คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 183

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5564/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการนำสืบข้อเท็จจริงใหม่นอกคำให้การ และผลกระทบต่อการวินิจฉัยของศาล
จำเลยให้การว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยซึ่งผู้ตายยกให้แต่กลับนำสืบว่าที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณะ ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากพยานนอกข้อต่อสู้ในคำให้การและนอกประเด็นพิพาทที่ศาลกำหนดไว้ ไม่เกี่ยวกับที่คู่ความจะต้องนำสืบ ศาลจะรับฟังมาวินิจฉัยเป็นข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ไม่ได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5546/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยนอกประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลย ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องว่า ซื้อที่ดินพิพาทจาก พ.แล้วให้จำเลยครอบครองแทน จำเลยให้การว่าจำเลยซื้อที่ดินพิพาทจาก พ. และครอบครองตลอดมา คดีไม่มีประเด็นเรื่องจำเลยครอบครองแทนแล้วเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งการครอบครอง ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยเปลี่ยนลักษณะการครอบครอง จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5546/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงลักษณะการครอบครองที่ดินและการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลย ศาลฎีกาวินิจฉัยให้กลับคำพิพากษา
โจทก์ฟ้องว่า ซื้อที่ดินพิพาทจาก พ.แล้วให้จำเลยครอบครองแทน จำเลยให้การว่าจำเลยซื้อที่ดินพิพาทจาก พ. และครอบครองตลอดมา คดีไม่มีประเด็นเรื่องจำเลยครอบครองแทนแล้วเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งการครอบครอง ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยเปลี่ยนลักษณะการครอบครอง จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5530/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลิขสิทธิ์ภาพการ์ตูน: เจ้าของลิขสิทธิ์คือผู้สร้างสรรค์ ไม่ใช่ผู้ว่าจ้าง การดัดแปลงและโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการละเมิด
โจทก์มิได้สร้างสรรค์ภาพต้นแบบขึ้นโดยการรับจ้างจำเลย จำเลยจึงไม่ใช่ผู้ว่าจ้างอันจะมีลิขสิทธิ์ในงานนั้นตาม มาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 โจทก์ย่อมเป็น เจ้าของลิขสิทธิ์ในงานดังกล่าว จำเลยได้ดัดแปลง และนำงาน อันมีลิขสิทธิ์ของโจทก์ออกโฆษณาโดยมิได้รับอนุญาตจากโจทก์ ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการละเมิด ลิขสิทธิ์ของโจทก์ แม้ตามคำฟ้องของโจทก์จะได้บรรยายว่า การกระทำของ จำเลยเป็นการละเมิดต่อชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์และมีคำขอท้ายฟ้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายส่วนนี้ด้วยก็ตามแต่ในชั้นชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเรื่องละเมิดต่อชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์เป็นประเด็นพิพาทไว้และโจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านว่า ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นพิพาทไว้ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน จึงต้องถือว่าโจทก์สละประเด็นข้อนี้แล้ว การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกประเด็นดังกล่าวย่อมเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นไม่ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5529/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีที่ดินผิดแปลง แต่ศาลยังคงบังคับได้หากระบุแปลงที่ดินได้อย่างชัดเจน
ปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ว่า โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 9923 เป็นของโจทก์ แต่ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 9927 ศาลจะบังคับคดีได้หรือไม่เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาก่อนศาลฎีกาเห็นควรยกขึ้นวินิจฉัยให้ โจทก์บรรยายฟ้องด้วยว่า ที่ดินพิพาทเดิมเป็นที่ดินตามส.ค.1 เลขที่ 273 จำเลยก็ให้การยอมรับข้อเท็จจริงดังกล่าวแม้โจทก์อ้างเลขที่ของโฉนดที่ดินพิพาทผิดไป แต่การบังคับคดีเกี่ยวกับที่ดินพิพาทก็แน่นอนว่าเป็นที่ดินแปลงใด การบังคับคดีจึงย่อมกระทำได้ ไม่ถือว่าเป็นการเกินคำขอ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5529/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้ฟ้องผิดเลขที่โฉนด ศาลยังบังคับคดีได้ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน
ปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ว่า โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่ดินโฉนดเลขที่9923 เป็นของโจทก์ แต่ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 9927 ศาลจะบังคับคดีได้หรือไม่เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาก่อนศาลฎีกาเห็นควรยกขึ้นวินิจฉัยให้
โจทก์บรรยายฟ้องด้วยว่า ที่ดินพิพาทเดิมเป็นที่ดินตาม ส.ค.1 เลขที่ 273จำเลยก็ให้การยอมรับข้อเท็จจริงดังกล่าว แม้โจทก์อ้างเลขที่ของโฉนดที่ดินพิพาทผิดไป แต่การบังคับคดีเกี่ยวกับที่ดินพิพาทก็แน่นอนว่าเป็นที่ดินแปลงใด การบังคับคดีจึงย่อมกระทำได้ ไม่ถือว่าเป็นการเกินคำขอ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5380/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: ผลผูกพันเมื่อที่พิพาทไม่อยู่ใน น.ส.3ก. และการยกที่ดินให้แก่โจทก์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุกที่พิพาทต่อมาโจทก์จำเลยบันทึกตกลงกันให้เจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดสอบเขตหากที่พิพาทอยู่นอก น.ส.3ก. ของจำเลย จำเลยยอมยกที่พิพาทให้โจทก์ผลการรังวัดที่พิพาทอยู่นอก น.ส.3ก. ของจำเลย จำเลยไม่ยอมออกจากที่พิพาท อ้างว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย ดังนี้ ประเด็นแห่งคดีมีว่าข้อตกลงตามบันทึกดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความหรือไม่ ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยมีข้อความว่า หากที่พิพาทอยู่นอก น.ส.3ก. ของจำเลย จำเลยยอมยกที่พิพาทให้โจทก์ ดังนี้ข้อความดังกล่าวเป็นการระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยเกี่ยวกับที่พิพาท เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 คำให้การจำเลยไม่ปรากฏว่า จำเลยได้ให้การว่าได้แย่งการครอบครองที่พิพาทจากโจทก์ จึงไม่มีประเด็นเรื่องกำหนดเวลาการฟ้องคดีเพื่อเอาคืนการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5380/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันเมื่อผลรังวัดเป็นไปตามข้อตกลง และเป็นเหตุให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุกที่พิพาทต่อมาโจทก์จำเลยบันทึกตกลงกันให้เจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดสอบเขตหากที่พิพาทอยู่นอก น.ส.3ก. ของจำเลย จำเลยยอมยกที่พิพาทให้โจทก์ผลการรังวัดที่พิพาทอยู่นอก น.ส.3ก. ของจำเลย จำเลยไม่ยอมออกจากที่พิพาท อ้างว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย ดังนี้ ประเด็นแห่งคดีมีว่าข้อตกลงตามบันทึกดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความหรือไม่
ตามบันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยมีข้อความว่า หากที่พิพาทอยู่นอก น.ส.3ก. ของจำเลย จำเลยยอมยกที่พิพาทให้โจทก์ ดังนี้ข้อความดังกล่าวเป็นการระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยเกี่ยวกับที่พิพาท เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850
คำให้การจำเลยไม่ปรากฏว่า จำเลยได้ให้การว่าได้แย่งการครอบครองที่พิพาทจากโจทก์ จึงไม่มีประเด็นเรื่องกำหนดเวลาการฟ้องคดีเพื่อเอาคืนการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5320/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ในคดีมรดก: หากโจทก์ไม่มีพยานสนับสนุนข้ออ้าง ศาลไม่จำต้องวินิจฉัยพยานจำเลย
ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์นำพยานเข้าสืบก่อนตามภาระการพิสูจน์เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ปรากฏตามข้ออ้างของตน โจทก์ก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีโดยไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5320/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ในคดีมรดก: โจทก์ไม่นำสืบหลักฐานตามภาระการพิสูจน์ ศาลไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยพยานจำเลย
ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์นำพยานเข้าสืบก่อนตามภาระการพิสูจน์เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ปรากฏตามข้อ อ้างของตน โจทก์ก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีโดยไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของจำเลย
of 253