คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 162

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 78 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร ความเสียหาย หรือความอาจเสียหายเพียงพอให้ฟ้องสมบูรณ์
ข้อความที่โจทก์ได้บรรยายว่า ในฟ้องในความผิดฐานปลอมหนังสือนั้น เมื่ออ่านแล้วเข้าใจได้ว่า การกระทำของจำเลยกระทำให้โจทก์ต้องเสียหาย หรืออาจเกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้ ซึ่งจำเลยก็เข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องของโจทก์ย่อมสมบูรณ์ โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายทุก ๆ คำจนครบถ้วนตามตัวบทกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีอาญา: การบรรยายฟ้องที่ทำให้เข้าใจถึงความเสียหาย
ข้อความที่โจทก์ได้บรรยายมาในฟ้องในความผิดฐานปลอมหนังสือนั้นเมื่ออ่านแล้วเข้าใจได้ว่า การกระทำของจำเลยกระทำให้โจทก์ต้องเสียหายหรือ อาจเกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้ ทั้งจำเลยก็เข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องของโจทก์ย่อมสมบูรณ์ โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายฟ้องทุกๆ คำจนครบถ้วนตามตัวบทกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิยาม 'เคหะ' ใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: สิ่งปลูกสร้างใช้ประกอบธุรกิจ ไม่ถือเป็นเคหะ แม้มีส่วนที่อยู่อาศัย
'เคหะ' ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489มาตรา 5 นั้น มีความหมายในเบื้องต้นว่า ต้องเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
สิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ถึงประกอบธุรกิจการค้าหรืออุตสาหกรรมด้วย ก็ยังนับว่าเป็น'เคหะ' แต่ถ้าสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประกอบธุรกิจการค้าหรืออุตสาหกรรมซึ่งไม่อยู่ในความหมายของคำว่า 'เคหะ' แล้ว แม้จะใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย ก็ไม่กลับกลายเป็นเคหะขึ้นมาได้
โจทก์เช่าโรงเลื่อยเพื่อเลื่อยไม้จำหน่าย นับว่าเช่าสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่ประกอบธุรกิจการค้าหรืออุตสาหกรรมโดยตรง ไม่ต้องด้วยลักษณะของคำว่า'เคหะ' ตามความในพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าปี 2489

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญาหลังประทับฟ้อง: จำเลยมีสิทธิได้รับการถามคำให้การและทนายก่อนศาลวินิจฉัย
คดีอาญา ศาลประทับฟ้องแล้ว เมื่อโจทก์จำเลยมาต่อหน้าศาล ๆ จะสั่งงดการพิจารณา แล้ววินิจฉัยชี้ขาดคดีเสียทีเดียว โดยมิได้ถามคำให้การจำเลย หรือหาทนายให้จำเลยเสียก่อนนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญาหลังประทับฟ้อง: ศาลต้องถามคำให้การจำเลยก่อนพิพากษา
คดีอาญาศาลประทับฟ้องแล้ว เมื่อโจทก์จำเลยมาต่อหน้าศาล ศาลจะสั่งงดการพิจารณา แล้ววินิจฉัยชี้ขาดคดีเสียทีเดียว โดยมิได้ถามคำให้การจำเลย หรือหาทนายให้จำเลยเสียก่อนนั้น เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 72/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกทรัพย์: การพิจารณาความยินยอมและเจตนาในการถือกรรมสิทธิ์
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยบังอาจถอดสร้อยคอโจทก์ ภายหลังไปขอคืนก็ไม่คืนให้ ขอให้ลงโทษตาม มาตรา 314 ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง แม้โจทก์จะเบิกความว่า โจทก์ไม่ยินยอมให้ถอดอันแสดงว่า โจทก์มิได้มอบหมายทรัพย์นั้นให้ก็ดีก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิเคราะห์พยานต่อไปเพราะถ้าไต่สวนได้ความตามฟ้อง แต่โจทก์อ้างบทผิด ศาลก็ลงโทษตามบทที่ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 72/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอดทรัพย์สินโดยไม่ยินยอมและการพิสูจน์เจตนาเบียดบังทรัพย์
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยบังอาจถอดสร้อยคอโจทก์ ภายหลังไปขอคืนก็ไม่คืนให้ ขอให้ลงโทษตาม ม. 314 ในขั้นไต่สวนมูลฟ้อง แม้โจทก์จะเบิกความว่า โจทก์ไม่ยินยอมให้ถอดอันแสดงว่า โจทก์มิได้มอบหมายทรัพย์นั้นให้ก็ดี ++++เรื่องที่จะต้องพิเคราะห์พะยานต่อไป เพราะถ้าไต่สวนได้ความตามฟ้อง แต่โจทก์อ้างบทผิด ศาลก็ลงโทษตามบทที่ถูกต้องได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 144/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องคดีอาญาไม่ตัดสิทธิ์การไต่สวนมูลฟ้องในคดีแพ่ง
การที่โจทก์ขอให้ศาลไต่สวนพยานที่สืบไว้แล้วในคดีแพ่งและที่จะขอสืบใหม่ว่าคดีของโจทก์มีมูลนั้น ศาลชั้นต้นหาชอบที่จะสั่งงดการไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องเสียไม่
คำพิพากษาในคดีแพ่งย่อมไม่ตัดสิทธิ์โจทก์ที่จะฟ้องคดีอาญาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 144/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จในคดีแพ่งและการฟ้องคดีอาญา: สิทธิในการไต่สวนพยานและมูลความผิด
การที่โจทขอไห้สาลไต่สวนพยานที่สืบไว้แล้วไนคดีแพ่งและที่จะขอสืบไหม่ว่าคดีของโจทมีมูลนั้น สาลชั้นต้นหาชอบที่จะสั่งงดการไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากสายกฟ้องเสียไม่
คำพิพากสาไนคดีแพ่งย่อมไม่ตัดสิทธิโจทที่จะฟ้องคดีอาญาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ชื่อเจ้าทรัพย์หลังเบิกความพยาน: ศาลอนุญาตได้หากไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ชื่อเจ้าทรัพย์ก่อนศาลพิพากษาเมื่อไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบแล้ว ศาลอนุญาตได้ เผื่อได้มีการสอบสวนความตัวเจ้าทรัพย์มาสอบสวน ก็ฟ้องคดีได้
(อ้างฎีกาที่ 102/2482)
of 8