คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 340

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 391 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1353/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ร่วมกันของจำเลยหลายคน: ศาลต้องพิจารณาคดีทั้งหมด
จำเลยอุทธรณ์โดยในแผ่นแรกของอุทธรณ์ระบุว่าจำเลยที่ 3 เป็นผู้ยื่นอุทธรณ์ และในท้ายอุทธรณ์ก็ลงลายมือชื่อจำเลยที่ 3 เพียงผู้เดียวในช่องผู้อุทธรณ์ แต่ในคำบรรยายฟ้องอุทธรณ์กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสี่ไม่ได้กระทำความผิด และจำเลยทั้งสี่ได้ลงลายมือชื่อไว้ด้วยกันในตอนท้ายเมื่อสิ้นข้อความที่อุทธรณ์เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยทั้งสี่ร่วมกันอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีเฉพาะจำเลยที่ 3 จึงเป็นการไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา แม้คู่ความมิได้ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานโจทก์ไม่น่าเชื่อถือ ศาลฎีกายกฟ้อง ปัญหาพยานขัดแย้งกัน
โจทก์มีประจักษ์พยานเพียงปากเดียวที่ยืนยันว่าจำเลยกับพวกทำการปล้นทรัพย์ผู้เสียหายแต่คำเบิกความของประจักษ์พยานดังกล่าวแตกต่างขัดกันกับพยานโจทก์บางปากและขัดต่อเหตุผลคำเบิกความของประจักษ์พยานดังกล่าวจึงเป็นพิรุธน่าระแวงสงสัยไม่น่าเชื่อพยานหลักฐานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลย เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ที่ไม่พอฟังลงโทษจำเลยคนที่ฎีกาเป็นข้อเท็จจริงในส่วนลักษณะคดีศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยคนที่มิได้ฎีกาด้วยได้ตามป.วิ.อ.มาตรา213,225.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความบทลงโทษหนักขึ้นเฉพาะผู้กระทำผิดโดยตรงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี
มาตรา340ตรีเป็นบทลงโทษผู้กระทำความผิดตามมาตรา339,339ทวิ,340หรือ340ทวิหนักขึ้นจึงต้องตีความโดยเคร่งครัดคือหมายความเฉพาะตัวผู้กระทำตามที่ระบุไว้ในมาตรา340ตรีเท่านั้นการที่พวกของจำเลย2คนกระทำผิดโดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะแต่จำเลยไม่ได้ใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิดจำเลยจึงไม่มีความผิดตามมาตรา340ตรีคงมีความผิดตามมาตรา340วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความบทลงโทษหนักขึ้นตามมาตรา 340 ตรี ต้องพิจารณาเฉพาะตัวผู้กระทำความผิดโดยตรง
มาตรา 340 ตรี เป็นบทลงโทษผู้กระทำความผิดตามมาตรา 339, 339 ทวิ, 340 หรือ 340 ทวิ หนักขึ้น จึงต้องตีความโดยเคร่งครัด คือ หมายความเฉพาะตัวผู้กระทำตามที่ระบุไว้ในมาตรา 340 ตรีเท่านั้น การที่พวกของจำเลย 2 คนกระทำผิดโดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ แต่จำเลยไม่ได้ใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิด จำเลยจึงไม่มีความผิดตามมาตรา 340 ตรี คงมีความผิดตามมาตรา 340 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์รวมความผิดฐานลักทรัพย์ ศาลลงโทษฐานลักทรัพย์ได้ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นความผิดที่รวมการกระทำผิดฐานลักทรัพย์อยู่ด้วนในตัวดังนั้นแม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์แต่เมื่อข้อเท็จจริงในทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ศาลก็ลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา192วรรคท้าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลลงโทษฐานลักทรัพย์ได้แม้ฟ้องปล้นทรัพย์ หากข้อเท็จจริงพิจารณาได้ความว่าเป็นการลักทรัพย์
ความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นความผิดที่รวมการกระทำผิดฐานลักทรัพย์อยู่ด้วนในตัว ดังนั้น แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์แต่เมื่อข้อเท็จจริงในทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ ศาลก็ลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4550/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพชั้นสอบสวนใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ หากมีพยานหลักฐานประกอบยืนยันความสมัครใจและตามความสัตย์จริง
คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนอาจใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ หากมีพยานหลักฐานประกอบให้ฟังได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง
คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนมีความยาวกว่า 20หน้ากระดาษพิมพ์ มีรายละเอียดตั้งแต่เริ่มรู้จักพวกของจำเลยที่จำเลยระบุว่าเป็นคนร้ายที่เข้าปล้นทรัพย์ พฤติการณ์ของจำเลยกับพวก ในวันที่ปล้นทรัพย์ และการแบ่งทรัพย์ที่ปล้นมาได้ และจำเลยได้นำ ชี้สถานที่ต่างๆ ที่คำให้การดังกล่าวระบุถึงให้พนักงานสอบสวนถ่ายภาพไว้ กับนำพนักงานสอบสวนไปค้นบ้านพักและจับกุมพวกของจำเลย ที่เข้าปล้นทรัพย์ ดังนี้เชื่อได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน โดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง จึงใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยกระทำความผิด คงมีแต่คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนดังกล่าว กับพยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีว่า ค้นบ้านจำเลยพบเอกสารแสดงการที่จำเลยติดต่อกับพวกที่เข้าปล้นทรัพย์พยานบุคคลที่ว่าจำเลยไปพบบุตรของพวกจำเลยที่เข้าปล้นทรัพย์แล้วถูกเจ้าพนักงานตำรวจยิงตายให้ไปขอรับเงินส่วนแบ่ง กับมีผู้พบเห็นพวกของจำเลย ที่เข้าปล้นทรัพย์มาพักที่บ้านจำเลยก่อนเกิดเหตุศาลรับฟังคำให้การ รับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนข้างต้นประกอบพยานพฤติเหตุแวดล้อม กรณีเหล่านี้ลงโทษจำเลยได้
จำเลยแนะนำพวกของจำเลยให้มาปล้นทรัพย์ และก่อนปล้นทรัพย์ก็ได้ร่วมกันวางแผน แล้วจำเลยขับรถนำพวกของจำเลยไปส่งณ สถานที่แห่งหนึ่งต่อจากนั้นก็นำรถไปจอดซุ่มรออยู่ณ สถานที่อีกแห่งหนึ่งเพื่อรับพวกของจำเลยที่เข้าปล้นทรัพย์ พาหลบหนี ปรากฏว่าขณะที่พวกของจำเลยเข้าปล้นทรัพย์ จำเลย จอดรถซุ่มรออยู่ห่างจากที่เกิดเหตุมากจนไม่อาจที่จะเข้าช่วยเหลือ หรือร่วมมือกับพวกกระทำการปล้นทรัพย์ได้ จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลย เป็นตัวการร่วมกับพวกปล้นทรัพย์รายนี้ แต่พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่า จำเลยได้ช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการที่พวกของจำเลย เข้าปล้นทรัพย์การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุนการกระทำ ความผิด ฐานปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4550/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพชั้นสอบสวนใช้ยันจำเลยได้ หากมีพยานหลักฐานสนับสนุนการให้การสมัครใจและเป็นความจริง
คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนอาจใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ หากมีพยานหลักฐานประกอบให้ฟังได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง
คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนมีความยาวกว่า 20 หน้ากระดาษพิมพ์ มีรายละเอียดตั้งแต่เริ่มรู้จักพวกของจำเลยที่จำเลยระบุว่าเป็นคนร้ายที่เข้าปล้นทรัพย์ พฤติการณ์ของจำเลยกับพวก ในวันที่ปล้นทรัพย์ และการแบ่งทรัพย์ที่ปล้นมาได้ และจำเลยได้นำ ชี้สถานที่ต่าง ๆ ที่คำให้การดังกล่าวระบุถึงให้พนักงานสอบสวนถ่ายภาพไว้ กับนำพนักงานสอบสวนไปค้นบ้านพักและจับกุมพวกของจำเลย ที่เข้าปล้นทรัพย์ ดังนี้เชื่อได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน โดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง จึงใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยกระทำความผิด คงมีแต่คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนดังกล่าว กับพยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีว่า ค้นบ้านจำเลยพบเอกสารแสดงการที่จำเลยติดต่อกับพวกที่เข้าปล้นทรัพย์พยานบุคคลที่ว่าจำเลยไปพบบุตรของพวกจำเลยที่เข้าปล้นทรัพย์แล้วถูกเจ้าพนักงานตำรวจยิงตายให้ไปขอรับเงินส่วนแบ่ง กับมีผู้พบเห็นพวกของจำเลย ที่เข้าปล้นทรัพย์มาพักที่บ้านจำเลยก่อนเกิดเหตุศาลรับฟังคำให้การ รับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนข้างต้นประกอบพยานพฤติเหตุแวดล้อม กรณีเหล่านี้ลงโทษจำเลยได้
จำเลยแนะนำพวกของจำเลยให้มาปล้นทรัพย์ และก่อนปล้นทรัพย์ก็ได้ร่วมกันวางแผน แล้วจำเลยขับรถนำพวกของจำเลยไปส่งณ สถานที่แห่งหนึ่งต่อจากนั้นก็นำรถไปจอดซุ่มรออยู่ณ สถานที่อีกแห่งหนึ่งเพื่อรับพวกของจำเลยที่เข้าปล้นทรัพย์ พาหลบหนี ปรากฏว่าขณะที่พวกของจำเลยเข้าปล้นทรัพย์ จำเลย จอดรถซุ่มรออยู่ห่างจากที่เกิดเหตุมากจนไม่อาจที่จะเข้าช่วยเหลือ หรือร่วมมือกับพวกกระทำการปล้นทรัพย์ได้ จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลย เป็นตัวการร่วมกับพวกปล้นทรัพย์รายนี้ แต่พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่า จำเลยได้ช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการที่พวกของจำเลย เข้าปล้นทรัพย์การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุนการกระทำ ความผิดฐานปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3662/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปล้นทรัพย์หลายกรรมต่อเนื่อง: การพิจารณาความแตกต่างระหว่างกรรมเดียวกับหลายกรรม
จำเลยทั้งเจ็ดร่วมกันปิดถนนปล้นรถยนต์ที่ผ่านมา ตามพฤติการณ์ของจำเลยนั้นเมื่อทำการปล้นผู้โดยสารบนรถยนต์คันใด เสร็จแล้วจึงได้ทำการปล้นผู้โดยสารบนรถคันต่อๆ ไปที่ผ่านมาใหม่ จนครบ 4 คันจึงเป็นการกระทำต่างกรรมกันหาใช่เป็นกรรมเดียวกันไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3662/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล้นทรัพย์หลายกรรมต่อเนื่องกัน: พิจารณาเป็นกรรมต่างหาก
จำเลยทั้งเจ็ดร่วมกันปิดถนนปล้นรถยนต์ที่ผ่านมา ตามพฤติการณ์ของจำเลยนั้นเมื่อทำการปล้นผู้โดยสารบนรถยนต์คันใด เสร็จแล้ว จึงได้ทำการปล้นผู้โดยสารบนรถคันต่อ ๆ ไปที่ผ่านมาใหม่ จนครบ 4 คัน จึงเป็นการกระทำต่างกรรมกันหาใช่เป็นกรรมเดียวกันไม่
of 40