คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 311

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 71 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องเงินสงเคราะห์จากการรถไฟฯ ไม่เป็นการบังคับคดีต่อทรัพย์สินโดยตรง
การรถไฟแห่งประเทศไทยมีข้อบังคับว่าด้วยกองทุนสำหรับจ่ายสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติงานในการรถไฟฯ กรณีออกจากงานอยู่ 2 ฉบับ ซึ่งผู้ออกจากงานไม่ว่าเพราะเหตุใด (นอกจากถูกไล่ออก)อาจเลือกรับเงินสงเคราะห์ครั้งเดียวหรือเป็นรายเดือนตามข้อบังคับฉบับหนึ่งฉบับใดก็ได้ ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นพนักงานของการรถไฟฯ และลาออกจากงานย่อมมีสิทธิเรียกร้องเงินสงเคราะห์จากการรถไฟฯสุดแต่จะเลือก แม้ยังไม่เลือก เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็มีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดเงินสงเคราะห์ครั้งเดียวตามสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้วิธีหนึ่ง ให้การรถไฟฯส่งเงินนั้นมายังศาลได้
ความในมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2494 ที่ว่า ทรัพย์สินของการรถไฟฯ ย่อมไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีนั้น มุ่งหมายถึงการบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของการรถไฟฯโดยตรง กรณีที่ศาลมีคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งมีสิทธิจะได้รับเงินสงเคราะห์จากการรถไฟฯ หาใช่เป็นการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของการรถไฟโดยตรงไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายัดเงินสงเคราะห์จากการรถไฟฯ ชำระหนี้ได้ แม้ยังมิได้เลือกวิธีรับเงิน
การรถไฟแห่งประเทศไทยมีข้อบังคับว่าด้วยกองทุนสำหรับจ่ายสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติงานในการรถไฟฯ กรณีออกจากงานอยู่ 2 ฉบับ ซึ่งผู้ออกจากงานไม่ว่าเพราะเหตุใด (นอกจากถูกไล่ออก) อาจเลือกรับเงินสงเคราะห์ครั้งเดียวหรือเป็นรายเดือนตามข้อบังคับฉบับหนึ่งฉบับใดก็ได้ ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นพนักงานของการรถไฟฯ และลาออกจากงานย่อมมีสิทธิเรียกร้องเงินสงเคราะห์จากการรถไฟฯ สุดแต่จะเลือก แม้ยังไม่เลือกเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็มีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดเงินสงเคราะห์ครั้งเดียวตามสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้วิธีหนึ่งให้การรถไฟฯส่งเงินนั้นมายังศาลได้
ความในมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 ที่ว่าทรัพย์สินของการรถไฟฯ ย่อมไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีนั้น มุ่งหมายถึงการบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของการรถไฟฯโดยตรง กรณีที่ศาลมีคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งมีสิทธิจะได้รับเงินสงเคราะห์จากการรถไฟฯ หาใช่เป็นการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของการรถไฟโดยตรงไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี การอายัดสิทธิเรียกร้องจากบุคคลภายนอก ไม่ต้องยึดทรัพย์ลูกหนี้ก่อน
คดีที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งกำหนดให้ชำระเงินจำนวนหนึ่งนั้น วิธีอายัดเงินที่บุคคลภายนอกจะต้องชำระให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาในภายหลังก็ตกอยู่ภายใต้การบังคับคดีเช่นเดียวกับการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้โดยตรง โดยไม่จำต้องกระทำก่อนหลังตามลำดับเลขหมายที่ระบุไว้ในมาตรา 282 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนั้น
มาตรา 310 ที่บัญญัติว่า 'เมื่อได้มีการยึดทรัพย์แล้ว สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้อันมีต่อบุคคลภายนอกนั้น ให้จัดการดังต่อไปนี้ ฯลฯ' นั้นมีความหมายว่า เมื่อศาลได้ออกหมายบังคับคดีแล้ว ซึ่งในลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง และ หมวด 2 บัญญัติวิธีการยึดทรัพย์ไว้ก่อนการอายัดอันเป็นบทมาตราที่เรียงต่อกันมาเท่านั้นมิได้มีความหมายจำกัดว่า จะต้องทำการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาก่อนแล้วจึงจะอายัดสิทธิเรียกร้องได้
ศาลชั้นต้นได้ออกหมายบังคับคดีระบุให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการอายัดเงินค่าหุ้นจาก พ. มิใช่คำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีหากแต่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการไปตามคำสั่งของศาลเท่านั้น
ข้อที่ผู้ร้องฎีกาว่า โจทก์ไม่ได้ส่งคำสั่งอายัดให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาทราบ คำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีถึงผู้ร้องไม่มีข้อห้ามชำระเงินแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือว่าห้ามลูกหนี้งดเว้นการจำหน่ายสิทธิเรียกร้อง ผู้ร้องไม่ได้ว่ามาแต่ศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องของบุคคลภายนอกตามคำพิพากษา: ไม่ต้องยึดทรัพย์ลูกหนี้ก่อน
คดีที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งกำหนดให้ชำระเงินจำนวนหนึ่งนั้นวิธีอายัดเงินที่บุคคลภายนอกจะต้องชำระให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาในภายหลังก็ตกอยู่ภายใต้การบังคับคดีเช่นเดียวกับการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้โดยตรง โดยไม่จำต้องกระทำก่อนหลังตามลำดับเลขหมายที่ระบุไว้ในมาตรา 282ประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนั้น
มาตรา 310 ที่บัญญัติว่า "เมื่อได้มีการยึดทรัพย์แล้ว สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้อันมีต่อบุคคลภายนอกนั้น ให้จัดการดังต่อไปนี้ ฯลฯ" นั้น มีความหมายว่า เมื่อศาลได้ออกหมายบังคับคดีแล้ว ซึ่งในลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง และ หมวด 2 บัญญัติวิธีการยึดทรัพย์ไว้ก่อนการอายัดอันเป็นบทมาตราที่เรียงต่อกันมาเท่านั้นมิได้มีความหมายจำกัดว่าจะต้องทำการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาก่อนแล้วจึงจะอายัดสิทธิเรียกร้องได้
ศาลชั้นต้นได้ออกหมายบังคับคดีระบุให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการอายัดเงินค่าหุ้นจาก พ. มิใช่คำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีหากแต่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการไปตามคำสั่งของศาลเท่านั้น
ข้อที่ผู้ร้องฎีกาว่า โจทก์ไม่ได้ส่งคำสั่งอายัดให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาทราบ คำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีถึงผู้ร้องไม่มีข้อห้ามชำระเงินแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือว่าห้ามลูกหนี้งดเว้นการจำหน่ายสิทธิเรียกร้อง ผู้ร้องไม่ได้ว่ามาแต่ศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องเงินจากบุคคลภายนอกไม่ใช่การยึดทรัพย์ เจ้าหนี้ต้องขอเฉลี่ยก่อนชำระเงิน
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งส่งเงินซึ่งจำเลยมีสิทธิจะได้รับมาตามคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดี ดังนี้มิใช่เรื่องเจ้าพนักงานบังคับคดียึดเงินจำนวนนี้มา
การยึดทรัพย์ต้องเป็นทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเงินที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพียงมีสิทธิได้รับจากสำนักงานสลากกินแบ่งซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เป็นเรื่องอายัดเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเสียก่อนมีการชำระเงินตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรค 4 ผู้ร้องยื่นคำร้องภายหลังที่สำนักงานสลากกินแบ่งชำระเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว ผู้ร้องจึงหมดสิทธิขอเฉลี่ยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินที่ลูกหนี้มีสิทธิได้รับจากบุคคลภายนอก เจ้าหนี้ต้องขอเฉลี่ยก่อนการชำระเงิน
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งส่งเงินซึ่งจำเลยมีสิทธิจะได้รับมาตามคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดี ดังนี้มิใช่เรื่องเจ้าพนักงานบังคับคดียึดเงินจำนวนนี้มา
การยึดทรัพย์ต้องเป็นทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเงินที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพียงมีสิทธิได้รับจากสำนักงานสลากกินแบ่งซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เป็นเรื่องอายัดเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเสียก่อนมีการชำระเงินตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรค 4ผู้ร้องยื่นคำร้องภายหลังที่สำนักงานสลากกินแบ่งชำระเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว ผู้ร้องจึงหมดสิทธิขอเฉลี่ยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินจากตัวแทน – ทรัพย์สินของวัด การบังคับคดีและการคุ้มครองสิทธิของวัด
การที่ศาลชั้นต้นออกคำสั่งห้ามจำเลยถอนเงินจากกรมการศาสนาในฐานะที่กรมการศาสนาเป็นผู้จัดการผลประโยชน์ของวัดจันทรสโมสรผู้ร้องจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และมีหมายแจ้งคำสั่งที่ห้ามจำเลยไปให้กรมการศาสนาทราบนั้น มิใช่วิธีการอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยต่อกรมการศาสนาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 311จึงต้องถือว่าไม่มีการอายัดสิทธิเรียกร้องเมื่อไม่มีการอายัดก็จะนำมาตรา 312 วรรคสอง มาใช้บังคับไม่ได้
เงินที่จำเลยจ่ายให้กรมการศาสนาเป็นเงินบำรุงวัดจันทรสโมสรผู้ร้องกรมการศาสนาได้นำฝากเข้าบัญชีวัดจันทรสโมสรแล้วจึงเป็นทรัพย์สินของวัดจันทรสโมสรไม่ใช่ทรัพย์สินของจำเลยโจทก์ขอให้ยึดเงินจำนวนนี้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินจากตัวแทนของวัด และการยึดทรัพย์สินที่เป็นของวัด: วิธีการอายัดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายทำให้การยึดทรัพย์สินเป็นโมฆะ
การที่ศาลชั้นต้นออกคำสั่งห้ามจำเลยถอนเงินจากกรมการศาสนา ในฐานะที่กรมการศาสนาเป็นผู้จัดการผลประโยชน์ของวัดจันทรสโมสรผู้ร้อง จนกว่าคดีจะถึงที่สุด และมีหมายแจ้งคำสั่งที่ห้ามจำเลยไปให้กรมการศาสนาทราบนั้น มิใช่วิธีการอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยต่อกรมการศาสนาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 311 จึงต้องถือว่าไม่มีการอายัดสิทธิเรียกร้อง เมื่อไม่มีการอายัดก็จะนำมาตรา 312 วรรคสอง มาใช้บังคับไม่ได้
เงินที่จำเลยจ่ายให้กรมการศาสนาเป็นเงินบำรุงวัดจันทรสโมสรผู้ร้อง กรมการศาสนาได้นำฝากเข้าบัญชีวัดจันทรสโมสรแล้ว จึงเป็นทรัพย์สินของวัดจันทรสโมสรไม่ใช่ทรัพย์สินของจำเลย โจทก์ขอให้ยึดเงินจำนวนนี้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินกรมการศาสนาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่แท้จริงของวัด
การที่ศาลชั้นต้นออกคำสั่งห้ามจำเลยถอนเงินจากกรมการศาสนา. ในฐานะที่กรมการศาสนาเป็นผู้จัดการผลประโยชน์ของวัดจันทรสโมสรผู้ร้อง. จนกว่าคดีจะถึงที่สุด และมีหมายแจ้งคำสั่งที่ห้ามจำเลยไปให้กรมการศาสนาทราบนั้น. มิใช่วิธีการอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยต่อกรมการศาสนาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 311. จึงต้องถือว่าไม่มีการอายัดสิทธิเรียกร้อง. เมื่อไม่มีการอายัดก็จะนำมาตรา 312 วรรคสอง มาใช้บังคับไม่ได้.
เงินที่จำเลยจ่ายให้กรมการศาสนาเป็นเงินบำรุงวัดจันทรสโมสรผู้ร้อง.กรมการศาสนาได้นำฝากเข้าบัญชีวัดจันทรสโมสรแล้ว.จึงเป็นทรัพย์สินของวัดจันทรสโมสรไม่ใช่ทรัพย์สินของจำเลย.โจทก์ขอให้ยึดเงินจำนวนนี้มิได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963-965/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินก่อนคำพิพากษา: สิทธิในการขอเฉลี่ยทรัพย์ ผู้ร้องขอได้เมื่อใด
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้อายัดเงินที่บุคคลภายนอกจะต้องชำระให้แก่จำเลยไว้ก่อนศาลพิพากษาคำสั่งศาลอายัดเงินย่อมมีผลต่อไปจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามมาตรา 260(2)
ตามมาตรา 290 วรรคสี่ต้องยื่นคำขอเฉลี่ยเสียก่อนที่มีการชำระเงินหรือส่งทรัพย์สินตามที่อายัดไว้ กำหนดเวลาชำระเงินต้องมีในคำสั่งอายัดตามมาตรา 311 จึงเห็นได้ว่ามีกำหนดเวลาให้ยื่นคำขอเฉลี่ยได้ก่อนที่มีการชำระเงินหรือส่งทรัพย์สินตามที่อายัดไว้ในหมายอายัดชั่วคราวของศาลไม่ได้กำหนดวันเวลาที่จำเลยจะต้องชำระเงินไว้ จึงไม่มีกำหนดเวลาที่ผู้ร้องจะขอเฉลี่ยได้ก่อนที่มีการชำระเงิน ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเมื่อทรัพย์ที่อายัดได้ส่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแล้วได้
of 8