พบผลลัพธ์ทั้งหมด 246 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสิทธิเช่าเมื่อผู้เช่าขายฝากทรัพย์สินบนที่ดินเช่า และสิทธิของผู้รับโอนที่ดินในการบอกเลิกสัญญา
ที่ดินที่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ นั้นต้องเป็นที่ดินเช่าสำหรับปลูกสร้างเคหะและที่ซึ่งต่อเนื่องเป็นบริเวรของเคหะ เมื่อผู้เช่าที่ดินได้ขายฝากเรือนที่ปลูกสร้างใช้เป็นที่อยู่อาศัยในที่ดินที่เช่านี้และปล่อยให้หลุดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อฝากไปแล้ว ผู้เช่าก็ไม่ใช่ผู้เช่าซึ่งได้รับหรือรับประโยชน์ในที่ดินเช่าตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พ.ศ.2489 ม.16 การเช่าที่ดินรายนี้จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ผุ้รับโอนที่ดิน (ที่เช่า) รายนี้ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินกับผู้เช่าได้ตาม ป.พ.พ. ม.566,569.570.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างเคหะ หากผู้เช่าขายฝากแล้วไม่ไถ่คืน สิทธิเช่าจะสิ้นสุดลง ผู้รับโอนมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและขับไล่ได้
ที่ดินที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯนั้นต้องเป็นที่ดินเช่าสำหรับปลูกสร้างเคหะและที่ซึ่งต่อเนื่องเป็นบริเวณของเคหะเมื่อผู้เช่าที่ดินได้ขายฝากเรือนที่ปลูกสร้างใช้เป็นที่อยู่อาศัยในที่ดินที่เช่านี้และปล่อยให้หลุดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อฝากไปแล้วผู้เช่าก็ไม่ใช่ผู้เช่าซึ่งได้รับหรือรับประโยชน์ในที่ดินที่เช่าตามความหมายของ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ พ.ศ.2489 มาตรา16 การเช่าที่ดินรายนี้จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าผู้รับโอนที่ดิน(ที่เช่า) รายนี้ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินกับผู้เช่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566,569,570
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516-520/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิและหน้าที่จากการเช่าทรัพย์สิน ผู้รับโอนไม่จำต้องแจ้งการโอน
ผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งมีผู้อื่นเช่าอยู่ ย่อมรับโอนไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งเป็นผู้ให้เช่า การโอนเช่นนี้ไม่เป็นกรณีต้องด้วย ม.306
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผูกพันตามสัญญาเช่าที่ตัวแทนทำไป แม้มิได้รับมอบหมายโดยตรง สิทธิและหน้าที่ย่อมตกแก่ผู้รับโอน
เจ้าของที่ดิน เชิดให้มารดาภริยา แสดงเป็นตัวแทน หรือรู้แล้วยอมให้มารดา ภริยา แสดงเป็นตัวแทน ทำสัญญา
ให้ผู้อื่นเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย นั้น เจ้าของที่ดินย่อมต้องผูกพันตามสัญญาเช่าที่มารดาภริยาทำไว้กับผู้เช่า
ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้สุจริตเสมือนหนึ่งมารดาภริยาเป็นตัวแทนของเจ้าของที่ดิน ฉะนั้นผู้ซื้อที่ดินนั้นไปจากเจ้า
ของ จึงต้องรับโอนสิทธิและหน้าที่ในสัญญาเช่าติดตามไปด้วย.
ให้ผู้อื่นเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย นั้น เจ้าของที่ดินย่อมต้องผูกพันตามสัญญาเช่าที่มารดาภริยาทำไว้กับผู้เช่า
ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้สุจริตเสมือนหนึ่งมารดาภริยาเป็นตัวแทนของเจ้าของที่ดิน ฉะนั้นผู้ซื้อที่ดินนั้นไปจากเจ้า
ของ จึงต้องรับโอนสิทธิและหน้าที่ในสัญญาเช่าติดตามไปด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผูกพันตามสัญญาเช่าเมื่อเจ้าของที่ดินยินยอมให้ผู้อื่นทำสัญญาแทน
เจ้าของที่ดิน เชิดให้มารดาภริยา แสดงเป็นตัวแทน หรือรู้แล้วยอมให้มารดาภริยา แสดงเป็นตัวแทน ทำสัญญาให้ผู้อื่นเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย นั้นเจ้าของที่ดินย่อมต้องผูกพันตามสัญญาเช่าที่มารดาภริยาทำไว้กับผู้เช่า ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้สุจริตเสมือนหนึ่งมารดาภริยาเป็นตัวแทนของเจ้าของที่ดินฉะนั้นผู้ซื้อที่ดินนั้นไปจากเจ้าของ จึงต้องรับโอนสิทธิและหน้าที่ในสัญญาเช่าติดตามไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อขายสวน: สิทธิในสัญญาเช่าระยะยาวเมื่อมีการเปลี่ยนเจ้าของ
ทำสัญญาเช่าสวนกันมีกำหนด 8 ปี 6 เดือน โดยทำเป็นหนังสือจดทะเบียนที่หอทะเบียนที่ดิน แล้วต่อมาได้ทำสัญญาเช่ากันอีก 1 ฉบับมีกำหนด 2 ปี นับตั้งแต่วันหมดกำหนดอายุสัญญาเช่าฉบับแรกแต่สัญญาฉบับที่ 2 นี้ทำกันที่อำเภอ ดังนี้สัญญาเช่าฉบับที่ 2 นี้มีผลว่าถ้าครบกำหนดสัญญาเช่าเดิม ผู้ให้เช่าจะให้เช่าต่อไปอีก 2 ปี ฉะนั้นถ้าผู้ให้เช่าขายกรรมสิทธิ์สวนนั้นไปเมื่อก่อนครบกำหนดอายุสัญญาเช่าฉบับแรก ผู้ให้เช่านั้นก็ไม่มีสิทธิที่จะให้เช่าตามสัญญาเช่าต่อ ที่ทำล่วงหน้าให้ไว้แล้วนั้นได้ต่อไป เพราะได้ขายกรรมสิทธิ์ไปเสียก่อนแล้วส่วนเจ้าของคนใหม่ก็ไม่มีภาระที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาที่เจ้าของเดิมทำล่วงหน้าไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1597/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าและสิทธิเลิกสัญญาเมื่อมีการขายสถานที่เช่า โดยมีข้อตกลงพิเศษที่ไม่ขัดกฎหมาย
ทำสัญญาเช่าเคหะกันมีอายุ 1 ปี แต่มีข้อแม้ไว้ข้อ 1 ว่า ถ้าให้ผู้เช่าตกลงขายที่และบ้านเช่าให้แก่ผู้ใดก่อน ครบกำหนดการเช่าตามสัญญาแล้วผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้า เพื่อผู้เช่าเตรียมตัวออกจากบ้านเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือนและผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบด้วยว่าจะตกลงขายแก่ผู้ใด เป็นเงินเท่าใด เพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาศตกลงซื้อในเมื่อเห็นว่าเป็นราคาสมควร ดังนี้ ถือว่าเป็นข้อตกลงที่ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใด เมื่อผู้ให้เช่าขายสถานที่เช่าแก่คนอื่นไปโดยได้ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว ก็ย่อมเลิกการเช่าได้ก่อนกำหนด 1 ปีและผู้เช่าก็จำต้องออกจากสถานที่เช่าไป จะอ้างว่าได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1597/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าและการเลิกสัญญาก่อนกำหนด: สิทธิของผู้ให้เช่าและผู้เช่า
ทำสัญญาเช่าเคหะกันมีอายุ 1 ปี แต่มีข้อแม้ไว้ข้อ1 ว่า ถ้าผู้ให้เช่าตกลงขายที่และบ้านเช่าให้แก่ผู้ใดก่อน ครบกำหนดการเช่าตามสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้า เพื่อผู้เช่าเตรียมตัวออกจากบ้านเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือน และผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบด้วยว่าจะตกลงขายแก่ผู้ใด เป็นเงินเท่าใดเพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาสตกลงซื้อในเมื่อเห็นว่าเป็นราคาสมควร ดังนี้ ถือว่าเป็นข้อตกลงที่ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใด เมื่อผู้ให้เช่าขายสถานที่เช่าแก่คนอื่นไปโดยได้ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว ก็ย่อมเลิกการเช่าได้ก่อนกำหนด 1 ปีและผู้เช่าก็จำต้องออกจากสถานที่เช่าไปจะอ้างว่าได้รับความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1694/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้เช่าช่วงโดยปริยาย: ผู้ให้เช่าทราบและไม่โต้แย้ง ถือเป็นการยินยอม
การที่ผู้เช่ายอมให้ผู้อื่นเข้ามาอยู่ในตึกที่เช่าเป็นเวลาหลายปีแล้วฝ่ายผู้ให้เช่าก็รู้แล้วไม่ทักท้วงว่ากล่าวประการใด แม้จะถือว่ามีการให้เช่าช่วง ก็แสดงว่าฝายผู้ให้เช่ายินยอม ฉะนั้นจะถือว่าผู้เช่าผิดสัญญาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1694/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้เช่าช่วงโดยปริยาย: ผู้ให้เช่าทราบและไม่โต้แย้ง ถือเป็นการยินยอม
การที่ผู้เช่ายอมให้ผู้อื่นเข้ามาอยู่ในตึกที่เช่าเป็นเวลาหลายปีแล้ว ฝ่ายผู้ให้เช่าก็รู้แล้ว ไม่ทักท้วงว่ากล่าวประการใด แม้จะถือว่ามีการให้เช่าช่วง ก็แสดงว่าฝ่ายผู้ให้เช่ายินยอม ฉะนั้น จะถือว่าผู้เช่าผิดสัญญาไม่ได้