พบผลลัพธ์ทั้งหมด 75 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8957/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งสินค้าเสียหาย/สูญหาย และการประเมินความเสี่ยงในการขับขี่ยานพาหนะบรรทุก
รถบรรทุกลากจูงรวมกับน้ำหนักของรถพ่วงและน้ำหนักของสินค้ารวมทั้งหีบห่อแล้วมีน้ำหนักมาก ประกอบกับความยาวของรถบรรทุกลากจูงเมื่อรวมกับความยาวของรถพ่วงแล้ว ย่อมมีความยาวมากกว่ารถยนต์บรรทุกทั่ว ๆ ไป ทำให้ยากแก่การบังคับและควบคุมรถ การห้ามล้อเพื่อจะหยุดรถต้องใช้ระยะเวลานานกว่าปกติ และต้องใช้ระยะทางห้ามล้อยาวกว่าปกติ แต่ อ. ยังขับรถบรรทุกลากจูงคันดังกล่าวด้วยความเร็วประมาณ 50 ถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งที่ถนนบริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้ง ย่อมทำให้เกิดแรงเหวี่ยงที่ส่วนท้ายบริเวณรถพ่วง ทำให้ยากแก่การควบคุมรถและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นข้างหน้า และไม่สามารถจะห้ามล้อหยุดรถบรรทุก ลากจูงได้ทันจนเกิดเหตุขึ้น เหตุที่เกิดขึ้นจึงมิใช่เหตุสุดวิสัย
ตามสำเนาใบรับสินค้าของจำเลยผู้ขนส่งมีข้อความซึ่งมีลักษณะคล้ายใช้ตรายางประทับว่า สินค้าเสียหายหรือสูญหายให้แจ้งภายใน 7 วัน นับแต่วันได้รับสินค้า การชดใช้ค่าเสียหาย สูญหายตามความเป็นจริง แต่ต้องไม่เกินวงเงิน 30,000 บาท เอกสารนี้มีแต่ฝ่ายจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อไว้แต่ฝ่ายเดียว โดยมิได้ให้บริษัท ซ. ผู้ส่ง ลงลายมือชื่อไว้ด้วย จะถือว่าผู้ส่งตกลงยอมรับข้อจำกัดความรับผิดของจำเลยโดยชัดแจ้งแล้วหาได้ไม่
ตามสำเนาใบรับสินค้าของจำเลยผู้ขนส่งมีข้อความซึ่งมีลักษณะคล้ายใช้ตรายางประทับว่า สินค้าเสียหายหรือสูญหายให้แจ้งภายใน 7 วัน นับแต่วันได้รับสินค้า การชดใช้ค่าเสียหาย สูญหายตามความเป็นจริง แต่ต้องไม่เกินวงเงิน 30,000 บาท เอกสารนี้มีแต่ฝ่ายจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อไว้แต่ฝ่ายเดียว โดยมิได้ให้บริษัท ซ. ผู้ส่ง ลงลายมือชื่อไว้ด้วย จะถือว่าผู้ส่งตกลงยอมรับข้อจำกัดความรับผิดของจำเลยโดยชัดแจ้งแล้วหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งสินค้าทางอากาศ ผู้ส่งของแสดงความตกลงโดยชัดแจ้ง
ใบตราส่งมีข้อความปรากฏชัดในด้านหน้าว่า ตามเงื่อนไขแห่งสัญญาที่อยู่ด้านหลังนี้ ขอให้ผู้ส่งของรับทราบข้อสังเกตเกี่ยวกับการจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งด้วย ผู้ส่งของอาจเพิ่มส่วนจำกัดความรับผิดได้โดยแจ้งมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้นและชำระเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น ย่อมทำให้ผู้ส่งของทราบดีว่าตนมีทางเลือก 2 ทาง คือ จะยอมรับข้อจำกัดความรับผิดที่มีอยู่ชัดในด้านหลังใบตราส่งหรือจะเพิ่มส่วนจำกัดความรับผิดโดยต้องเสียเงินเพิ่มก็ได้ และปรากฏว่าด้านหน้าใบตราส่งมีช่องสำหรับการแจ้งมูลค่าสินค้าเพื่อการขนส่ง แต่ในช่องดังกล่าวมีข้อความว่า "เอ็นวีดี"(NVD) ซึ่งหมายถึง การไม่แจ้งมูลค่าสินค้าเพื่อการขนส่ง โดยมีการแจ้งเฉพาะน้ำหนักสินค้าและมีการคิดค่าระวางตามน้ำหนักที่แจ้ง ซึ่งทำให้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเติมเท่ากับเป็นการเลือกยอมรับข้อจำกัดความรับผิดหลังใบตราส่ง ถือว่าผู้ส่งของแสดงความตกลงด้วยโดยชัดแจ้งในการจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งทางอากาศ: 'NVD' แสดงเจตนา
ขั้นตอนการส่งสินค้าทางอากาศ ผู้ส่งสินค้าต้องจองพื้นที่บนเครื่องบินก่อน และจำเลยจะมอบแบบพิมพ์ใบตราส่งให้ผู้ส่งของกรอกข้อความใบตราส่งนี้ยังมีข้อความปรากฏชัดในด้านหน้าว่า ตามเงื่อนไขแห่งสัญญาที่อยู่ด้านหลังนี้ขอให้ผู้ส่งของรับทราบข้อสังเกตเกี่ยวกับการจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งด้วย ผู้ส่งของอาจเพิ่มส่วนจำกัดความรับผิดได้โดยแจ้งมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้น และชำระเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น ข้อความดังกล่าวย่อมทำให้ผู้ส่งของทราบดีว่าตนมีทางเลือก 2 ทาง คือจะยอมรับข้อจำกัดความรับผิดที่มีอยู่ชัดในด้านหลังใบตราส่งหรือจะเพิ่มส่วนจำกัดความรับผิดโดยต้องเสียเงินเพิ่มก็ได้ และปรากฏว่าด้านหน้าใบตราส่งนี้มีช่องสำหรับการแจ้งมูลค่าสินค้าเพื่อการขนส่ง แต่ในช่องดังกล่าวมีข้อความว่า "เอ็นวีดี" (NVD)ซึ่งหมายถึงการไม่แจ้งมูลค่าสินค้าเพื่อการขนส่ง โดยมีการแจ้งเฉพาะน้ำหนักสินค้าและมีการคิดค่าระวางตามน้ำหนักที่แจ้งเท่านั้น การที่ผู้ส่งของระบุข้อความในช่องแจ้งมูลค่าสินค้าเพื่อการขนส่งว่าไม่แจ้งราคามูลค่าสินค้าเพื่อการขนส่ง ซึ่งทำให้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเติมดังกล่าวเท่ากับเป็นการเลือกที่จะยอมรับข้อจำกัดความรับผิดหลังใบตราส่งนั่นเอง จึงถือว่าผู้ส่งของได้แสดงความตกลงด้วยโดยชัดแจ้งในการจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งเป็นเงิน 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อน้ำหนักสินค้า 1 กิโลกรัมแล้ว ข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวย่อมมีผลบังคับได้ ไม่เป็นโมฆะตาม ป.พ.พ.มาตรา 625
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8947/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งในสัญญาขนส่งทางทะเลและทางบก, ข้อจำกัดความรับผิด, และอำนาจศาล
จำเลยที่ 1 ได้รับมอบหมายจากจำเลยที่ 2 ให้บรรจุสินค้าที่ขนส่งเข้าตู้คอนเทนเนอร์แล้ว จำเลยที่ 1 ยังได้รับมอบหมายให้ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จากลานบรรจุสินค้าของจำเลยที่ 1 ไปยังท่าเรือกรุงเทพ พฤติการณ์ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขนส่งร่วมกับจำเลยที่ 2 แล้วเมื่อความเสียหายของสินค้าที่ขนส่งเกิดขึ้นในระหว่างความดูแลของจำเลยทั้งสองและเกิดจากความผิดหรือความประมาทเลินเล่อของจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองในฐานะ ผู้ขนส่งร่วมย่อมต้องรับผิดร่วมกันในความเสียหายดังกล่าว
พ.ร.บ. การรับขนของทางทะเล พ.ศ. 2534 มาตรา 3 บัญญัติว่า "หน่วยการขนส่ง" หมายความว่า หน่วยแห่งของที่ขนส่งทางทะเลซึ่งนับเป็นหนึ่ง และแต่ละหน่วยอาจทำการขนส่งไปตามลำดับได้ เช่น กระสอบ ชิ้น ถัง ตู้ ม้วน ลัง ลูก ห่อ หีบ อัน หรือหน่วยที่ใช้เรียกชื่ออย่างอื่น สินค้าที่ขนส่งเป็นขดลวดสแตนเลสและแยกบรรจุใส่ไว้ในลังไม้ รวมทั้งหมดจำนวน 130 ลัง แต่ละลังย่อมถือเป็นหน่วยการขนส่ง แม้สินค้าทั้งหมดจะแยกบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์จำนวนรวม 5 ตู้ ก็ไม่ถือว่าตู้คอนเทนเนอร์เป็นหน่วยการขนส่ง
ความเสียหายของสินค้าที่ขนส่งซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการขนส่งทางบก จึงไม่อาจนำบทบัญญัติในส่วนที่ เกี่ยวกับข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งและการคิดค่าเสียหายตามมาตรา 58 แห่ง พ.ร.บ. การรับขนของทางทะเล มาใช้คำนวณค่าเสียหายของสินค้าได้ แต่ต้องนำ ป.พ.พ. มาตรา 625 ว่าด้วย การรับขนของมาใช้บังคับ เมื่อไม่ปรากฏตามใบตราส่งที่จำเลยที่ 2 เป็นผู้ออกหรือในเอกสารหลักฐานแห่งสัญญารับขนอื่นใดว่ามีข้อตกลงจำกัดความรับผิด ของผู้ขนส่ง และผู้ส่งได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการจำกัดความรับผิดนั้นด้วยแต่อย่างใด จำเลยทั้งสองจึงต้อง รับผิดในความเสียหายของสินค้าที่ขนส่งเต็มจำนวน
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางรับโอนคดีนี้ตามมาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศฯ มาพิจารณาจนมีคำพิพากษาวินิจฉัยชี้ขาดคดีแล้ว ในระหว่างการพิจารณาไม่มีคู่ความฝ่ายใดกล่าวอ้างว่าศาลทรัพย์สิน ทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ การที่จำเลยทั้งสองเพิ่งหยิบยกปัญหา ดังกล่าวขึ้นมาอุทธรณ์จึงเป็นการล่วงเลยเวลาที่จะหยิบยกปัญหาเกี่ยวกับอำนาจพิจารณาพิพากษาขึ้นมาเป็นข้ออุทธรณ์
แม้หากคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง แต่การที่จำเลยทั้งสองได้ดำเนินกระบวนพิจารณาตั้งแต่ร่วมกับโจทก์และจำเลยร่วมร้องขอให้โอนคดีนี้และสืบพยานหลักฐานของจำเลยทั้งสองในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมาจนเสร็จสิ้นโดยมิได้ยก เรื่องอำนาจศาลขึ้นโต้แย้ง ถือได้ว่าเป็นการให้สัตยาบันแก่การดำเนินกระบวนพิจารณาผิดศาล ดังนั้นจำเลยทั้งสองจึงไม่อาจยกปัญหาเรื่องอำนาจศาลขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ได้ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัย
พ.ร.บ. การรับขนของทางทะเล พ.ศ. 2534 มาตรา 3 บัญญัติว่า "หน่วยการขนส่ง" หมายความว่า หน่วยแห่งของที่ขนส่งทางทะเลซึ่งนับเป็นหนึ่ง และแต่ละหน่วยอาจทำการขนส่งไปตามลำดับได้ เช่น กระสอบ ชิ้น ถัง ตู้ ม้วน ลัง ลูก ห่อ หีบ อัน หรือหน่วยที่ใช้เรียกชื่ออย่างอื่น สินค้าที่ขนส่งเป็นขดลวดสแตนเลสและแยกบรรจุใส่ไว้ในลังไม้ รวมทั้งหมดจำนวน 130 ลัง แต่ละลังย่อมถือเป็นหน่วยการขนส่ง แม้สินค้าทั้งหมดจะแยกบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์จำนวนรวม 5 ตู้ ก็ไม่ถือว่าตู้คอนเทนเนอร์เป็นหน่วยการขนส่ง
ความเสียหายของสินค้าที่ขนส่งซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการขนส่งทางบก จึงไม่อาจนำบทบัญญัติในส่วนที่ เกี่ยวกับข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งและการคิดค่าเสียหายตามมาตรา 58 แห่ง พ.ร.บ. การรับขนของทางทะเล มาใช้คำนวณค่าเสียหายของสินค้าได้ แต่ต้องนำ ป.พ.พ. มาตรา 625 ว่าด้วย การรับขนของมาใช้บังคับ เมื่อไม่ปรากฏตามใบตราส่งที่จำเลยที่ 2 เป็นผู้ออกหรือในเอกสารหลักฐานแห่งสัญญารับขนอื่นใดว่ามีข้อตกลงจำกัดความรับผิด ของผู้ขนส่ง และผู้ส่งได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการจำกัดความรับผิดนั้นด้วยแต่อย่างใด จำเลยทั้งสองจึงต้อง รับผิดในความเสียหายของสินค้าที่ขนส่งเต็มจำนวน
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางรับโอนคดีนี้ตามมาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศฯ มาพิจารณาจนมีคำพิพากษาวินิจฉัยชี้ขาดคดีแล้ว ในระหว่างการพิจารณาไม่มีคู่ความฝ่ายใดกล่าวอ้างว่าศาลทรัพย์สิน ทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ การที่จำเลยทั้งสองเพิ่งหยิบยกปัญหา ดังกล่าวขึ้นมาอุทธรณ์จึงเป็นการล่วงเลยเวลาที่จะหยิบยกปัญหาเกี่ยวกับอำนาจพิจารณาพิพากษาขึ้นมาเป็นข้ออุทธรณ์
แม้หากคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง แต่การที่จำเลยทั้งสองได้ดำเนินกระบวนพิจารณาตั้งแต่ร่วมกับโจทก์และจำเลยร่วมร้องขอให้โอนคดีนี้และสืบพยานหลักฐานของจำเลยทั้งสองในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมาจนเสร็จสิ้นโดยมิได้ยก เรื่องอำนาจศาลขึ้นโต้แย้ง ถือได้ว่าเป็นการให้สัตยาบันแก่การดำเนินกระบวนพิจารณาผิดศาล ดังนั้นจำเลยทั้งสองจึงไม่อาจยกปัญหาเรื่องอำนาจศาลขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ได้ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2887/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งเป็นโมฆะหากผู้ส่งไม่ได้ตกลงด้วยชัดเจน และผู้ขนส่งต้องรับผิดในราคาสินค้าที่แท้จริง
แม้พนักงานของบริษัทส.ผู้ส่ง ได้ลงชื่อไว้ในใบรับเอกสารซึ่งมีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งก็ตาม แต่บริษัทฮ.ผู้ส่งซึ่งเป็นนิติบุคคลมิได้แสดงความตกลงด้วยโดยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเช่นว่านั้น ดังนี้ ข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยที่ 1 ผู้ขนส่งเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 ประกอบ กับสินค้าพิพาทเป็นยาแม้จะมีราคาค่อนข้างสูงก็ถือไม่ได้ว่าเป็นของมีค่าอย่างอื่นตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 620 วรรคหนึ่งบริษัทฮ.ผู้ส่งจึงไม่จำต้องบอกราคาหรือสภาพแห่งของไว้ในขณะที่ส่งมอบแก่จำเลยที่ 1 ผู้ขนส่ง จำเลยที่ 1จึงต้องรับผิดชดใช้ราคาสินค้าพิพาทแก่โจทก์ผู้รับช่วงสิทธิของบริษัทฮ.ผู้ส่งในราคาทรัพย์สินที่แท้จริงซึ่งได้สูญหายไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2887/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งสินค้า: การยกเว้นความรับผิด และการสูญหายของสินค้า
แม้ผู้ฝากสินค้าพิพาทจะเป็นพนักงานของบริษัท ฮ.ผู้ส่ง ได้ลงชื่อไว้ในใบลำดับรายการรับฝากส่งพัสดุภัณฑ์ซึ่งมีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่งก็ตาม แต่บริษัท ฮ.ผู้ส่งซึ่งเป็นนิติบุคคลมิได้แสดงความตกลงด้วยโดยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเช่นว่านั้น ข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่งจึงเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ.มาตรา 625
สินค้าพิพาทเป็นยา ซึ่งแม้มีราคาค่อนข้างสูงก็ตาม ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นของมีค่าอย่างอื่นตามความหมายแห่ง ป.พ.พ.มาตรา 620 วรรคหนึ่ง บริษัทฮ.ผู้ส่งจึงไม่จำต้องบอกราคาหรือสภาพแห่งของไว้ในขณะที่ส่งมอบแก่จำเลยผู้ขนส่งจำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ราคาสินค้าพิพาทแก่โจทก์ผู้รับช่วงสิทธิของบริษัท ฮ.ผู้ส่งในราคาทรัพย์สินที่แท้จริงซึ่งได้สูญหายไปนั้นตาม มาตรา 616
ฎีกาของจำเลยที่ว่า สินค้าพิพาทบริษัท ฮ.ไม่ใช่เจ้าของที่จะนำไปประกันภัยไว้แก่โจทก์ บริษัท ฮ.จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย เป็นเหตุให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ในประเด็นข้อนี้จำเลยได้แถลงสละประเด็นข้อพิพาทไว้แล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตามป.วิ.พ.มาตรา 247 ประกอบมาตรา 225 วรรคหนึ่ง
สินค้าพิพาทเป็นยา ซึ่งแม้มีราคาค่อนข้างสูงก็ตาม ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นของมีค่าอย่างอื่นตามความหมายแห่ง ป.พ.พ.มาตรา 620 วรรคหนึ่ง บริษัทฮ.ผู้ส่งจึงไม่จำต้องบอกราคาหรือสภาพแห่งของไว้ในขณะที่ส่งมอบแก่จำเลยผู้ขนส่งจำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ราคาสินค้าพิพาทแก่โจทก์ผู้รับช่วงสิทธิของบริษัท ฮ.ผู้ส่งในราคาทรัพย์สินที่แท้จริงซึ่งได้สูญหายไปนั้นตาม มาตรา 616
ฎีกาของจำเลยที่ว่า สินค้าพิพาทบริษัท ฮ.ไม่ใช่เจ้าของที่จะนำไปประกันภัยไว้แก่โจทก์ บริษัท ฮ.จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย เป็นเหตุให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ในประเด็นข้อนี้จำเลยได้แถลงสละประเด็นข้อพิพาทไว้แล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตามป.วิ.พ.มาตรา 247 ประกอบมาตรา 225 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2559/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งสินค้าสูญหายและข้อตกลงยกเว้นความรับผิดที่ตกเป็นโมฆะ
เมื่อปรากฏว่าสินค้าประตูอัตโนมัติซึ่งจำเลยเป็นผู้ขนส่งได้สูญหายไปบางส่วนและจำเลยไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า การสูญหายดังกล่าวเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดแต่สภาพแห่งของนั้นเองหรือเกิดเพราะความผิดของผู้ส่ง หรือผู้รับตราส่งเช่นนี้ จำเลยก็ต้องรับผิดในการที่สินค้าประตูอัตโนมัติสูญหายไปบางส่วนดังกล่าวต่อผู้รับตราส่ง ตาม ป.พ.พ. มาตรา 616
ข้อกำหนดในใบตราส่งที่ว่าในกรณีที่ความเสียหายต่อสินค้าที่สามารถเห็นได้ บุคคลที่มีสิทธิรับสินค้าจะต้องทำคำร้องเรียนต่อผู้ขนส่งเป็นหนังสืออย่างช้าที่สุดภายใน 14 วัน จากวันรับสินค้านั้น เป็นข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่ง เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ส่งได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเช่นว่านั้น ข้อความดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ.มาตรา625
เมื่อปรากฏว่าชิ้นส่วนของสินค้าสูญหายไป ผู้รับตราส่งได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่รายงานความเสียหายของคลังสินค้า ทำรายงานความเสียหายของสินค้าไว้แล้ว ถือไม่ได้ว่าผู้รับตราส่งได้รับสินค้าเอาไว้แล้วโดยไม่อิดเอื้อนความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่งจึงไม่สิ้นสุดลงตาม ป.พ.พ.มาตรา 621 วรรคหนึ่ง
จำเลยผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในความเสียหายของสินค้าต่อผู้รับตราส่ง และโจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้แก่ผู้รับตราส่งในฐานะผู้รับประกันภัยไป โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้รับตราส่งมาเรียกร้องเอาค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวจากจำเลยได้ ตามบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ.มาตรา 880วรรคแรก
ข้อกำหนดในใบตราส่งที่ว่าในกรณีที่ความเสียหายต่อสินค้าที่สามารถเห็นได้ บุคคลที่มีสิทธิรับสินค้าจะต้องทำคำร้องเรียนต่อผู้ขนส่งเป็นหนังสืออย่างช้าที่สุดภายใน 14 วัน จากวันรับสินค้านั้น เป็นข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่ง เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ส่งได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเช่นว่านั้น ข้อความดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ.มาตรา625
เมื่อปรากฏว่าชิ้นส่วนของสินค้าสูญหายไป ผู้รับตราส่งได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่รายงานความเสียหายของคลังสินค้า ทำรายงานความเสียหายของสินค้าไว้แล้ว ถือไม่ได้ว่าผู้รับตราส่งได้รับสินค้าเอาไว้แล้วโดยไม่อิดเอื้อนความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่งจึงไม่สิ้นสุดลงตาม ป.พ.พ.มาตรา 621 วรรคหนึ่ง
จำเลยผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในความเสียหายของสินค้าต่อผู้รับตราส่ง และโจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้แก่ผู้รับตราส่งในฐานะผู้รับประกันภัยไป โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้รับตราส่งมาเรียกร้องเอาค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวจากจำเลยได้ ตามบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ.มาตรา 880วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2555/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งสินค้าสูญหาย/เสียหาย และการรับช่วงสิทธิของผู้รับประกันภัย
เมื่อปรากฏว่าสินค้าประตูอัตโนมัติซึ่งจำเลยเป็นผู้ขนส่งได้สูญหายไปบางส่วนและจำเลยไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า การสูญหายดังกล่าวเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดแต่สภาพแห่งของนั้นเองหรือเกิดเพราะความผิดของผู้ส่งหรือผู้รับตราส่ง เช่นนี้ จำเลยก็ต้องรับผิดในการที่สินค้าประตูอัตโนมัติสูญหายไปบางส่วนดังกล่าวต่อผู้รับตราส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 ข้อกำหนดในใบตราส่งที่ว่าในกรณีที่ความเสียหายต่อสินค้าที่สามารถเห็นได้ บุคคลที่มีสิทธิรับสินค้าจะต้องทำคำร้องเรียนต่อผู้ขนส่งเป็นหนังสืออย่างช้าที่สุดภายใน14 วัน จากวันรับสินค้านั้น เป็นข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่ง เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ส่งได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเช่นว่านั้น ข้อความดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 เมื่อปรากฏว่าชิ้นส่วนของสินค้าสูญหายไป ผู้รับตราส่งได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่รายงานความเสียหายของคลังสินค้า ทำรายงานความเสียหายของสินค้าไว้แล้ว ถือไม่ได้ว่าผู้รับตราส่งได้รับสินค้าเอาไว้แล้วโดย ไม่อิดเอื้อนความรับผิดของจำเลยผู้ขนส่งจึงไม่สิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 623 วรรคหนึ่ง จำเลยผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในความเสียหายของสินค้าต่อ ผู้รับตราส่ง และโจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้แก่ผู้รับตราส่งในฐานะผู้รับประกันภัยไป โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้รับตราส่งมาเรียกร้องเอาค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวจากจำเลยได้ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4593/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขนส่งสินค้าในกรณีขนส่งหลายทอดและการจำกัดความรับผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเป็นตัวแทนผู้ขนส่งสินค้าพิพาทของโจทก์ซึ่งอยู่ต่างประเทศ และในระหว่างที่จำเลยทั้งสองร่วมกันขนถ่ายสินค้าพิพาทจากเรือขึ้นรถบรรทุกเพื่อนำไปเก็บในคลังสินค้า ลูกจ้างของจำเลยทั้งสองได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อทำให้สินค้าพิพาทตกจากรถเสียหาย จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่า จำเลยทั้งสองไม่ได้เป็นผู้ขนส่งแต่เป็นเพียงตัวแทนเรือและจำเลยทั้งสองมิได้เกี่ยวข้องกับการขนถ่ายสินค้าพิพาทจากเรือไปเก็บในคลังสินค้าศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทในข้อ 3 ว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันขนถ่ายสินค้าพิพาทหรือไม่ เช่นนี้ การที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงในประเด็นข้อพิพาทข้อนี้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันขนถ่ายสินค้าพิพาท แล้ววินิจฉัยต่อไปว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ร่วมขนส่งในการขนส่งหลายทอดโดยเป็นผู้รับขนทอดสุดท้าย จึงเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่เกี่ยวเนื่องกับประเด็นในคำฟ้องและคำให้การซึ่งรวมอยู่ในประเด็นข้อพิพาทข้อนี้นั่นเอง หาได้วินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทไม่
ผู้ขนส่งสินค้าของโจทก์มีหน้าที่ในการนำสินค้าจากเรือขึ้นไปเก็บไว้ในคลังสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยก่อนส่งมอบให้แก่โจทก์จำเลยที่ 1 เป็นผู้แจ้งการมาถึงของเรือให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับตราส่งทราบ ออกใบปล่อยสินค้าให้แก่โจทก์ เรียกเก็บเงินค่าเปิดตู้จากโจทก์ไปจ่ายให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทยเพื่อรับสินค้าจากคลังสินค้า รับมอบสินค้าจากเรือปิยะภูมิเพื่อส่งมอบให้แก่โจทก์ และมีหน้าที่แจ้งความเสียหายของสินค้าแก่โจทก์และบริษัท ส. ผู้ขนส่งทอดแรก ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นผู้ติดต่อทำพิธีการต่าง ๆ กับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำเรือเข้าเทียบท่าคือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย กรมศุลกากรกรมเจ้าท่าและกองตรวจคนเข้าเมือง และจำเลยที่ 2 เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าจากเรือนำเข้าเก็บในคลังสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ว่าจ้างให้บริษัท อ. ดำเนินการดังกล่าว จึงถือได้ว่ากรณีเป็นการขนส่งหลายทอดตามวิธีการขนส่งทางทะเล โดยจำเลยทั้งสองต่างมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการขนส่งทอดสุดท้ายเพื่อให้สินค้าพิพาทได้ขนส่งถึงมือผู้ซื้อ ถือได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ขนส่งทอดสุดท้ายร่วมกันตาม ป.พ.พ. มาตรา 608 และ 618 ซึ่งเป็นบทกฎหมายใกล้เคียงอย่างยิ่งกับกฎหมายว่าด้วยการรับขนทางทะเล
แม้ที่ด้านหลังใบตราส่งจะมีลายเซ็นพร้อมตราประทับของบริษัท จ.ผู้ขนส่งลงไว้ก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงการลงชื่อไว้ลอย ๆ หาได้มีข้อความใดระบุลงไว้ให้ชัดแจ้งว่าผู้ส่งทราบและยอมรับข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามที่ปรากฏในใบตราส่ง การลงชื่อสลักหลังดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงเพื่อโอนใบตราส่งให้แก่โจทก์เพื่อให้โจทก์นำใบตราส่งไปเป็นหลักฐานในการรับสินค้า จึงถือไม่ได้ว่าผู้ส่งได้แสดงความตกลงโดยชัดแจ้งในการจำกัดความรับผิดดังกล่าว ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามที่จำเลยที่ 1 อ้างจึงเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 625
ผู้ขนส่งสินค้าของโจทก์มีหน้าที่ในการนำสินค้าจากเรือขึ้นไปเก็บไว้ในคลังสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยก่อนส่งมอบให้แก่โจทก์จำเลยที่ 1 เป็นผู้แจ้งการมาถึงของเรือให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับตราส่งทราบ ออกใบปล่อยสินค้าให้แก่โจทก์ เรียกเก็บเงินค่าเปิดตู้จากโจทก์ไปจ่ายให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทยเพื่อรับสินค้าจากคลังสินค้า รับมอบสินค้าจากเรือปิยะภูมิเพื่อส่งมอบให้แก่โจทก์ และมีหน้าที่แจ้งความเสียหายของสินค้าแก่โจทก์และบริษัท ส. ผู้ขนส่งทอดแรก ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นผู้ติดต่อทำพิธีการต่าง ๆ กับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำเรือเข้าเทียบท่าคือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย กรมศุลกากรกรมเจ้าท่าและกองตรวจคนเข้าเมือง และจำเลยที่ 2 เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าจากเรือนำเข้าเก็บในคลังสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ว่าจ้างให้บริษัท อ. ดำเนินการดังกล่าว จึงถือได้ว่ากรณีเป็นการขนส่งหลายทอดตามวิธีการขนส่งทางทะเล โดยจำเลยทั้งสองต่างมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการขนส่งทอดสุดท้ายเพื่อให้สินค้าพิพาทได้ขนส่งถึงมือผู้ซื้อ ถือได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ขนส่งทอดสุดท้ายร่วมกันตาม ป.พ.พ. มาตรา 608 และ 618 ซึ่งเป็นบทกฎหมายใกล้เคียงอย่างยิ่งกับกฎหมายว่าด้วยการรับขนทางทะเล
แม้ที่ด้านหลังใบตราส่งจะมีลายเซ็นพร้อมตราประทับของบริษัท จ.ผู้ขนส่งลงไว้ก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงการลงชื่อไว้ลอย ๆ หาได้มีข้อความใดระบุลงไว้ให้ชัดแจ้งว่าผู้ส่งทราบและยอมรับข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามที่ปรากฏในใบตราส่ง การลงชื่อสลักหลังดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงเพื่อโอนใบตราส่งให้แก่โจทก์เพื่อให้โจทก์นำใบตราส่งไปเป็นหลักฐานในการรับสินค้า จึงถือไม่ได้ว่าผู้ส่งได้แสดงความตกลงโดยชัดแจ้งในการจำกัดความรับผิดดังกล่าว ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามที่จำเลยที่ 1 อ้างจึงเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 625
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4593/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ขนส่งหลายทอดร่วมกันรับผิดชอบความเสียหายสินค้า - ข้อจำกัดความรับผิดโมฆะหากไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองเป็นตัวแทนผู้ขนส่งสินค้าพิพาทของโจทก์ซึ่งอยู่ต่างประเทศและในระหว่างที่จำเลยทั้งสองร่วมกันขนถ่ายสินค้าพิพาทจากเรือขึ้นรถบรรทุกเพื่อนำไปเก็บในคลังสินค้าลูกจ้างของจำเลยทั้งสองได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อทำให้สินค้าพิพาทตกจากรถเสียหายจำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าจำเลยทั้งสองไม่ได้เป็นผู้ขนส่งแต่เป็นเพียงตัวแทนเรือและจำเลยทั้งสองมิได้เกี่ยวข้องกับการขนถ่ายสินค้าพิพาทจากเรือไปเก็บในคลังสินค้าศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทในข้อ3ว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันขนถ่ายสินค้าพิพาทหรือไม่เช่นนี้การที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงในประเด็นข้อพิพาทข้อนี้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันขนถ่ายสินค้าพิพาทแล้ววินิจฉัยต่อไปว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ร่วมขนส่งในการขนส่งหลายทอดโดยเป็นผู้รับขนทอดสุดท้ายจึงเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่เกี่ยวเนื่องกับประเด็นในคำฟ้องและคำให้การซึ่งรวมอยู่ในประเด็นข้อพิพาทข้อนี้นั่นเองหาได้วินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทไม่ ผู้ขนส่งสินค้าของโจทก์มีหน้าที่ในการนำสินค้าจากเรือขึ้นไปเก็บไว้ในคลังสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยก่อนส่งมอบให้แก่โจทก์จำเลยที่1เป็นผู้แจ้งการมาถึงของเรือให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับตราส่งทราบออกใบปล่อยสินค้าให้แก่โจทก์เรียกเก็บเงินค่าเปิดตู้จากโจทก์ไปจ่ายให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทยเพื่อรับสินค้าจากคลังสินค้ารับมอบสินค้าจากเรือปิยะภูมิเพื่อส่งมอบให้แก่โจทก์และมีหน้าที่แจ้งความเสียหายของสินค้าแก่โจทก์และบริษัทส. ผู้ขนส่งทอดแรกส่วนจำเลยที่2เป็นผู้ติดต่อทำพิธีการต่าง ๆกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำเรือเข้าเทียบท่าคือการท่าเรือแห่งประเทศไทยกรมศุลกากรกรมเจ้าท่าและกองตรวจคนเข้าเมืองและจำเลยที่2เป็นผู้ขนถ่ายสินค้าจากเรือนำเข้าเก็บในคลังสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยโดยจำเลยที่2เป็นผู้ว่าจ้างให้บริษัทอ. ดำเนินการดังกล่าวจึงถือได้ว่ากรณีเป็นการขนส่งหลายทอดตามวิธีการขนส่งทางทะเลโดยจำเลยทั้งสองต่างมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการขนส่งทอดสุดท้ายเพื่อให้สินค้าพิพาทได้ขนส่งถึงมีผู้ซื้อถือได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ขนส่งทอดสุดท้ายร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา608และ618ซึ่งเป็นบทกฎหมายใกล้เคียงอย่างยิ่งกับกฎหมายว่าด้วยการรับขนทางทะเล แม้ที่ด้านหลังใบตราส่งจะมีลายเซ็นพร้อมตามประทับของบริษัทจ. ผู้ขนส่งลงไว้ก็ตามแต่ก็เป็นเพียงการลงชื่อไว้ลอยๆหาได้มีข้อความใดระบุลงไว้ให้ชัดแจ้งว่าผู้ส่งทราบและยอมรับข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามที่ปรากฏในใบตราส่งการลงชื่อสลักหลังดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงเพื่อโอนใบตราส่งให้แก่โจทก์เพื่อให้โจทก์นำใบตราส่งไปเป็นหลักฐานในการรับสินค้าจึงถือไม่ได้ว่าผู้ส่งได้แสดงความตกลงโดยชัดแจ้งในการจำกัดความรับผิดดังกล่าวข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามที่จำเลยที่1อ้างจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา625