คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 81 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3395/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณรางวัลตาม พ.ร.บ.บำเหน็จปราบปรามผู้กระทำผิด: ราคาของกลางในคำฟ้องหรือราคาขายทอดตลาด
การจ่ายรางวัลร้อยละยี่สิบห้าของราคาของกลางตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 8 นั้น ต้องถือราคาที่โจทก์กล่าวมาในคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3395/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณรางวัลจากของกลางที่ขายทอดตลาด: ให้ใช้ราคาที่ระบุในคำฟ้อง
การจ่ายรางวัลร้อยละยี่สิบห้าของราคาของกลางตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489มาตรา 8 นั้น ต้องถือราคาที่โจทก์กล่าวมาในคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2754/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเรือของกลางและเหตุบรรเทาโทษจากพฤติการณ์มอบตัวในคดีหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร
ข้อเท็จจริงยุติแล้วว่า เรือของกลางมีระวางบรรทุกไม่เกิน250 ตัน ใช้ในการขนยางของกลางที่ยังมิได้เสียค่าภาษี และยางเป็นของที่ต้องจำกัด ศาลสั่งริบเรือของกลางได้ โจทก์หาจำต้องบรรยายฟ้องว่าเรือของกลางมีระวางบรรทุกเท่าใดไม่ เพราะไม่ใช่องค์ประกอบของความผิด
พนักงานศุลกากรยึดเรือและยางของกลางได้โดยไม่มีตัวผู้ต้องหา ไม่มีพยานโจทก์คนใดรู้ตัวผู้กระทำผิด จำเลยเข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานถึง 2 ครั้ง แม้จำเลยให้การต่อสู้คดีตลอดมาก็ถือได้ว่าเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานเป็นเหตุบรรเทาโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ศาลลดโทษให้จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร, สิทธิของเจ้าของทรัพย์สินที่เสียภาษีถูกต้อง, และการติดตามเอาคืนจากผู้ซื้อโดยสุจริต
รถยนต์รายพิพาทผู้นำเข้าเสียอากรนำเข้าถูกต้องแล้ว โจทก์รับประกันภัยไว้ รถคันนี้ถูกคนร้ายลักไป โจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้วรับโอนไว้จากผู้เอาประกันภัย ซึ่งชำระค่าเช่าซื้อรถครบถ้วนแล้ว เจ้าพนักงานศุลกากรของจำเลยจับรถได้ หาว่านำเข้ามาโดยไม่เสียภาษีอากรแล้วขายต่อไป จำเลยสามารถตรวจสอบได้ แต่ไม่ตรวจสอบว่าเป็นรถที่เสียอากรแล้วหรือไม่ เป็นประมาทเลินเล่อทำละเมิดต่อโจทก์พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 25 ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2497 คำว่าสิ่งใด ๆ ที่พึงต้องริบ นำมาใช้แก่รถยนต์ที่เสียอากรแล้วไม่เป็นสิ่งที่พึงริบ ไม่ได้ แม้เกิน 30 วัน โจทก์ก็เรียกคืนได้ จำเลยซื้อรถโดยสุจริต แต่มิใช่จากการขายทอดตลาด ไม่มีสิทธิดีกว่าโจทก์
เอกสารภาพถ่ายหนังสือของสำนักงานทะเบียนว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลไม่มีเจ้าหน้าที่รับรองว่าถูกต้อง แต่มีพยานบุคคลเบิกความว่าโจทก์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จำเลยไม่ได้นำสืบหักล้างฟังได้ว่า โจทก์เป็นนิติบุคคล
กรมธรรม์ประกันภัยมิได้ปิดอากรแสตมป์ แต่คดีนี้มิใช่กรณีบังคับระหว่างผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัย เป็นเรื่องผู้รับประกันภัยรับช่วงสิทธิมาฟ้องคนภายนอก ไม่อยู่ในบังคับต้องมีเอกสารมาแสดงตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 867 คำพยานบุคคลของโจทก์ฟังได้โดยไม่ต้องอาศัยเอกสาร
บริษัทเป็นผู้เอาประกันภัยโดยผู้เช่าซื้อรถเป็นผู้แทน แม้ไม่มีหนังสือตั้งตัวแทนตามมาตรา 798 แต่มิใช่เป็นคดีระหว่างบริษัทกับผู้ทำการแทนว่าผู้ทำการแทนเป็นตัวแทนนำรถยนต์ มาเอาประกันภัยกับโจทก์หรือไม่โจทก์ไม่ต้องมีเอกสารตั้งตัวแทนมาแสดง
ผู้เช่าซื้อชำระราคาครบถ้วนแล้ว ได้กรรมสิทธิ์รถยนต์ที่เช่าซื้อแล้วมอบสิทธิในรถยนต์แก่โจทก์ แม้กรรมการของโจทก์คนเดียวลงลายมือชื่อรับมอบรถ กรรมการไม่ครบ 2 คนตามข้อบังคับ และไม่ปิดอากรแสตมป์ในใบรับมอบรถ คำพยานบุคคลก็ฟังได้ว่าโจทก์ได้รับรถเป็นของโจทก์แล้วและไม่ใช่คดีพิพาทกันตามสัญญาเช่าซื้อ จึงไม่ต้องนำสัญญาเช่าซื้อมาแสดง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2119/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การกล่าวหาทั้งนำเข้าและครอบครองไม้ผิดกฎหมายไม่ขัดแย้งกัน
โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวโดยสรุปถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกับพวกร่วมกันกระทำผิดคือ นำไม้สักของกลางเข้ามาในราชอาณาจักร และระหว่างวันเวลาเดียวกันร่วมกันมีไม้ของกลางจำนวนเดียวกันนั้นไว้ในครอบครองเป็นความผิดทั้งนี้การกระทำของจำเลยกับพวกทั้งสองประการดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างวันเวลาและสถานที่เดียวกันเจ้าพนักงานยึดได้ไม้จำนวนเดียวกันเป็นของกลาง ดังนี้ย่อมเข้าใจได้ว่าในส่วนที่เกี่ยวกับไม้ของกลางที่มีอยู่จำนวนเดียวนั้น โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกับพวกร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นความผิดและมีไว้ในครอบครองเป็นความผิดด้วยไม่ทำให้เข้าใจไปว่าไม้ของกลางที่มีอยู่จำนวนเดียวเป็นไม้ที่จำเลยกับพวกนำเข้ามาในราชอาณาจักรและมิได้นำเข้ามาในราชอาณาจักรในคราวเดียวกันอันเป็นการขัดแย้งกันแต่อย่างใดส่วนปัญหาที่ว่าจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่จะต้องวินิจฉัยเมื่อมีคำพิพากษาหาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่หากเป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2119/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา: การกล่าวหาทั้งการนำเข้าและการครอบครองไม้ของกลางโดยเป็นไม้จำนวนเดียวกัน ไม่ถือว่าฟ้องขัดแย้งกัน
โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวโดยสรุปถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกับพวกร่วมกันกระทำผิดคือ นำไม้สักของกลางเข้ามาในราชอาณาจักร และระหว่างวันเวลาเดียวกันร่วมกันมีไม้ของกลางจำนวนเดียวกันนั้นไว้ในครอบครองเป็นความผิด ทั้งนี้การกระทำของจำเลยกับพวกทั้งสองประการดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างวันเวลาและสถานที่เดียวกัน เจ้าพนักงานยึดได้ไม้จำนวนเดียวกันเป็นของกลาง ดังนี้ ย่อมเข้าใจได้ว่าในส่วนที่เกี่ยวกับไม้ของกลางที่มีอยู่จำนวนเดียวนั้น โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกับพวกร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นความผิดและมีไว้ในครอบครองเป็นความผิดด้วยไม่ทำให้เข้าใจไปว่าไม้ของกลางที่มีอยู่จำนวนเดียวเป็นไม้ที่จำเลยกับพวกนำเข้ามาในราชอาณาจักรและมิได้นำเข้ามาในราชอาณาจักรในคราวเดียวกันอันเป็นการขัดแย้งกันแต่อย่างใด ส่วนปัญหาที่ว่าจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่จะต้องวินิจฉัยเมื่อมีคำพิพากษา หาทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ หากเป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1986/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางที่ยังไม่ควรทำลายในคดีศุลกากร จำเลยรับจ้างขนของหลีกเลี่ยงภาษีอากร
ของกลางที่ศาลสั่งริบเป็นเครื่องรับวิทยุและเสาอากาศเครื่องรับวิทยุสำหรับใช้ติดกับรถยนต์ซึ่งเป็นของต่างประเทศที่ยังไม่เสียภาษีศุลกากรจำเลยรับจ้างขนของดังกล่าวโดยรู้ว่าเป็นของต่างประเทศที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษีอากรเท่านั้นของกลางที่ศาลสั่งริบจึงเป็นทรัพย์ที่ยังไม่ควรทำลายตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 35

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางตามกฎหมายศุลกากร: สิทธิการขอคืนเมื่อศาลมีคำพิพากษา
สิ่งของในคดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรที่จะตกเป็นของแผ่นดินหากเจ้าของหรือผู้มีสิทธิไม่มายื่นคำร้องเรียกเอาภายในเวลาที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 24 นั้นต้องเป็นกรณีที่ไม่มีการฟ้องคดีนั้นต่อศาลทั้งนี้เพราะหากมีการฟ้องคดีต่อศาลแล้ว ย่อมอยู่ในอำนาจของศาลที่จะพิพากษาให้ริบหรือไม่ริบของกลาง ตาม มาตรา 32 ดังนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้ริบของกลางผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนของกลางได้ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1575/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.ศุลกากร: การขนถ่ายสินค้าออกจากเรือและการนำเข้าผ่านแดน
พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 มาตรา 11,12เป็นเรื่องขนของออกจากเรือ และยื่นใบขอเปิดตรวจสินค้าไม่ใช่กรณีนำของผ่านแดนเข้ามาทางบก ซึ่งต้องมีบัญชีสินค้ายื่นต่อพนักงานด่านพรมแดนและด่านศุลกากรพร้อมกับของเพื่อเสียภาษีตาม พระราชบัญญัติ ฉบับที่ 7 พ.ศ.2480 มาตรา 7

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1887/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สันนิษฐานความจริงตาม พ.ร.บ.ศุลกากร: ข้อเท็จจริงที่เจ้าพนักงานพบเห็นเองเท่านั้น
บันทึกตาม พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2497 ซึ่งให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นความจริงตามข้อเท็จจริงในบันทึกนั้น หมายความถึงข้อเท็จจริงที่เจ้าพนักงานพบเห็นเอง ไม่ใช่ข้อที่จำเลยซื้อของไว้จากคนเรืออันเป็นข้อที่จำเลยรับต่อเจ้าพนักงานบันทึกไว้ตามคำรับนั้น
of 9