พบผลลัพธ์ทั้งหมด 391 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 666/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเท็จและปล้นทรัพย์ สิทธินำคดีมาฟ้องยังไม่ระงับ
จำเลยทั้งสองกับพวกเข้าล้อมผู้เสียหาย แล้วจำเลยที่ 1 บอกว่าอั๊วเป็นตำรวจพร้อมกับเอาบัตรประจำตัวแลบกระเป๋าเสื้อขอค้น ผู้เสียหายเชื่อจึงยอมให้ค้นจำเลยกับพวกค้นแล้วไม่ได้ของผิดกฎหมายจึงเอามีดออกขู่เอานาฬิกาข้อมือของผู้เสียหายไป ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองฐานปล้นทรัพย์ไปแล้ว โจทก์จึงฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ดังนี้การแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานตำรวจโดยมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น จำเลยที่ 1 ได้กระทำไปครบองค์ความผิดเป็นการเสร็จเด็ดขาดอยู่ในตัวไปตอนหนึ่งแล้วเมื่อไม่ได้ของผิดกฎหมายจำเลยที่ 1 กับพวกจึงเอามีดออกขู่ทำการปล้นทรัพย์เป็นการเริ่มกรรมใหม่อีกกรรมหนึ่งถือว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 สิทธินำคดีมาฟ้องยังไม่ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานเพื่อปล้นทรัพย์และการพยายามฆ่า จำเป็นต้องพิสูจน์การกระทำและเจตนาของผู้กระทำ
ความผิดฐานแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145 นั้น จะต้องปรากฏว่าผู้กระทำผิดได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานด้วยเพียงแต่แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานแล้วก็ขึ้นเรือนปล้นทรัพย์ ยังไม่ครบองค์ความผิดมาตรานี้
คดีฟังได้ว่าจำเลย 3 คนกับพวกอีก 2 คนเป็นคนร้ายปล้นทรัพย์ และคนร้ายได้ใช้ปืนยิงในขณะที่จะหนีเพื่อปกปิดการกระทำความผิดหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม กระสุนปืนถูกบุตรของเจ้าทรัพย์บาดเจ็บสาหัส จำเลยทั้งสามจะมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 ด้วย ก็จะต้องได้ความว่าจำเลยทั้งสามคนร่วมกันในการพยายามฆ่า เมื่อไม่ได้ความว่าใครเป็นคนยิงและผู้ที่ไม่ได้ยิงได้ร่วมกระทำความผิดในการพยายามฆ่าด้วยหรือไม่ ย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรานี้ไม่ได้
คดีฟังได้ว่าจำเลย 3 คนกับพวกอีก 2 คนเป็นคนร้ายปล้นทรัพย์ และคนร้ายได้ใช้ปืนยิงในขณะที่จะหนีเพื่อปกปิดการกระทำความผิดหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม กระสุนปืนถูกบุตรของเจ้าทรัพย์บาดเจ็บสาหัส จำเลยทั้งสามจะมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 ด้วย ก็จะต้องได้ความว่าจำเลยทั้งสามคนร่วมกันในการพยายามฆ่า เมื่อไม่ได้ความว่าใครเป็นคนยิงและผู้ที่ไม่ได้ยิงได้ร่วมกระทำความผิดในการพยายามฆ่าด้วยหรือไม่ ย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรานี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1578-1580/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานปล้นทรัพย์ต้องสอดคล้องกับการกระทำจริง หากฟ้องไม่ได้ระบุการใช้ปืนยิง จะลงโทษตามมาตราที่กำหนดการใช้ปืนไม่ได้
บรรยายฟ้องเรื่องปล้นทรัพย์ว่า จำเลยกับพวกใช้ปืน มีด และไม้เป็นอาวุธทำร้ายเจ้าทรัพย์เป็นอันตรายแก่ร่างกาย โดยมิได้บรรยายว่า ใช้อาวุธปืนยิง ดังนี้จะลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1578-1580/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องฐานปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธปืน การลงโทษตามวรรคสี่ของมาตรา 340 ต้องระบุการใช้ปืนยิง
บรรยายฟ้องเรื่องปล้นทรัพย์ว่าจำเลยกับพวกใช้ปืนมีด และไม้เป็นอาวุธทำร้ายเจ้าทรัพย์เป็นอันตรายแก่ร่างกาย โดยมิได้บรรยายว่า ใช้อาวุธปืนยิง ดังนี้ จะลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ฐานปล้นโดยใช้ปืนยิงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์เนื่องจากจำนวนผู้กระทำผิดไม่ตรงตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลย(สองคน) สมคบกันปล้นโคของเจ้าทรัพย์ไป ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ร้าย 3 คน ร่วมกันกระทำผิดรายนี้ ก็ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ไม่ได้ต้องลงโทษฐานชิงทรัพย์ตาม มาตรา 339
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์เมื่อจำนวนผู้กระทำผิดไม่ตรงตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลย(สองคน) สมคบกันปล้นโคของเจ้าทรัพย์ไป ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ร้าย 3 คน ร่วมกันกระทำผิดรายนี้ ก็ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ไม่ได้ ต้องลงโทษฐานชิงทรัพย์ ตาม มาตรา 339
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามปล้นทรัพย์ แม้ยังไม่ทันได้ทรัพย์
ในความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์นั้น แม้จำเลยจะยังไม่ทันได้รับหรือแตะต้องทรัพย์เลย ก็เข้าขั้นพยายามปล้นทรัพย์ตามกฎหมายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามปล้นทรัพย์ แม้ยังไม่ทันได้ทรัพย์ ก็ถือเป็นความผิดสำเร็จได้ตามกฎหมาย
ในความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์นั้น แม้จำเลยจะยังไม่ทันได้รับหรือแตะต้องทรัพย์เลย ก็เข้าขั้นพยายามปล้นทรัพย์ตามกฎหมายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 230/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามปล้นทรัพย์: การยับยั้งการกระทำด้วยตนเองไม่ถือเป็นอุปสรรค
การกระทำของจำเลยเป็นการพยายามปล้นทรัพย์ตามกฎหมาย แต่การที่พวกจำเลยมิได้กระทำไปจนบรรลุผลสำเร็จ เพราะเห็นว่าผู้เสียหายเป็นพวกเดียวกัน จึงหยุดการกระทำเสียนั้น เป็นการยับยั้งเสียเอง หาใช่เพราะมีอุปสรรคอื่นขัดขวาง จำเลยจึงยังไม่ต้องรับโทษสำหรับการพยายามกระทำความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 82.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 230/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามปล้นทรัพย์โดยหยุดกระทำเมื่อเห็นว่าเป็นพวกเดียวกัน ไม่ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 82
การกระทำของจำเลยเป็นการพยายามปล้นทรัพย์ตามกฎหมายแต่การที่พวกจำเลยมิได้กระทำไปจนบรรลุผลสำเร็จ เพราะเห็นว่าผู้เสียหายเป็นพวกเดียวกัน จึงหยุดการกระทำเสียนั้นเป็นการยับยั้งเสียเองหาใช่เพราะมีอุปสรรคอื่นขัดขวางจำเลยจึงยังไม่ต้องรับโทษสำหรับการพยายามกระทำความผิดนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 82