คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 207

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 216 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณา: เหตุสมควรเชื่อหรือไม่ และหน้าที่ทนายความในการมาศาลตามนัด
ข้อวินิจฉัยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 209 อยู่ที่มีเหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดพิจารณานั้น มาศาลไม่ได้หรือไม่ เท่านั้น
ในวันนัดสืบพยานจำเลย การที่ทนายจำเลยทราบวันและเวลานัดพิจารณาแล้วมิได้มาศาลตามนัด แม้ศาลให้โอกาศรออยู่อีก 1 ชั่วโมงกับ 40 นาที ก็ยังไม่มาศาลเช่นนี้ ทนายจำเลยจะอ้างว่าตัวความหรือพยานยังไม่มาพบกันตนจึงยังไม่มาศาลเช่นนี้ เป็นข้ออ้างที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง และถ้ายอมให้อ้างกันได้โดยง่าย เมื่อเป็นเรื่องที่ทนายจำเลย จะมาให้ทันนัดของศาลก็มาได้ หากเห็นไม่สำคัญจึงไม่มาเช่นนี้ ไม่ถือว่า มีเหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดนั้นมาศาลไม่ได้ ตามป.วิ.พ. มาตรา 209 กรณีเช่นนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้มีการพิจารณาคดีใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความมาศาลไม่ได้ตาม มาตรา 209: การขาดนัดของทนายจำเลยและผลกระทบต่อการพิจารณาคดีใหม่
ข้อวินิจฉัยตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209อยู่ที่มีเหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดพิจารณานั้น มาศาลไม่ได้หรือไม่ เท่านั้น
ในวันนัดสืบพยานจำเลยการที่ทนายจำเลยทราบวันและเวลานัดพิจารณาแล้วมิได้มาศาลตามนัด แม้ศาลให้โอกาศรออยู่อีก 1 ชั่วโมงกับ 40 นาที ก็ยังไม่มาศาลเช่นนี้ทนายจำเลยจะอ้างว่าตัวความหรือพยานยังไม่มาพบกับตนจึงยังไม่มาศาลเช่นนี้ เป็นข้ออ้างที่ไม่สมควรอย่างยิ่งและถ้ายอมให้อ้างกันได้เช่นนี้ ก็เท่ากับเปิดโอกาสให้มีการประวิงคดีได้โดยง่าย เมื่อเป็นเรื่องที่ทนายจำเลยจะมาให้ทันนัดของศาลก็มาได้หากเห็นไม่สำคัญจึงไม่มาเช่นนี้ ไม่ถือว่า 'มีเหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดนั้นมาศาลไม่ได้' ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209กรณีเช่นนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้มีการพิจารณาคดีใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล และอำนาจศาลสั่งงดบังคับคดีระหว่างพิจารณาคดีใหม่
คำสั่งใด ๆ ของศาลล่าง เมื่อไม่มีบทบัญญัติให้คำสั่งนั้นเป็นที่สุดหรือบัญญัติห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาได้แล้ว คู่ความย่อมมีสิทธิที่จะอุทธรณ์หรือฎีกา คัดค้านคำสั่งนั้นต่อศาลสูงได้ เมื่อเป็นกรณีที่อุทธรณ์ได้แล้ว ควรอยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะวินิจฉัยได้ การที่สั่งให้ทุเลาการบังคับหรือให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนนั้น เมื่อมีอุทธรณ์มาสู่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจสั่งได้ ไม่ใช่มีผลให้เพิกถอนคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่อย่างใด
ตามป.วิ.พ. มาตรา 209 ไม่ได้ตัดอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีในเมื่อมีคำขอให้พิจารณาใหม่ เพราะคำขออาจเป็นความจริงมีเหตุที่ควรให้พิจารณาใหม่ แต่ศาลยังจะต้องฟังพยานของอีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อน ถ้าไม่ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้บังคับคดีไว้ก่อนได้แล้ว คำร้องขอให้พิจารณาใหม่อาจไม่มีผล และเสียหายแก่ผู้ขอให้พิจารณาใหม่ได้ จึงย่อมอยู่ในอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาล, การงดการบังคับคดี, และอำนาจศาลในการพิจารณาคำขอใหม่
คำสั่งใดๆ ของศาลล่าง เมื่อไม่มีบทบัญญัติให้คำสั่งนั้นเป็นที่สุดหรือบัญญัติห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาได้แล้วคู่ความย่อมมีสิทธิที่จะอุทธรณ์หรือฎีกาคัดค้านคำสั่งนั้นต่อศาลสูงได้เมื่อเป็นกรณีที่อุทธรณ์ได้แล้ว ควรอยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะวินิจฉัยได้ การที่สั่งให้ทุเลาการบังคับหรือให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนนั้น เมื่อมีอุทธรณ์มาสู่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจสั่งได้ ไม่ใช่มีผลให้เพิกถอนคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่อย่างใด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 ไม่ได้ตัดอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีในเมื่อมีคำขอให้พิจารณาใหม่เพราะคำขออาจเป็นความจริงมีเหตุที่ควรให้พิจารณาใหม่ แต่ศาลยังจะต้องฟังพยานของอีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อนถ้าไม่ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนได้แล้วคำร้องขอให้พิจารณาใหม่อาจไม่มีผล และเสียหายแก่ผู้ขอให้พิจารณาใหม่ได้ จึงย่อมอยู่ในอำนาจศาลที่จะสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078-1079/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดี: ศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาใหม่หากไม่ได้จงใจขาดนัด แม้การขอเลื่อนไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์นัดแรกซึ่งโจทก์มีหน้าที่สืบก่อนโดยวิทยุมาแจ้งให้ศาลทราบก่อนวันนัด 1 วัน ความว่าทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเพราะไม่มีรถมา มาศาลไม่ทัน ตัวโจทก์มาศาลในตอนสายวันนั้นหลังจากศาลสั่งให้โจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้วแถลงว่ารอทนายอยู่ที่บ้าน แม้การขอเลื่อนของทนายทางวิทยุจะไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ก็แสดงว่า ทนายและโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาหากแต่มีความจำเป็นเกิดขึ้นที่ทนายไม่อาจมาศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078-1079/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนนัดพิจารณาคดีและการพิสูจน์เจตนาขาดนัด ศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาใหม่ได้
ขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์นัดแรกซึ่งโจทก์มีหน้าที่สืบก่อนโดยวิทยุมาแจ้งให้ศาลทราบก่อนวันนัด 1 วัน ความว่าทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเพราะไม่มีรถมา มาศาลไม่ทัน ตัวโจทก์มาศาลในตอนสายวันนั้นหลังจากศาลสั่งให้โจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้ว แถลงว่ารอทนายอยู่ที่บ้าน แม้การขอเลื่อนของทนายทางวิทยุจะไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ก็แสดงว่าทนายและโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาหากแต่มีความจำเป็นเกิดขึ้นที่ทนายไม่อาจมาศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีแพ่งเมื่อจำเลยขาดนัด และการเพิกถอนการสืบพยาน: สิทธิในการขอพิจารณาใหม่
จำเลยหลายคนขาดนัดยื่นคำให้การทุกคน แต่ถึงวันนัดพิจารณาจำเลยคนหนึ่งมาศาล ศาลสืบพยานโจทก์ไป แต่แล้วต่อมาได้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่สืบพยานโจทก์นับเสีย นัดสืบพยานโจทก์ใหม่ ถึงวันนัดจำเลยทุกคนไม่มาศาล ศาลจึงสืบพยานโจทก์และพิพากษาคดีกรณีเช่นนี้ไม่ต้องด้วย วิ.แพ่ง ม.204 จำเลยมีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาคดีนั้นใหม่ตาม ม.202,207 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีแพ่งเมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและไม่มาศาล สิทธิในการขอพิจารณาคดีใหม่
จำเลยหลายคนขาดนัดยื่นคำให้การทุกคน แต่ถึงวันนัดพิจารณาจำเลยคนหนึ่งมาศาลศาลสืบพยานโจทก์ไป แต่แล้วต่อมาได้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่สืบพยานโจทก์นั้นเสียนัดสืบพยานโจทก์ใหม่ ถึงวันนัดจำเลยทุกคนไม่มาศาล ศาลจึงสืบพยานโจทก์และพิพากษาคดีไปกรณีเช่นนี้ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 204 จำเลยมีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาคดีนั้นใหม่ตามมาตรา 202,207 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีแพ่งเมื่อจำเลยขาดนัดและสิทธิในการขอพิจารณาใหม่
จำเลยหลายคนขาดนัดยื่นคำให้การทุกคน แต่ถึงวันนัดพิจารณาจำเลยคนหนึ่งมาศาลศาลสืบพยานโจทก์ไป แต่แล้วต่อมาได้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่สืบพยานโจทก์นั้นเสียนัดสืบพยานโจทก์ใหม่ ถึงวันนัดจำเลยทุกคนไม่มาศาล ศาลจึงสืบพยานโจทก์และพิพากษาคดีไปกรณีเช่นนี้ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 204 จำเลยมีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาคดีนั้นใหม่ตามมาตรา 202,207 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 116/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่เนื่องจากจำเลยวิกลจริตขณะดำเนินคดี
ในระยะเวลาที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลย ก็ดี ส่งหมายต่างๆให้จำเลยจนกระทั้งพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ก็ดี เป็นไปในระหว่างจำเลยเป็นโรคเส้นประสาทอย่างแรงถึงขนาดที่เรียกว่าวิกลจริต หรือสติฟั่นเฟือนไม่ปรติ ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยมิได้จงใจหลีกเลี่ยงไปต่อสู้คดี ฉะนั้นเมื่อจำเลยร้องขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ก็มีเหตุสมควรให้ดำเนินการพิจารณาใหม่ได้ ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 209,
of 22