คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 81 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบข้าวสารลักลอบออกนอกราชอาณาจักร แม้จำเลยจะขายไปแล้ว ศาลยังสามารถพิพากษาให้ริบราคาแทนได้
จำเลยมีผิดฐานลักลอบนำข้าวสาร 14 กระสอบ ราคา 1,680 บาทออกไปนอกราชอาณาจักร และข้าวรายนี้กำลังอยู่ในความรักษาของเจ้าหน้าที่ในเมืองต่างประเทศ ดังนี้ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 29ศาลย่อมพิพากษาให้ริบข้าวสาร 14 กระสอบได้ ถ้าจำเลยส่งข้าวสารไม่ได้ ก็ต้องใช้ราคาข้าวแทน
(ดูฎีกาที่ 742/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพภายหลังต่อสู้คดีเดิม: ศาลไม่วินิจฉัยประเด็นอำนาจสอบสวนเดิม
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์แม้จะไม่ปรากฏข้อความว่าให้ยืนยก แก้หรือกลับแต่ปรากฏข้อความว่าอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ซึ่งแสดงว่าพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั่นเอง ย่อมถูกต้องตามมาตรา 214 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแล้ว
ในชั้นแรกจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องของโจทก์ และต่อสู้ว่าผู้ทำการสอบสวนทำการสอบสวนโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ต่อมาจำเลยกลับให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้องโจทก์ทุกประการ ขอให้ลงโทษจำเลยแต่ในสถานเบาและแยกพิพากษาคดีส่วนตัวของจำเลยให้เสร็จสิ้นไปนั้น
เป็นการแสดงว่าจำเลยไม่ติดใจต่อสู้คดี ตามคำให้การฉบับแรกนั้นแล้ว ฉะนั้นข้อต่อสู้ของจำเลยชั้นเดิมที่ว่าการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงไม่เป็นปัญหาที่ศาลจะต้องยกขึ้นวินิจฉัยต่อไป
การที่จะฟังว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เพราะในการนี้อาจต้องพิจารณาถึงข้อบังคับทั้งหลายซึ่งว่าด้วยอำนาจและหน้าที่ของตำรวจเป็นข้อประกอบด้วยตามมาตรา 16 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพหลังต่อสู้คดีเดิม ศาลไม่พิจารณาข้อต่อสู้เดิม และอำนาจสอบสวนเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์แม้จะไม่ปรากฏข้อความว่าให้ยืน ยก แก้หรือกลับ แต่ปรากฏข้อความว่าอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ซึ่งแสดงว่า พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั่นเองซึ่ง ถูกต้องตามมาตรา 214 ป.วิ.อาญาแล้ว
ในชั้นแรกจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องของโจทก์ และต่อว่าผู้กระทำการสอบสวนทำการสอบสวนโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ต่อมาจำเลยกลับให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้องโจทก์ทุกประการ ขอให้ลงโทษจำเลยแต่ในสถานเบา และแยกพิพากษาคดีส่วนตัวของจำเลยให้เสร็จสิ้นไปนั้น เป็นการแสดงว่าจำเลยไม่ติดใจต่อสู้คดี ตามคำให้การฉะบับแรกนั้นแล้ว ฉะนั้นข้อต่อสู้ของจำเลยชั้นเดิมที่ว่าการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงไม่เป็น+ที่ศาลจะร้องยกขึ้นวินิจฉัย
+จะฟังว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง เพราะในการนี้อาจต้องพิจารณาถึงข้อบังคับกฎหมายซึ่งว่าด้วยอำนาจและหน้าที่ของตำรวจเป็นข้อประกอบด้วย ตามมาตรา 16 ป.วิ.อาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางที่ไม่อยู่ในความครอบครอง - กฎหมายลักษณะอาญา
จำเลยลักลอบนำข้าวสารเหนียวออกไปนอกราชอาณาจักร์แล้ว เมื่อศาลสั่งริบข้าวสารเหนียวของกลางดั่งนี้ ต้องตีราคาข้าวสารเหนียว แล้วจัดการตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 18, 29.
มาตรา 29 ได้กล่าวถึงการไม่นำทรัพย์ที่จะต้องริบมาส่งต่อศาล แสดงอยู่ว่า ทรัพย์ที่จะริบได้นั้น ไม่จำต้องเป็นทรัพย์ที่จับมาหรือยึดมาได้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางที่ไม่อยู่ในความครอบครอง การตีราคาและบังคับคดีตามกฎหมายอาญา
จำเลยลักลอบนำข้าวสารเหนียวออกไปนอกราชอาณาจักรแล้ว เมื่อศาลสั่งริบข้าวสารเหนียวของกลางดั่งนี้ ต้องตีราคาข้าวสารเหนียว แล้วจัดการตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 18,29
มาตรา 29ได้กล่าวถึงการไม่นำทรัพย์ที่จะต้องริบมาส่งต่อศาลแสดงอยู่ว่าทรัพย์ที่จะริบได้นั้น ไม่จำต้องเป็นทรัพย์ที่จับมาหรือยึดมาได้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรถไม่รู้เห็นการใช้รถในการกระทำผิดศุลกากร ศาลไม่ริบรถ
เจ้าของรถจักรยาน 3 ล้อให้ผู้อื่นเช่ารถไป แล้วผู้เช่าไปบรรทุกของเพื่อนำออกนอกราชอาณาจักร์อันเป็นผิดต่อ พ.ร.บ.ศุลกากร โดยเจ้าของรถผู้ให้เช่ามิได้รู้เห็นนั้น ศาลไม่รับรถจักร์ยาน อ้างฎีกาที่ 172/2484, 961/2484

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรถไม่มีส่วนรู้เห็นต่อการกระทำผิดทางศุลกากรของผู้เช่า ศาลไม่ริบรถ
เจ้าของรถจักรยาน 3 ล้อให้ผู้อื่นเช่ารถไป แล้วผู้เช่าไปบรรทุกของเพื่อนำออกนอกราชอาณาจักรอันเป็นผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากร โดยเจ้าของรถผู้ให้เช่ามิได้รู้เห็นนั้น ศาลไม่ริบรถจักรยานอ้างฎีกาที่ 172/2484,561/2484

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางที่ได้จากการกระทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ ต้องเป็นของของผู้กระทำผิดเท่านั้น
นำกระบือของผู้อื่น ซึ่งเจ้าของมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วย,ข้ามเขตต์ที่ได้มีประกาศควบคุมศาลจะริบกระบือของผู้อื่นไม่ได้ ไม่เหมือนอย่างทำผิด พ.ร.บ.ศุลกากร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลาง: หลักการริบเฉพาะทรัพย์ของผู้กระทำผิด แม้ผู้อื่นเกี่ยวข้อง
นำกระบือของผู้อื่นซึ่งเจ้าของมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดด้วยข้ามเขตที่ได้มีประกาศควบคุมศาลจะริบกระบือของผู้อื่นไม่ได้ ไม่เหมือนอย่างทำผิดพระราชบัญญัติศุลกากร
of 9