารถมาศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2152/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวฟ้องซ้ำ: ศาลมีอำนาจยกฟ้องแม้จำเลยไม่ฎีกา หากการกระทำเป็นกรรมเดียวกับคดีก่อน
การกระทำที่จำเลยถูกฟ้องในคดีนี้เป็นกรรมเดียวกับความผิดในอีกคดีหนึ่งจำเลยได้ถูกฟ้องไว้ก่อนแล้วโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้ศาลลงโทษจำเลยซ้ำอีกได้ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะไม่ฎีกาขึ้นมา เมื่อศาลเห็นว่ามีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยไม่ควรต้องรับโทษ ศาลก็มีอำนาจยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2024/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการลงโทษในคดีหลายกระทง ต้องพิจารณาโทษแต่ละกระทง ไม่รวมโทษทั้งหมด
ในกรณีที่จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน โจทก์ย่อม มีอำนาจแยกฟ้องจำเลยแต่ละคดีเป็นรายกระทงความผิด การวินิจฉัย อัตราโทษว่าจะรอการลงโทษได้หรือไม่ จำต้องวินิจฉัยอัตราโทษที่ศาลลงในแต่ละกระทงความผิด จะรวมโทษทุกกระทงความผิดในคดีนั้น มาเป็นเกณฑ์วินิจฉัยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2024/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการลงโทษในความผิดหลายกระทง ต้องพิจารณาโทษแต่ละกระทง ไม่รวมโทษทั้งหมด
ในกรณีที่จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน โจทก์ย่อมมีอำนาจแยกฟ้องจำเลยแต่ละคดีเป็นรายกระทงความผิด การวินิจฉัยอัตราโทษว่าจะรอการลงโทษได้หรือไม่ จำต้องวินิจฉัยอัตราโทษที่ศาลลงในแต่ละกระทงความผิด จะรวมโทษทุกกระทงความผิดในคดีนั้นมาเป็นเกณฑ์วินิจฉัยได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1919/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ครอบครองทรัพย์อันตราย (ไฟฟ้า) และขอบเขตความรับผิดของผู้ดูแลทรัพย์
จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นสามีภริยากันเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุซึ่งจำเลยขึงสายทองแดงเปลือยปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้รอบบ้าน แล้วไม่ดูแลให้สายไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ในสภาพเรียบร้อยเป็นเหตุให้สายไฟฟ้าตกลงมาพาดรั้ว ผู้ตายไปยืนปัสสาวะริมรั้วจึงถูกกระแสไฟฟ้าดูดถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยได้ชื่อว่าเป็นผู้ครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพ จะต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่ไฟฟ้านั้น ส่วนจำเลยที่ 3 เป็นแต่เพียงผู้ดูแลบ้านเท่านั้น แม้จะเป็นผู้ว่าจ้างให้ช่างไฟฟ้ามาเดินสายไฟดังกล่าวก็ไม่ใช่ผู้ครอบครองไฟฟ้านั้น จึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1919/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ครอบครองทรัพย์อันตราย (ไฟฟ้า) และขอบเขตความรับผิดของผู้ดูแลบ้าน
จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นสามีภริยากันเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งจำเลยขึงสายทองแดงเปลือยปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้รอบบ้าน แล้วไม่ดูแลให้สายไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ในสภาพเรียบร้อยเป็นเหตุให้สายไฟฟ้าตกลงมาพาดรั้ว ผู้ตายไปยืนปัสสาวะริมรั้วจึงถูกกระแสไฟฟ้าดูดถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยได้ชื่อว่า เป็นผู้ครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพ จะต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่ไฟฟ้านั้น ส่วนจำเลยที่ 3 เป็นแต่เพียงผู้ดูแลบ้านเท่านั้น แม้จะเป็นผู้ว่าจ้างให้ช่างไฟฟ้ามาเดินสายไฟดังกล่าวก็ไม่ใช่ผู้ครอบครองไฟฟ้านั้น จึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1868/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ให้เช่าที่ดินติดตั้งป้าย ไม่ใช่ผู้เสียภาษีป้าย หากไม่ได้เป็นผู้ครอบครองป้าย แม้จะถูกเปรียบเทียบปรับ
การอุทธรณ์การประเมินตามพระราชบัญญัติ ภาษีป้าย ฯมาตรา 30 นั้นใช้บังคับเฉพาะผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายที่เห็นว่าการประเมินไม่ถูกต้องเมื่อจำเลยให้เช่าที่ดินที่ป้ายโฆษณาติดตั้งอยู่เสียแล้วจำเลยก็ไม่ใช่ผู้ครอบครองป้ายไม่มีหน้าที่เสียภาษีป้ายก็ไม่มีเหตุที่จำเลยจะอุทธรณ์การประเมินแม้จำเลยจะรับสารภาพให้พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับในข้อหาจงใจไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายก็ไม่เป็นเหตุให้ฟังว่าจำเลยเป็นผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831-1832/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดเดียวกัน: ขนย้ายข้าวสารเหนียมออกนอกเขตห้าม แม้ใช้รถหลายคัน
จำเลยต้องการขนย้ายข้าวสารเหนียมออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าว จึงว่าจ้างรถบรรทุก 2 คัน บรรทุกข้าวดังกล่าวคนละ 100 กระสอบ แล้วจำเลยขับรถของจำเลยนำหน้ารถบรรทุกทั้งสองคันไป การกระทำผิดของจำเลยเป็นการขนย้ายข้าวสารเหนียม 200 กระสอบ ออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าวในครั้งเดียวกัน แม้จะบรรทุกไปในรถบรรทุก 2 คัน ๆ ละ 100 กระสอบ และคนขับรถบรรทุกคันนั้น จะได้สมคบกันหรือไม่ก็ตาม ต้องถือว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว มิใช่ว่าจะต้องแยกการกระทำของจำเลยไปตามจำนวนรถที่ขนย้ายข้าวหรือตามจำนวนคนขับรถซึ่งขับรถเหล่านั้น
of 61