คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 207

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 216 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3027/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนตัวทนาย, ผลกระทบต่อการสืบพยาน, และการถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยาน
คำสั่งเรื่องทนายถอนตัวนั้น จะมีผลก็ต่อเมื่อตัวความทราบแล้วเมื่อยังไม่ทราบ ก็ถือว่าศาลชั้นต้นยังมิได้อนุญาตให้ทนายถอนตัวศาลได้สั่งกำชับในการขอเลื่อนคดีครั้งก่อน ว่าให้จำเลยเตรียมพยานมาให้พร้อมหากไม่มีพยานมาศาลโดยไม่มีเหตุสมควร จะถือว่าไม่มีพยานมาศาล ซึ่งทนายทราบคำสั่งนี้แล้ว เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลย ทนายและพยานไม่มาศาล ศาลชั้นต้นสั่งว่า ถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยาน จึงชอบแล้ว กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่จะขอพิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2933/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท ห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้มีการอ้างเหตุสุดวิสัย
การยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ในคดีซึ่งมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาทเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ต้องอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2933/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาในคดีแพ่งที่มีทุนทรัพย์น้อยกว่า 50,000 บาท: ห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ในคดีซึ่งมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ต้องอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2450/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องเป็นเหตุแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณา มิใช่เรื่องลายเซ็นปลอม หรือคำพิพากษาตามยอม
การที่คู่ความจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 นั้น ต้องเป็นกรณีที่คู่ความฝ่ายนั้นแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณา จำเลยขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างว่าลายเซ็นในใบแต่งทนายความของตนเป็นลายเซ็นปลอม สัญญาประนีประนอมยอมความที่ทนายจำเลยทำไปจึงตกเป็นโมฆะนั้นไม่ใช่เรื่องจำเลยแพ้คดี เพราะขาดนัดพิจารณาจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่
การขอเพิกถอนการพิจารณาคดีที่ผิดระเบียบนั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคสอง บังคับอยู่ในตัวว่าข้อคัดค้านเรื่องผิดระเบียบต้องยื่นก่อนพิพากษา การที่จำเลยขอเพิกถอนคำพิพากษาตามยอม ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจะกระทำไม่ได้นั้นมิใช่การขอเพิกถอนการพิจารณา จะถือว่าเป็นการขอเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2450/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องเป็นเหตุแพ้คดีเพราะขาดนัดเท่านั้น การอ้างลายเซ็นปลอมไม่ถือเป็นเหตุ
การที่คู่ความจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 นั้น ต้องเป็นกรณีที่คู่ความฝ่ายนั้นแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณา จำเลยขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างว่าลายเซ็นในใบแต่งทนายความของตนเป็นลายเซ็นปลอม สัญญาประนีประนอมยอมความที่ทนายจำเลยทำไปจึงตกเป็นโมฆะนั้นไม่ใช่เรื่องจำเลยแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณาจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่
การขอเพิกถอนการพิจารณาคดีที่ผิดระเบียบนั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคสอง บังคับอยู่ในตัวว่าข้อคัดค้านเรื่องผิดระเบียบต้องยื่นก่อนพิพากษา การที่จำเลยขอเพิกถอนคำพิพากษาตามยอม ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจะกระทำไม่ได้นั้นมิใช่การขอเพิกถอนการพิจารณา จะถือว่าเป็นการขอเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2210/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดี - เหตุผลไม่ชัดเจนและไม่ได้คัดค้านคำตัดสิน - คำร้องขอพิจารณาใหม่ไม่ชอบ
คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลย มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่มาศาลไม่ทันกำหนดเวลา และไม่ได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลว่าไม่ถูกต้องอย่างไรจำเลยจะชนะคดีได้อย่างไร จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ศาลชอบที่จะยกคำร้องขอนั้นเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2210/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดี – เหตุผลไม่ชัดเจน – ไม่โต้แย้งคำพิพากษา – คำร้องขอพิจารณาใหม่ไม่ชอบ
คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลย มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่มาศาลไม่ทันกำหนดเวลา และไม่ได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลว่าไม่ถูกต้องอย่างไรจำเลยจะชนะคดีได้อย่างไร จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ศาลชอบที่จะยกคำร้องขอนั้นเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3567/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัด การยื่นคำให้การช้า การเปลี่ยนแปลงภูมิลำเนาของนิติบุคคล และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
ศาลแรงงานมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัด ให้พิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียวเพราะจำเลยไม่มาศาลในวันพิจารณา เมื่อจำเลยมาศาลในวันนัดสืบพยานและยื่นคำร้องว่าไม่จงใจขาดนัดขอให้ศาลอนุญาตให้ยื่นคำให้การแม้จะพ้นกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันที่ศาลแรงงานมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดซึ่งไม่อาจเพิกถอนคำสั่งนั้นได้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 41 ก็ตาม แต่ก็ถือได้ว่าจำเลยมาศาลในระหว่างการพิจารณาคดีฝ่ายเดียวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 205 วรรคสอง ศาลแรงงานต้องพิจารณาว่าการขาดนัดของจำเลยเป็นไปโดยมิได้จงใจหรือมีเหตุอันสมควรหรือไม่ หากได้ความว่าจำเลยขาดนัดโดยมิได้จงใจหรือมีเหตุอันสมควรก็ชอบที่จะอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การและนัดพิจารณาคดีใหม่
ถิ่นที่สำนักงานใหญ่หรือที่ตั้งทำการของนิติบุคคลอันนับว่าเป็นภูมิลำเนาของนิติบุคคลนั้น หมายถึงถิ่นอันเป็นที่ตั้งสำนักงานบริหารกิจการของนิติบุคคลตามความเป็นจริง หาใช่เพียงแต่ปรากฏตามทะเบียนว่าเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่เท่านั้นไม่ฉะนั้น เมื่อโจทก์ทราบว่าภูมิลำเนาของจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลเปลี่ยนไปแล้ว ก็จะถือเอาประโยชน์จาก การที่ในทะเบียนยังปรากฏว่าจำเลยมีสำนักงานใหญ่อยู่ ณ ภูมิลำเนาเดิมมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3567/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดในคดีแรงงาน การย้ายภูมิลำเนาของจำเลย และสิทธิในการยื่นคำให้การ
ศาลแรงงานมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัด ให้พิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียวเพราะจำเลยไม่มาศาลในวันพิจารณา เมื่อจำเลยมาศาลในวันนัดสืบพยานและยื่นคำร้องว่าไม่จงใจขาดนัดขอให้ศาลอนุญาตให้ยื่นคำให้การแม้จะพ้นกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันที่ศาลแรงงานมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดซึ่งไม่อาจเพิกถอนคำสั่งนั้นได้ตามพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 41 ก็ตาม แต่ก็ถือได้ว่าจำเลยมาศาลในระหว่างการพิจารณาคดีฝ่ายเดียวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 205 วรรคสอง ศาลแรงงานต้องพิจารณาว่าการขาดนัดของจำเลยเป็นไปโดยมิได้จงใจหรือมีเหตุอันสมควรหรือไม่ หากได้ความว่าจำเลยขาดนัดโดยมิได้จงใจหรือมีเหตุอันสมควรก็ชอบที่จะอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การและนัดพิจารณาคดีใหม่
ถิ่นที่สำนักงานใหญ่หรือที่ตั้งทำการของนิติบุคคลอันนับว่าเป็นภูมิลำเนาของนิติบุคคลนั้น หมายถึงถิ่นอันเป็นที่ตั้งสำนักงานบริหารกิจการของนิติบุคคลตามความเป็นจริง หาใช่เพียงแต่ปรากฏตามทะเบียนว่าเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่เท่านั้นไม่ฉะนั้น เมื่อโจทก์ทราบว่าภูมิลำเนาของจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลเปลี่ยนไปแล้ว ก็จะถือเอาประโยชน์จาก การที่ในทะเบียนยังปรากฏว่าจำเลยมีสำนักงานใหญ่อยู่ ณ ภูมิลำเนาเดิมมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3455/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดี: เหตุอันสมควรจากการเข้าใจผิดเรื่องวันเวลานัด สืบเนื่องจากทนายจำเลยติดว่าความคดีอื่น
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2523 เวลา 9.00 น. เสมียนทนายจำเลยผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยได้ลงชื่อทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ และในวันนัดสืบพยานโจทก์เวลา 9.00 น. ปรากฏว่าทนายจำเลย มาศาลชั้นต้นแห่งเดียวกันเพื่อว่าความในคดีเรื่องอื่นหากทนายจำเลยซึ่งรู้ตระหนักถึงความสำคัญของผลคดีที่ขาดนัดพิจารณาทราบว่าศาลชั้นต้นนัดสืบพยานในคดีนี้เวลา 9.00 น. แล้ว จะต้องปลีกเวลาไปแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบถึงการติดว่าความในคดีอื่นหรือมิฉะนั้นก็ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีนี้ จึงมีเหตุผลเชื่อได้ว่าทนายจำเลยทราบเวลานัดสืบพยานโจทก์คลาดเคลื่อนจากเวลา 9.00น. เป็นเวลา 13.30 น. จริงถือว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาและมีเหตุอันสมควรให้พิจารณาคดีใหม่
of 22