คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 340

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 391 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมปล้นทรัพย์โดยมีส่วนร่วมในการขับรถและสนับสนุนการกระทำผิด
เมื่อฟังว่า จำเลยเป็นคนพาพวกปล้นไปว่าเช่ารถจากผู้หนึ่ง โดยออกอุบายว่าจะจ้างไปบรรทุกหวาย. หลังจากที่ได้หยุดรถรับพรรคพวกจนครบแล้วจำเลยก็เข้าทำหน้าที่ขับเอง. และยังได้หยุดรถแจกอาวุธกัน. ต่อจากนั้นจำเลยก็ขับไปยังบ้านที่เกิดเหตุ.เมื่อเสียงปืนดังขึ้นเจ้าของรถเห็นท่าไม่ดีจะขับรถกลับ. จำเลยเองกลับเป็นผู้ใช้กรรไกรขู่ไม่ให้เจ้าของรถลงจากรถ. แล้วจำเลยเลื่อนรถเข้าไปคอยพรรคพวก และพาหนีกลับจนกระทั่งรถน้ำมันหมด.จำเลยจึงทิ้งรถไปกับพวกคนร้าย. ต้องถือว่าตามพฤติการณ์จำเลยได้ร่วมกระทำความผิดด้วยโดยแบ่งหน้าที่รับเป็นผู้ขับรถให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมปล้นทรัพย์ด้วยการเป็นผู้ขับรถ: ศาลฎีกาตัดสินว่าจำเลยมีส่วนร่วมโดยเจตนา ไม่ใช่ถูกบังคับ
เมื่อฟังว่า จำเลยเป็นคนพาพวกปล้นไปว่าเช่ารถจากผู้หนึ่ง โดยออกอุบายว่าจะจ้างไปบรรทุกหวาย หลังจากที่ได้หยุดรถรับพรรคพวกจนครบแล้วจำเลยก็เข้าทำหน้าที่ขับเอง และยังได้หยุดรถแจกอาวุธกัน ต่อจากนั้นจำเลยก็ขับไปยังบ้านที่เกิดเหตุเมื่อเสียงปืนดังขึ้นเจ้าของรถเห็นท่าไม่ดีจะขับรถกลับ จำเลยเองกลับเป็นผู้ใช้กรรไกรขู่ไม่ให้เจ้าของรถลงจากรถ แล้วจำเลยเลื่อนรถเข้าไปคอยพรรคพวก และพาหนีกลับจนกระทั่งรถน้ำมันหมดจำเลยจึงทิ้งรถไปกับพวกคนร้าย ต้องถือว่าตามพฤติการณ์จำเลยได้ร่วมกระทำความผิดด้วยโดยแบ่งหน้าที่รับเป็นผู้ขับรถให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมปล้นทรัพย์ด้วยการเป็นผู้ขับรถให้คนร้าย มิใช่ถูกบังคับ
เมื่อฟังว่า จำเลยเป็นคนพาพวกปล้นไปว่าเช่ารถจากผู้หนึ่ง โดยออกอุบายว่าจะจ้างไปบรรทุกหวาย หลังจากที่ได้หยุดรถรับพรรคพวกจนครบแล้วจำเลยก็เข้าทำหน้าที่ขับเอง และยังได้หยุดรถแจกอาวุธกัน ต่อจากนั้นจำเลยก็ขับไปยังบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อเสียงปืนดังขึ้นเจ้าของรถเห็นท่าไม่ดีจะขับรถกลับ จำเลยเองกลับเป็นผู้ใช้กรรไกรขู่ไม่ให้เจ้าของรถลงจากรถ แล้วจำเลยเลื่อนรถเข้าไปคอยพรรคพวก และพาหนีกลับจนกระทั่งรถน้ำมันหมด จำเลยจึงทิ้งรถไปกับพวกคนร้าย ต้องถือว่าตามพฤติการณ์จำเลยได้ร่วมกระทำความผิดด้วยโดยแบ่งหน้าที่รับเป็นผู้ขับรถให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาสมคบฉุดคร่าข่มขืน ไม่ถึงเจตนาปล้นทรัพย์ แม้พรรคพวกจะกระทำ
จำเลยสมคบร่วมกับพวกไปดักฉุดคร่าผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา มิได้มุ่งประสงค์ต่อทรัพย์แต่พรรคพวกของจำเลยได้ล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์ของผู้เสียหายอีกคนหนึ่งไปด้วย อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฉับพลันทันที จะฟังว่าจำเลยสมคบรู้เห็นกับพวกในการลักทรัพย์ผู้เสียหายนั้นด้วยไม่ได้ จำเลยคงมีผิดฐานฉุดคร่าและข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาสมคบคิด: การแยกแยะความผิดฐานฉุดคร่าข่มขืนกับความผิดฐานปล้นทรัพย์ แม้มีเหตุการณ์ชิงทรัพย์เกิดขึ้น
จำเลยสมคบร่วมกับพวกไปดักฉุดคร่าผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา มิได้มุ่งประสงค์ต่อทรัพย์แต่พรรคพวกของจำเลยได้ล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์ของผู้เสียหายอีกคนหนึ่งไปด้วย อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฉับพลันทันที จะฟังว่าจำเลยสมคบรู้เห็นกับพวกในการลักทรัพย์ผู้เสียหายนั้นด้วยไม่ได้จำเลยคงมีผิดฐานฉุดคร่าและข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาสมคบข่มขืนกระทำชำเรา ไม่ถือเป็นการสมคบปล้นทรัพย์ แม้จะมีเหตุการณ์ลักทรัพย์เกิดขึ้น
จำเลยสมคบร่วมกับพวกไปดักฉุดคร่าผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา มิได้มุ่งประสงค์ต่อทรัพย์.แต่พรรคพวกของจำเลยได้ล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์ของผู้เสียหายอีกคนหนึ่งไปด้วย อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฉับพลันทันที. จะฟังว่าจำเลยสมคบรู้เห็นกับพวกในการลักทรัพย์ผู้เสียหายนั้นด้วยไม่ได้. จำเลยคงมีผิดฐานฉุดคร่าและข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาในความผิดร่วมกัน ลักทรัพย์-พยายามฆ่า เมื่อการกระทำรุนแรงเกินเจตนา
จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 1 คนสมคบกันไปลักทรัพย์จำเลยทั้งสองรออยู่ที่ประตูรั้วอีกคนหนึ่งเข้าไปเอาทรัพย์ข้างใน และได้ใช้ปืนยิงต่อสู้เจ้าทรัพย์อันเป็นการกระทำของคนร้ายคนนี้เองซึ่งอยู่นอกความมุ่งหมายหรือเจตนาของจำเลยและข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้รู้เห็นว่าพรรคพวกคนที่ใช้ปืนยิงเจ้าทรัพย์นั้นได้พกปืนไปด้วย จำเลยทั้งสองจึงไม่ผิดฐานเป็นตัวการในข้อหาพยายามปล้นทรัพย์และฆ่าเจ้าทรัพย์คงผิดฐานพยายามลักทรัพย์เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการกระทำความผิดร่วม การกระทำเกินเลยขอบเขตที่ตกลงร่วมกัน และความรับผิดทางอาญา
จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 1 คนสมคบกันไปลักทรัพย์.จำเลยทั้งสองรออยู่ที่ประตูรั้วอีกคนหนึ่งเข้าไปเอาทรัพย์ข้างใน. และได้ใช้ปืนยิงต่อสู้เจ้าทรัพย์อันเป็นการกระทำของคนร้ายคนนี้เอง. ซึ่งอยู่นอกความมุ่งหมายหรือเจตนาของจำเลย. และข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้รู้เห็นว่าพรรคพวกคนที่ใช้ปืนยิงเจ้าทรัพย์นั้นได้พกปืนไปด้วย. จำเลยทั้งสองจึงไม่ผิดฐานเป็นตัวการในข้อหาพยายามปล้นทรัพย์และฆ่าเจ้าทรัพย์. คงผิดฐานพยายามลักทรัพย์เท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์และการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ ความผิดฐานลักทรัพย์
ฟ้องว่าจำเลย 4 คนร่วมกันปล้นทรัพย์และฆ่าผู้เสียหายตาย ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยคนหนึ่งรู้เห็นว่าจะมีการปล้นมาก่อน แต่ไม่ได้ความว่าได้ร่วมคิดวางแผนแบ่งหน้าที่รับมากระทำเป็นส่วน ๆ ด้วย จำเลยคนนี้เพียงรับจัดการจำหน่ายทรัพย์ที่จำเลยอื่นปล้นได้โดยเข้ามาร่วมกระทำด้วยเมื่อมีการขนทรัพย์นั้นเคลื่อนที่อันเป็นการลักทรัพย์สำเร็จเท่านั้น การกระทำในตอนใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายนั้น จำเลยนี้อยู่ที่อื่นห่างไกล จำเลยจึงยังไม่มีความผิดฐานร่วมปล้นทรัพย์และฆ่าผู้เสียหาย แต่มีความผิดเพียงฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (7)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์-ฆ่าผู้อื่น: การพิสูจน์เจตนาและขอบเขตการกระทำ
ฟ้องว่าจำเลย 4 คนร่วมกันปล้นทรัพย์และฆ่าผู้เสียหายตายข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยคนหนึ่งรู้เห็นว่าจะมีการปล้นมาก่อนแต่ไม่ได้ความว่าได้ร่วมคิดวางแผนแบ่งหน้าที่รับมากระทำเป็นส่วนๆด้วยจำเลยคนนี้เพียงรับจัดการจำหน่ายทรัพย์ที่จำเลยอื่นปล้นได้โดยเข้ามาร่วมกระทำด้วยเมื่อมีการขนทรัพย์นั้นเคลื่อนที่อันเป็นการลักทรัพย์สำเร็จเท่านั้น การกระทำในตอนใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายนั้นจำเลยนี้อยู่ที่อื่นห่างไกลจำเลยจึงยังไม่มีความผิดฐานร่วมปล้นทรัพย์และฆ่าผู้เสียหาย แต่มีความผิดเพียงฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(7)
of 40