คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.ที่ดิน ม. 108

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 208 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1748/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน: ผู้รับโอนต้องพิสูจน์สิทธิครอบครองของผู้ขายก่อนประกาศใช้กฎหมาย
สิทธิครอบครองที่จะคุ้มครองตลอดถึงผู้รับโอนด้วยตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 4 นั้น ผู้โอนจะต้องได้มาซึ่งสิทธิครอบครองก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยจำเลยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาต เมื่อจำเลยรับว่าจำเลยเข้าครอบครองเมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดินถึง 3 ปีแล้ว โดยอ้างว่าซื้อที่รายนี้จากผู้อื่น จำเลยก็มีหน้าที่นำสืบให้ได้ความว่า ผู้ขายมีสิทธิครอบครองมาก่อนใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน จึงจะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 4 นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691-1697/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่อเนื่อง และฟ้องไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเข้าครอบครองที่ดินของรัฐในทุ่งเขาหน้าวัวซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ โดยเข้าไปแผ้วถางปลูกพืชผลแล้วครอบครองที่ดิน โดยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน กับทั้งระบุถึงวันเดือนปีและที่เกิดเหตุอันเป็นการระบุครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ 108 นั้น เมื่อจำเลยรับว่าจำเลยเข้าครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าเป็นที่ดินซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ ก็ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ เพราะความตอนนี้เป็นเพียงรายละเอียด ไม่ใช่ส่วนขององค์ความผิด
เมื่อกฎหมายห้ามเข้าครอบครองที่ดินโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ถ้าผู้ใดครอบครองที่ดินอยู่ก็ย่อมเป็นการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นความผิดอยู่ทุกขณะที่ทำการครอบครอง คดีจึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691-1697/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่อเนื่อง ฟ้องไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเข้าครอบครองที่ดินของรัฐในทุ่งเขาหน้าวัวซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ โดยเข้าไปแผ้วถางปลูกพืชผลแล้วครอบครองที่ดินโดยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานกับทั้งระบุถึงวันเดือนปีและที่เกิดเหตุอันเป็นการระบุครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ 108 นั้น เมื่อจำเลยรับว่าจำเลยเข้าครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าเป็นที่ดินซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ ก็ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ เพราะความตอนนี้เป็นเพียงรายละเอียด ไม่ใช่ส่วนขององค์ความผิด
เมื่อกฎหมายห้ามเข้าครอบครองที่ดินโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ถ้าผู้ใดครอบครองที่ดินอยู่ก็ย่อมเป็นการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นความผิดอยู่ทุกขณะที่ทำการครอบครอง คดีจึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1164/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินก่อนมีประมวลกฎหมายที่ดิน ไม่ถือเป็นการบุกรุก
จำเลยได้เข้าครอบครองทำนาตั้งแต่ก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน และจำเลยมีสิทธิครอบครองอยู่ตลอดมา ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ระบุว่า ที่ดินของรัฐนั้น ถ้ามิได้มีสิทธิครอบครอง ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปยึดถือครอบครอง เมื่อจำเลยมีสิทธิครอบครองอยู่ดังว่าแล้ว ก็ไม่ต้องห้ามมาตรา 9 จึงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1164/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินก่อนมีกฎหมายที่ดิน: การไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 9
จำเลยได้เข้าครอบครองที่นาตั้งแต่ก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายที่ดินและจำเลยมีสิทธิครอบครองอยู่ตลอดมา ประมวลกฎหมายที่ดินตามมาตรา 9 ระบุว่า ที่ดินของรัฐนั้นถ้ามิได้มีสิทธิครอบครอง ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปยึดถือครอบครอง เมื่อจำเลยมีสิทธิครอบครองอยู่ดังว่าแล้ว ก็ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 9 จึง ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 108 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฝ่าฝืนกฎหมายที่ดินเป็นสำคัญในการลงโทษทางอาญา การครอบครองก่อนมีกฎหมายไม่ผิด
เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทางอาญา ก็ต้องให้ได้ความว่ามีเจตนาบังอาจหรือจงใจฝ่าฝืนมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จึงจะลงโทษตาม มาตรา 108 ได้
ที่ดินพิพาทได้ซื้อขายกันมาหลายทอดจนถึงจำเลย และจำเลยได้เข้ายึดถือครอบครองอยู่ก่อนที่ประมวลกฎหมายที่ดินบัญญัติว่าเป็นความผิด ทั้งจำเลยเคยได้แจ้งการครอบครองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้แล้วด้วย ย่อมลงโทษจำเลยในทางอาญาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินก่อนมีกฎหมายใหม่ ไม่มีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย จึงไม่ความผิดทางอาญา
เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทางอาญา ก็ต้องให้ได้ความว่ามีเจตนาบังอาจหรือจงใจฝ่าฝืน มาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จึงจะลงโทษตาม มาตรา 108 ได้
ที่ดินพิพาทได้ซื้อขายกันมาหลายทอดจนถึงจำเลย และจำเลยได้เข้ายึดถือครอบครองอยู่ก่อนที่ประมวลกฎหมายที่ดินบัญญัติว่าเป็นความผิด ทั้งจำเลยเคยได้แจ้งการครอบครองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้แล้วด้วย ย่อมลงโทษจำเลยในทางอาญาไม่ได้
of 21