คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 55

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 52 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2086/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการยืมรถยนต์: การใช้รถเพื่อย้ายที่อยู่ไม่ใช่ความผิดฐานลักทรัพย์
ป. เป็นลูกจ้างของผู้เสียหาย มีหน้าที่เฝ้าดูแลรถยนต์ในร้านของผู้เสียหาย ป. กับพวกรวมทั้งจำเลยใช้รถยนต์ของผู้เสียหายบรรทุกข้าวของส่วนตัวออกจากที่พักในร้านของผู้เสียหายเพื่อย้ายที่อยู่ใหม่ โดยมิได้เอาทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่นของผู้เสียหายไปด้วย เมื่อใช้รถยนต์ของผู้เสียหายเสร็จก็นำไปจอดทิ้งไว้แล้วพวกของป. โทรศัพท์แจ้งให้พี่ชายผู้เสียหายทราบถึงสถานที่ที่ทิ้งรถไว้ เพื่อให้ผู้เสียหายติดตามเอาคืน แสดงให้เห็นว่าจำเลยกับ ป. และพวกมิได้เอารถยนต์ของผู้เสียหายไปโดยเจตนาทุจริตจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีคม มุ่งหวังผลประโยชน์จากเงินบำเหน็จและประกันชีวิต
จำเลยใช้อาวุธมีคมปาดเชือดคอผู้เสียหายเป็นแผลฉกรรจ์ยาว 15 เซนติเมตร ลึก 6 เซนติเมตร ตัดเข้าหลอดอาหารส่วนต้นและเส้นประสาทกล่องเสียงด้านซ้าย อันเป็นอวัยวะสำคัญ อาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเนื่องจากแพทย์ได้ทำการรักษาไว้ทัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย และจำเลยกระทำโดยมีการตระเตรียมและวางแผนการไว้ล่วงหน้า ทั้งนี้หวังที่จะได้รับเงินบำเหน็จและ เงินประกันชีวิตของผู้เสียหายจึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากแรงจูงใจทางการเงิน
จำเลยใช้อาวุธมีคมปาดเชือดคอผู้เสียหายเป็นแผลฉกรรจ์ยาว15 เซนติเมตร ลึก 6 เซนติเมตร ตัดเข้าหลอดอาหารส่วนต้นและเส้นประสาทกล่องเสียงด้านซ้าย อันเป็นอวัยวะสำคัญ อาจทำให้ ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเนื่องจาก แพทย์ได้ทำการรักษาไว้ทันการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิด ฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายและจำเลยกระทำโดยมีการตระเตรียม และวางแผนการไว้ล่วงหน้า ทั้งนี้หวังที่จะได้รับเงินบำเหน็จและ เงินประกันชีวิตของผู้เสียหายจึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีพนันป๊อก: ความสมบูรณ์ของฟ้องและขอบเขตการแก้ไขโทษของศาลอุทธรณ์
จำเลยฎีกาอ้างว่า คำเบิกความของประจักษ์พยานโจทก์ไม่ปรากฏชัดแจ้งว่าจำเลยนี้เล่นการพนันป๊อกกันในลักษณะใดอย่างไรนั้นเป็นข้ออ้างเกี่ยวกับการใช้ดุลพินิจเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
แม้โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า ผู้ใดเป็นเจ้ามือในการเล่นพนันป๊อกแต่ได้บรรยายมาว่าจำเลยทั้ง 3 บังอาจร่วมกันเล่นการพนันป๊อก (21 แต้ม อันเป็นการพนันประเภทห้ามขาดตามบัญชี ก. อันดับ 11 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยมิได้มีพระราชกฤษฎีกาอนุญาตให้เล่นได้ ดังนี้ ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
จำเลยกระทำผิดครั้งหลังมีโทษจำคุกหรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ต้องวางโทษทั้งจำทั้งปรับตามพระราชบัญญัติการพนัน 2478 มาตรา 14 ทวิ (2) แต่ศาลชั้นต้นวางโทษปรับทวีคูณ ปรับ 600 บาทจำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์เช่นนี้การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นจำคุก 2 เดือน ปรับ 600 บาทแต่ยกโทษจำคุกเสียก็เป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลย ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีพนันป๊อก: ความสมบูรณ์ของฟ้อง และการแก้ไขโทษที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยฎีกาอ้างว่า คำเบิกความของประจักษ์พยานโจทก์ไม่ปรากฎชัดแจ้งว่า จำเลยนี้เล่นการพนันป๊อกกันในลักษระใด อย่างไรนั้นเป็นข้ออ้างเกี่ยวกับการใช้ดุลพินิจ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
แม้โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า ผู้ใดเป็นเจ้ามือในการเล่นพนันป๊อก แต่ได้บรรยายมาว่าจำเลยทั้ง 3 บังอาจร่วมกันเล่นการพนันป๊อก(21 แต้ม) อันเป็นการพนันประเภทห้ามขาดตามบัญชี ก.อันดับ 11 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยมิได้มีพระราชกฤษฎีกาอนุญาตให้เล่นได้ ดังนี้ ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)
จำเลยกระทำผิดครั้งหลังมีโทษจำคุกหรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ต้องวางโทษทั้งปรับตามพระราชบัญญัติการพนัน 2478 มาตรา 14 ทวิ(2) แต่ศาลชั้นต้นวางโทษปรับทวีคูณ ปรับ 600 บาท จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์เช่นนี้ การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นจำคุก 2 เดือน ปรับ 600 บาท แต่ยกโทษจำคุกเสีย ก็เป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 212

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1818/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำของผู้ตายเป็นเหตุยั่วโทสะ จำเลยมีสิทธิได้รับการลดโทษตาม ม.55
การที่ผู้ตายถือมีดพร้าขึ้นไปบนเรือน แสดงกริยาจะทำร้ายเขาโดยไม่มีเหตุสมควรเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการข่มเหงเขาอย่างร้ายแรงโดยไม่เป็นธรรมตาม ม.55
ในคดีอาญาเมื่อข้อเท็จจริงหรือข้อ ก.ม. ปรากฎในท้องสำนวนแล้ว ถึงแม้จะไม่มีประเด็นในข้อเหล่านี้ขึ้นมาศาลก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยในทางที่เป็นประโยชน์แก่จำเลยได้เพราะเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายขณะวิวาท ไม่ถึงเจตนาฆ่า ศาลลดโทษจากฆ่าคนตายโดยเจตนาเป็นฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
เมื่อเป็นกรณีที่ที่สมัครใจเข้าวิวาททำร้ายกัน จำเลยจะอ้างว่ากระทำไปโดยถูกยั่วโทษะหาได้ไม่
เนื่องมาจากมีการโต้เถียงทะเลาะวิวาทกันแล้ว ผู้ตายจึงเตะจำเลยก่อนถึง 2 ครั้ง จำเลยแทงผู้ตายไปครั้งเดียวด้วยมีดที่ถือติดมือมาสำหรับใช้ทำงานและเมื่อผู้ตายล้มลงแล้วจำเลยก็มิได้ซ้ำเติมดังนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าให้ตาย จำเลยคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1446/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยฐานบันดาลโทสะจากเหตุถูกยั่วยุโดยผู้ตาย ศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้
การที่ผู้ตายใช้เท้าถีบจำเลยก่อน จำเลยจึงวิ่งไปเอาหอกในเรือนห่างเพียง 1 วาเข้าทำร้ายผู้ตาย ในทันใดนั้น ย่อมเรียกได้ว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจึงบันดาลโทษะขึ้นในขณะนั้นนั่นเอง
เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อนเช่นนั้น ศาลย่อมมีอำนาจที่จะลดโทษจำเลยฐานบรรดาลโทษะได้+

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยถูกยั่วยุและพลั้งพลาดทำร้ายผู้อื่น: การลดหย่อนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๕
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้หนึ่งก่อเหตุท้าทายและชกต่อยจำเลย ๆ หนีก็ยังไล่ตามจะทำร้ายอีก จำเลยจึงชักมีดแทงไปเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการยั่วโทษะจำเลยก่อน หาใช่เป็นกรณีวิวาทกันไม่
การที่จำเลยถูกผู้หนึ่งกดขี่ข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม จึงบรรดาลโทษะจะแทงผู้นั้น หากแต่พลั้งพลาดไปถูกผู้ตายซึ่งเข้ามาห้ามเช่นนี้ จำเลยควรได้รับลดหย่อนโทษตาม ก.ม.ดุจกระทำแก่ผู้นั้น
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษทางอาญาเนื่องจากถูกยั่วยุให้เข้าต่อสู้ และการพิจารณาข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์แก้ไข
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี ตาม ม. 251,+ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะให้ลดโทษจำเลยฐานยั่วโทษะตาม ม.55 ด้วย คงจำคุก 1 ปี 6 เดิอน ดังนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้มาก คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
การที่ฝ่ายหนึ่งยั่วโทษะอีกฝ่ายหนึ่งให้เข้าต่อสู้ทำร้ายกันก็อาจลดโทษฐานยั่วโทษะตาม ม.55 ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2498)
of 6