พบผลลัพธ์ทั้งหมด 605 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีครอบครองลูกระเบิดขว้างของทหารพราน: โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าไม่ได้มอบให้จำเลย
โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าทางราชการทหารไม่ได้มอบลูกระเบิดขว้างแบบเอ็ม 67 ของกลางให้จำเลยทหารพรานโจทก์จะอาศัยเหตุที่ว่าลูกระเบิดขว้างที่ทางราชการมอบให้เป็นแบบเอ็ม 26 มาเป็นข้อสันนิษฐานให้เป็นผลร้ายลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน มาตรา 5 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงวันที่เช็คโดยผู้ทรง และอายุความฟ้องร้องตั๋วเงิน
จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้เงินกู้ให้แก่ ค.โดยไม่ได้ลงวันที่ออกเช็คต่อมาจำเลยยอมให้ ค. ลงวันที่ในเช็คตามที่จำเลยบอก แล้ว ค.นำเช็คพิพาทไปชำระหนี้แก่โจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินจากธนาคาร ดังนี้ ถือไม่ได้ว่า ค. สมคบกับโจทก์ฉ้อฉลจำเลย
การที่จำเลยยอมให้ ค.ลงวันที่ในเช็คตามวันที่ที่จำเลยบอก ย่อมถือได้ว่าวันที่ที่ลงในเช็คดังกล่าวเป็นวันที่ถูกต้องแท้จริง เพราะ ค. ซึ่งเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายในขณะนั้น ย่อมมีสิทธิที่จะลงวันที่ที่ถูกต้องแท้จริงได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910, 989 ถือได้ว่าเช็คพิพาทได้ลงวันออกเช็คถูกต้องแล้ว
วันกำหนดชำระเงินตามเช็คก็คือวันที่ลงในเช็ค เมื่อโจทก์ฟ้องคดีไม่เกินหนึ่งปีแต่วันที่ลงในเช็ค คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
การที่จำเลยยอมให้ ค.ลงวันที่ในเช็คตามวันที่ที่จำเลยบอก ย่อมถือได้ว่าวันที่ที่ลงในเช็คดังกล่าวเป็นวันที่ถูกต้องแท้จริง เพราะ ค. ซึ่งเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายในขณะนั้น ย่อมมีสิทธิที่จะลงวันที่ที่ถูกต้องแท้จริงได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910, 989 ถือได้ว่าเช็คพิพาทได้ลงวันออกเช็คถูกต้องแล้ว
วันกำหนดชำระเงินตามเช็คก็คือวันที่ลงในเช็ค เมื่อโจทก์ฟ้องคดีไม่เกินหนึ่งปีแต่วันที่ลงในเช็ค คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงวันที่เช็คโดยผู้ทรงสิทธิและอายุความฟ้องร้องตั๋วเงิน
จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้เงินกู้ให้แก่ ค. โดยไม่ได้ลงวันที่ออกเช็ค ต่อมาจำเลยยอมให้ ค. ลงวันที่ในเช็คตามที่จำเลยบอก แล้ว ค. นำเช็คพิพาทไปชำระหนี้แก่โจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินจากธนาคารดังนี้ ถือไม่ได้ว่า ค.สมคบกับโจทก์ฉ้อฉลจำเลย
การที่จำเลยยอมให้ ค. ลงวันที่ในเช็คตามวันที่ที่จำเลยบอก ย่อมถือได้ว่าวันที่ที่ลงในเช็คดังกล่าวเป็นวันที่ถูกต้องแท้จริงเพราะ ค. ซึ่งเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายในขณะนั้น ย่อมมีสิทธิที่จะลงวันที่ที่ถูกต้องแท้จริงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 910, 989 ถือได้ว่าเช็คพิพาทได้ลงวันออกเช็คถูกต้องแล้ว
วันกำหนดชำระเงินตามเช็คก็คือวันที่ลงในเช็ค เมื่อโจทก์ฟ้องคดีไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่ลงในเช็ค คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
การที่จำเลยยอมให้ ค. ลงวันที่ในเช็คตามวันที่ที่จำเลยบอก ย่อมถือได้ว่าวันที่ที่ลงในเช็คดังกล่าวเป็นวันที่ถูกต้องแท้จริงเพราะ ค. ซึ่งเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายในขณะนั้น ย่อมมีสิทธิที่จะลงวันที่ที่ถูกต้องแท้จริงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 910, 989 ถือได้ว่าเช็คพิพาทได้ลงวันออกเช็คถูกต้องแล้ว
วันกำหนดชำระเงินตามเช็คก็คือวันที่ลงในเช็ค เมื่อโจทก์ฟ้องคดีไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่ลงในเช็ค คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1397/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงยอมรับความรับผิดค่าเสียหายยุติประเด็นความประมาท
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 ขับรถยนต์โดยประมาทชนรถโจทก์เสียหายปรากฏว่า กรณีเดียวกันนี้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ถูกอัยการฟ้องต่อศาลทหารว่า ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้โจทก์กับพวกได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส ศาลทหารพิพากษาลงโทษจำเลยคดีถึงที่สุด แล้วโจทก์จำเลยแถลงศาลและศาลจดรายงานไว้ว่าฝ่ายโจทก์มีส่วนประมาทอยู่ด้วย ตกลงกันให้ฝ่ายโจทก์จำเลยนำหลักฐานมา แสดงจำนวนค่าเสียหายเมื่อหักจำนวนค่าเสียหายของจำเลยจากค่าเสียหายของโจทก์แล้ว เหลือเท่าใด จำเลยยอมใช้เป็นจำนวนค่าเสียหายซึ่งจะต้องรับผิดต่อโจทก์ ดังนี้ ตามที่ศาลจดรายงานดังกล่าว ถือได้ว่าโจทก์จำเลยตกลงสละประเด็นข้อพิพาทข้ออื่น ๆ โดยเฉพาะข้อที่ว่าเหตุเกิดเพราะความประมาทของฝ่ายใดเสียแล้ว ข้อเท็จจริงที่ว่าฝ่ายใดประมาทจึงยุติคงมีประเด็นเรื่องค่าเสียหายตามข้อตกลงของคู่ความเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ถูกสงวนไว้เพื่อสร้างโรงเรียน แม้โจทก์ครอบครองและมี น.ส.3ก. ก็ใช้สิทธิยันจำเลยร่วมไม่ได้
ที่ดินที่ทางราชการสงวนไว้เพื่อสร้างโรงเรียนระดับประถมศึกษาโดยครูใหญ่เป็นผู้จับจองไว้ และต่อมาได้แจ้งการครอบครองตามแบบ ส.ค.1ในนามของศึกษาธิการอำเภอ ขณะนั้นโรงเรียนระดับประถมศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาได้โอนมาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์จำเลยร่วม จำเลยร่วมได้สร้างโรงเรียนในที่ดินดังกล่าวด้านทิศตะวันตก ส่วนทางด้านทิศตะวันออกอันเป็นที่ดินพิพาทเคยให้โจทก์เช่า ดังนี้ ที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่ทางราชการคือจำเลยร่วมสงวนไว้สำหรับสร้างโรงเรียน เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304 (3) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2798-2799/2523)
เมื่อที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้โจทก์จะครอบครองมาและได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วก็ไม่ได้สิทธิครอบครองและใช้ยันจำเลยร่วมไม่ได้
เมื่อที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้โจทก์จะครอบครองมาและได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วก็ไม่ได้สิทธิครอบครองและใช้ยันจำเลยร่วมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน: สิทธิครอบครองของเอกชนไม่มีผลยันรัฐ
ที่ดินที่ทางราชการสงวนไว้เพื่อสร้างโรงเรียนระดับประถมศึกษาโดยครูใหญ่เป็นผู้จับจองไว้ และต่อมาได้แจ้งการครอบครองตามแบบ ส.ค.1 ในนามของศึกษาธิการอำเภอ ขณะนั้นโรงเรียนระดับประถมศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาได้โอนมาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์จำเลยร่วม จำเลยร่วมได้สร้างโรงเรียนในที่ดินดังกล่าวด้านทิศตะวันตก ส่วนทางด้านทิศตะวันออกอันเป็นที่ดินพิพาทเคยให้โจทก์เช่า ดังนี้ ที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่ทางราชการคือจำเลยร่วมสงวนไว้สำหรับสร้างโรงเรียน เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304(3) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2798-2799/2523)
เมื่อที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้โจทก์จะครอบครองมาและได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วก็ไม่ได้สิทธิครอบครองและใช้ยันจำเลยร่วมไม่ได้
เมื่อที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้โจทก์จะครอบครองมาและได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วก็ไม่ได้สิทธิครอบครองและใช้ยันจำเลยร่วมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1103/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญาเช็ค: จำเป็นต้องระบุวันปฏิเสธการจ่ายเงิน
ฟ้องในความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ระบุแต่วันเวลาที่จำเลยเขียนเช็ค และวันที่ลงในเช็คหรือออกเช็คไม่ได้ระบุวันเวลาที่โจทก์นำเช็คไปขึ้นเงิน และธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็คเพียงแต่บรรยายว่าครั้นเช็คถึงกำหนดชำระผู้เสียหายได้นำเช็คไปเข้าบัญชีที่ธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้งไม่ได้แนบเช็คและใบคืนเช็คมาพร้อมฟ้องดังนี้ เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการกระทำผิด ไม่ถือเป็นของกลางที่ต้องริบ
จำเลยขี่รถจักรยานยนต์พา ข. นั่งซ้อนท้ายไปยิงผู้เสียหายโดย ข. เป็นผู้ยิง แต่กระสุนปืนไม่ถูกผู้เสียหาย ดังนี้รถจักรยานยนต์ไม่ใช่ของที่ใช้ร่วมในการกระทำผิดแต่เป็นเพียงพาหนะที่ใช้ในการไปมาเท่านั้น จึงไม่ใช่ของกลางที่จะพึงริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1073/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการกระทำผิด แต่ไม่ได้ใช้ในการกระทำผิดโดยตรง
จำเลยขี่รถจักรยานยนต์พา ข. นั่งซ้อนท้ายไปยิงผู้เสียหายโดย ข. เป็นผู้ยิง แต่กระสุนปืนไม่ถูกผู้เสียหาย ดังนี้รถจักรยานยนต์ไม่ใช่ของที่ใช้ร่วมในการกระทำผิดแต่เป็นเพียงพาหนะที่ใช้ในการไปมาเท่านั้น จึงไม่ใช่ของกลาง ที่จะพึงริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่โต้แย้งคำสั่งศาลทันที ทำให้คำสั่งนั้นมีผลบังคับใช้ และจำเลยไม่สามารถสืบพยานได้
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีพยานของจำเลยก็ดี หรือสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ได้รับบัญชีพยานของจำเลยไว้แล้วก็ดี จำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวนั้นเลยเพิ่งมาโต้แย้งเมื่อศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยดังนี้เป็นการโต้แย้งคำสั่งงดสืบพยานเพื่อผลในการอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226. คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับบัญชีพยานและที่สั่งเพิกถอนคำสั่งรับบัญชีพยานของจำเลยจึงยังคงมีอยู่ ซึ่งมีผลเท่ากับว่าจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีพยานเลย กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้จำเลยนำพยานเข้าสืบได้