คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุวัฒน์ รัตรสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 605 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตสิทธิทำประโยชน์ในนาเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา: สิทธิจำกัดเฉพาะส่วนที่ลงมือทำแล้ว
ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 38 ที่บัญญัติว่า 'ถ้าการบอกเลิกการเช่านาตามมาตรา 35 มาตรา36 หรือมาตรา 37 มีผลเมื่อผู้เช่านาได้ลงมือทำประโยชน์ในนาแล้ว ให้ผู้เช่านามีสิทธิในนานั้นต่อไปจนกว่าจะเสร็จการเก็บเกี่ยวแล้วแต่ต้องเสียค่าเช่านาตามส่วน' นั้นคำว่า 'ในนา' หมายถึงนาเฉพาะส่วนที่ผู้เช่านาได้ลงมือทำประโยชน์ไปแล้วเท่านั้น หาได้หมายความรวมถึงส่วนที่ยังมิได้ลงมือทำประโยชน์ด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประชุมคณะกรรมการอิสลาม: จำนวนกรรมการที่เข้าประชุมต้องเกินกึ่งหนึ่งจึงครบองค์ประชุม คำสั่งถอดถอนไม่สมบูรณ์
ตามข้อบังคับการประชุมและการปรึกษาของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด พ.ศ.2492(ฮ.ศ.1368) ข้อ 20 กำหนดจำนวนกรรมการที่จะเป็นองค์ประชุมไว้ว่ากรรมการมาประชุมเกินกว่ากึ่งหนึ่งจึงนับเป็นองค์ประชุม เมื่อกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานครมีจำนวน15 นายกรรมการต้องมาประชุมอย่างน้อย 8 นาย จึงจะครบเป็นองค์ประชุมการประชุมของคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานครจำนวน 7 นายที่ลงมติถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งอิหม่ามไม่ครบองค์ประชุมจึงไม่มีผลบังคับโจทก์
แม้ข้อบังคับการประชุมฯ จะกำหนดให้ใช้ข้อบังคับนี้นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประธานกรรมการลงนามแล้วเป็นต้นไปและข้อบังคับที่ส่งศาลไม่ได้ระบุวันเดือนปีที่ประกาศไม่ได้ลงชื่อประธานกรรมการคงมีแต่แบบพิมพ์เว้นว่างไว้ก็ตาม แต่ก็เป็นเอกสารที่คู่ความทั้งสองฝ่ายอ้างอิงคู่ความทั้งสองฝ่ายไม่ได้คัดค้านว่าเป็นข้อบังคับที่ไม่มีต้นฉบับหรือว่าต้นฉบับนั้นปลอมทั้งฉบับหรือบางส่วน หรือข้อความที่ลงพิมพ์ไม่ถูกต้องกับต้นฉบับจึงถือได้ว่าข้อบังคับดังกล่าวใช้บังคับแล้วและข้อความที่ลงพิมพ์ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 125

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตออกเช็ค – แก้ไขตัวเลข – ลงชื่อไม่ตรงตัวอย่าง – ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน – ความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
เช็คของจำเลยจะต้องลงชื่อผู้สั่งจ่าย 2 คน แต่จำเลยที่ 2 ลงชื่อสั่งจ่ายเพียงคนเดียว โดยเซ็นทั้งชื่อและนามสกุลไม่ตรงกับตัวอย่างที่ให้ไว้แก่ธนาคารซึ่งมีแต่'ชื่อ' เท่านั้นเป็นเหตุให้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแสดงว่า เมื่อจำเลยที่ 2 ออกเช็คฉบับนี้ จำเลยที่ 2 เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งเกี่ยวกับการดำเนินคดีหมิ่นประมาท: ศาลพิจารณารวมกับคำฟ้องเดิมได้
จำเลยตีพิมพ์ลงข่าวในหนังสือพิมพ์ โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายและฟ้องคดีอาญาอีก 20 กว่าศาลในข้อหาหมิ่นประมาท จำเลยจึงฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในการที่โจทก์ฟ้องคดีอาญาดังกล่าวเป็นเหตุให้จำเลยต้องเสียหายค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีอาญา ดังนี้ ฟ้องแย้งเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำฟ้องเดิมที่สามารถพิจารณาพิพากษารวมกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาในการวินิจฉัยกรณีพรรคการเมืองจำกัดเฉพาะที่กฎหมายบัญญัติไว้ การขอเปลี่ยนภาพเครื่องหมายพรรคการเมืองหลังรับแจ้งเชิญชวนไม่อยู่ในข่าย
พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 ได้กำหนดวิธีการไว้เป็นพิเศษในกรณีที่จะมีผู้นำคดีขึ้นสู่ศาล โดยให้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อทำความเห็นไปยังศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด และได้กำหนดไว้ด้วยว่ากรณีใดที่จะขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดได้ สิทธิในการที่จะยื่นคำร้องดังกล่าวจึงมีอยู่เฉพาะตามที่พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 กำหนดไว้เท่านั้น เมื่อสิทธิของผู้ร้องในการขอเปลี่ยนภาพเครื่องหมายพรรคการเมืองหลังจากนายทะเบียนสั่งรับแจ้งหนังสือเชิญชวนแล้วไม่มีบทมาตราใดกำหนดให้นำคดีขึ้นสู่ศาลได้ผู้ร้องก็ไม่มีอำนาจที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลฎีกาในการวินิจฉัยชี้ขาดกรณีพรรคการเมืองต้องเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติเท่านั้น
พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 ได้กำหนดวิธีการไว้เป็นพิเศษในกรณีที่จะมีผู้นำคดีขึ้นสู่ศาล โดยให้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อทำความเห็นไปยังศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด และได้กำหนดไว้ด้วยว่ากรณีใดที่จะขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดได้ สิทธิในการที่จะยื่นคำร้องดังกล่าวจึงมีอยู่เฉพาะตามที่พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 กำหนดไว้เท่านั้น เมื่อสิทธิของผู้ร้องในการขอเปลี่ยนภาพเครื่องหมายพรรคการเมืองหลังจากนายทะเบียนสั่งรับแจ้งหนังสือเชิญชวนแล้ว ไม่มีบทมาตราใดกำหนดให้นำคดีขึ้นสู่ศาลได้ผู้ร้องก็ไม่มีอำนาจที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: การรับโอนเช็คโดยชอบ และอำนาจศาลในการงดสืบพยานที่ประวิงคดี
ร.และจำเลยที่ 2 นำเช็คพิพาทซึ่งจำเลยทั้งสองเป็นผู้สั่งจ่ายไปแลกเงินสดจากโจทก์ โจทก์ย่อมเป็นผู้รับโอนเช็คพิพาทมาในฐานะผู้รับเงินตามเช็ค จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904
จำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อในเช็ค ซึ่งเป็นตั๋วเงินประเภทหนึ่ง ย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น ตามมาตรา 900
ศาลต้องเลื่อนคดีเพราะพยานจำเลยปากหนึ่งไม่มาศาลถึง 6ครั้ง เนื่องจากพยานไม่เต็มใจมาเบิกความโดยพยานหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับหมาย พยานเคยมีหนังสือแจ้งให้ศาลชั้นต้นทราบว่า พยานไม่เคยเกี่ยวข้องกับจำเลยและไม่ทราบว่าจำเลยจะอ้างเป็นพยานในประเด็นข้อใด แสดงว่าพยานปากนี้อาจจะมิใช่ผู้ที่รู้ข้อเท็จจริงในคดีก็ได้ ทั้งไม่ปรากฏจากคำแถลงหรือข้อนำสืบของจำเลยว่าพยานดังกล่าวเป็นพยานสำคัญเกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีที่จะนำสืบอย่างไรฉะนั้นการที่จะให้ได้ตัวพยานปากนี้มาเบิกความนอกจากจะทำให้คดีต้องล่าช้าแล้ว คำเบิกความของพยานน่าจะไม่เป็นประโยชน์แก่คดีจำเลยแต่อย่างใด พยานดังกล่าวจึงเป็นพยานที่ประวิงให้ชักช้าแม้การที่ไม่ได้ตัวพยานมาเบิกความจะมิใช่ความผิดของจำเลย ศาลก็มีอำนาจที่จะงดสืบพยานเช่นว่านั้นเสียได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับโอนเช็คโดยชอบ ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามตั๋วเงิน และอำนาจศาลในการงดสืบพยานที่ไม่เป็นประโยชน์
ร. และจำเลยที่ 2 นำเช็คพิพาทซึ่งจำเลยทั้งสองเป็นผู้สั่งจ่ายไปแลกเงินสดจากโจทก์ โจทก์ย่อมเป็นผู้รับโอนเช็คพิพาทมาในฐานะผู้รับเงินตามเช็ค จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 904
จำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อในเช็ค ซึ่งเป็นตั๋วเงินประเภทหนึ่ง ย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น ตามมาตรา 900
ศาลต้องเลื่อนคดีเพราะพยานจำเลยปากหนึ่งไม่มาศาลถึง 6 ครั้ง เนื่องจากพยานไม่เต็มใจมาเบิกความโดยพยานหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับหมาย พยานเคยมีหนังสือแจ้งให้ศาลชั้นต้นทราบว่า พยานไม่เคยเกี่ยวข้องกับจำเลยและไม่ทราบว่าจำเลยจะอ้างเป็นพยานในประเด็นข้อใด แสดงว่าพยานปากนี้อาจจะมิใช่ผู้ที่รู้ข้อเท็จจริงในคดีก็ได้ ทั้งไม่ปรากฏจากคำแถลงหรือข้อนำสืบของจำเลยว่าพยานดังกล่าวเป็นพยานสำคัญเกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีที่จะนำสืบอย่างไรฉะนั้นการที่จะให้ได้ตัวพยานปากนี้มาเบิกความนอกจากจะทำให้คดีต้องล่าช้าแล้ว คำเบิกความของพยานน่าจะไม่เป็นประโยชน์แก่คดีจำเลยแต่อย่างใด พยานดังกล่าวจึงเป็นพยานที่ประวิงให้ชักช้าแม้การที่ไม่ได้ตัวพยานมาเบิกความจะมิใช่ความผิดของจำเลย ศาลก็มีอำนาจที่จะงดสืบพยานเช่นว่านั้นเสียได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแย่งมีดทำร้ายร่างกาย: ศาลลดโทษจากเจตนาแทงเป็นความผิดลหุโทษจากการชกต่อย
การที่จำเลยกับผู้เสียหายกอดปล้ำฟัดเหวี่ยงพลิกไปพลิกมาเพื่อแย่งมีดกันนั้น อาจเป็นเหตุให้มีดที่แย่งกันซึ่งเป็นมีดปลายแหลมแทงเข้าไปที่สะบักซ้ายด้านหลังของผู้เสียหายโดยจำเลยไม่มีเจตนาแทงได้ กรณีไม่อาจสันนิษฐานให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยเหตุที่เกิดขึ้นผู้เสียหายเป็นฝ่ายที่ ท้าจำเลยให้ต่อยกันก่อน มีดที่แย่งกันก็เป็นมีดของผู้เสียหายที่ผู้เสียหายหยิบขึ้นมาเพื่อใช้แทงจำเลยก่อนฟังไม่ได้ว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหาย คงฟังได้เพียงว่าจำเลยชกต่อยผู้เสียหาย ซึ่งเป็นความผิดตาม ป.อ. ม.391 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายรายละเอียดสถานที่เกิดเหตุและชนิดยาพิษ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยใช้ยาพิษผสมน้ำเทลงในบ่อปลาของผู้เสียหายและระบุตำบล อำเภอ และจังหวัดที่เกิดเหตุไว้ด้วย เช่นนี้ เป็นฟ้องที่บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 บัญญัติไว้และจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายชนิดของยาพิษด้วย
of 61