คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 627

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 45 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3401/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งทางทะเล: ข้อตกลงที่ต้องชัดแจ้ง
กรณีรับขนส่งทางทะเลปรากฏว่าผู้ขายสัญชาติอเมริกันได้ส่งสินค้าประเภทอะไหล่รถแทรกเตอร์จำนวน2ตู้คอนเทนเนอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกามาให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดส.ผู้ซื้อที่กรุงเทพมหานครโดยบริษัทจำเลยสัญชาติเดนมาร์คซึ่งประกอบการพาณิชย์ในประเทศไทยเป็นผู้ขนส่งจำเลยได้ออกใบตราส่งให้แก่ผู้ส่งสินค้าระบุเงื่อนไขไว้ด้านหลังใบตราส่งว่าผู้รับขนจะไม่มีความรับผิดสำหรับความสูญหายหรือเสียหายที่เกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับสินค้าเกินไปกว่า500เหรียญสหรัฐอเมริกาต่อหีบห่อหรือหน่วยแล้วผู้ขายได้มอบใบตราส่งดังกล่าวให้แก่ธนาคารและธนาคารได้สลักหลังส่งมอบให้แก่ผู้ซื้ออีกชั้นหนึ่งผู้ซื้อได้เอาสินค้าดังกล่าวประกันภัยไว้กับโจทก์เมื่อเรือจำเลยมาถึงประเทศไทยผู้ซื้อไปรับสินค้าปรากฏว่าตู้คอนเทนเนอร์ใบหนึ่งแตกสินค้าที่บรรจุมาส่วนหนึ่งสูญหายโจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ซื้อแล้วรับช่วงสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองกรณีนี้ถือว่ามูลคดีเกิดขึ้นในประเทศไทยต้องบังคับตามกฎหมายไทยหามีปัญหาว่าจะพึงใช้กฎหมายใดบังคับอันจะต้องวินิจฉัยตามมาตรา13แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมายพุทธศักราช2481ไม่โดยให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะรับขนในหมวดรับขนของอันเป็นกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาปรับแก่คดี ใบรับใบตราส่งหรือเอกสารอื่นๆทำนองนั้นซึ่งผู้ขนส่งออกให้แก่ผู้ส่งนั้นถ้ามีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งประการใดความนั้นเป็นโมฆะเว้นแต่ผู้ส่งจะได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งการที่จำเลยกำหนดเงื่อนไขไว้ด้านหลังใบตราส่งว่าจำเลยจะไม่ต้องรับผิดสำหรับความสูญหายหรือเสียหายของสินค้าเกินไปกว่า500เหรียญสหรัฐอเมริกาก็คือการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดนั่นเองเมื่อไม่มีลายมือชื่อของผู้ส่งสินค้าลงไว้ด้วยจึงฟังไม่ได้ว่าผู้ส่งได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งข้อความจำกัดความรับผิดดังกล่าวไม่มีผลใช้ยันผู้ส่งได้และไม่อาจใช้ยันผู้รับตราส่งตลอดจนโจทก์ผู้รับประกันภัยซึ่งรับช่วงสิทธิของผู้รับตราส่งมาอีกทอดหนึ่งโจทก์จึงหาผูกพันให้ต้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยเพียง500เหรียญสหรัฐอเมริกาไม่แต่มีสิทธิเรียกตามความเสียหายที่แท้จริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3844/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีรับขนทางทะเล, การจำกัดความรับผิด, และผลของสัญญาประกันภัย
จำเลยเป็นบริษัทในต่างประเทศ สายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพเป็นกิจการของจำเลยจึงเป็นสาขาของจำเลยเมื่อสาขาดังกล่าวมี สำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตศาลชั้นต้นและได้ร่วมกระทำการ ในการขนส่งสินค้ารายพิพาท จึงถือว่าสำนักงานแห่งใหญ่ของ สายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพ เป็นภูมิลำเนาของจำเลยตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 71วรรคสอง โจทก์ย่อมฟ้องจำเลย ต่อศาลชั้นต้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ แต่ให้ยกฟ้อง เนื่องจากโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องโจทก์อุทธรณ์เรื่องอำนาจฟ้อง แม้จำเลย จะมิได้ยกประเด็นข้ออื่นขึ้นโต้แย้งไว้ในคำแก้อุทธรณ์ก็หาทำให้ ประเด็นดังกล่าวยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่เพราะการที่ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้วยังวินิจฉัยประเด็นข้ออื่น ต่อไปอีกก็โดยมีความประสงค์ว่าหากศาลอุทธรณ์ไม่เห็นด้วยในประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องจะได้วินิจฉัยประเด็นอื่นไปทีเดียวโดยไม่ต้องย้อนสำนวน ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง ศาลอุทธรณ์ก็ชอบ ที่จะวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นต่อไปการที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้ และจำเลยยกประเด็นดังกล่าวขึ้นฎีกาต่อมาศาลฎีกาจึงสมควร วินิจฉัยไปทีเดียวโดยไม่ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก
ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายว่าด้วยการรับขนของทางทะเลใช้บังคับ และไม่ปรากฏว่ามีประเพณีการขนส่งทางทะเลที่ถือปฏิบัติกันอยู่ จึงต้องนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะรับขน อันเป็นกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาปรับแก่คดี
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 ห้ามผู้ขนส่งกำหนดข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดไว้ในใบรับ ใบตราส่งหรือเอกสารอื่นๆทำนองนั้นเว้นแต่ผู้ส่งจะแสดงความตกลงด้วยชัดแจ้ง เมื่อฟังไม่ได้ว่าผู้ส่งได้แสดงความตกลงด้วยแจ้งชัด ข้อความจำกัด ความรับผิดจึงไม่มีผลใช้ยันผู้ส่งได้ และไม่อาจใช้ยันผู้รับตราส่ง ซึ่งได้รับช่วงสิทธิมาจากผู้ส่ง ตลอดจนผู้รับประกันภัยซึ่งรับช่วงสิทธิ ของผู้รับตราส่งมาอีกทอดหนึ่ง
สัญญาประกันภัยมีผลบังคับตั้งแต่ผู้รับประกันภัยตกลงรับประกันภัย และได้ออกหนังสือรับประกันภัยล่วงหน้าให้แก่ผู้เอาประกันภัยไว้ สัญญาประกันภัยทำขึ้นก่อนผู้เอาประกันภัยทราบว่าสินค้าสูญหาย แม้ว่าผู้รับประกันภัยจะออกกรมธรรม์ประกันภัยให้หลังจากผู้เอาประกันภัย ทราบว่าสินค้าสูญหายแล้ว สัญญาประกันภัยก็ไม่ตกเป็นโมฆะ
ข้อกำหนดในสัญญาประกันภัยที่ว่าในกรณีวัตถุที่เอาประกันภัยสูญหาย ผู้เอาประกันภัยจะต้องบอกกล่าวให้ตัวแทนของผู้รับประกันภัยทราบ เพื่อทำรายงานสำรวจเสียก่อนมิฉะนั้นจะไม่จ่ายเงินนั้นเป็นวิธีปฏิบัติ เพื่อให้ผู้รับประกันภัยเชื่อถือได้ว่าสินค้าที่เอาประกันภัยสูญหายจริงเท่านั้น หากผู้รับประกันภัยเชื่อถือได้แน่นอนแล้วจะไม่ถือข้อกำหนดนี้เป็น สาระสำคัญก็ได้หาเป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3844/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีขนส่งทางทะเล, การจำกัดความรับผิด, และผลของสัญญาประกันภัย
จำเลยเป็นบริษัทในต่างประเทศ สายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพเป็นกิจการของจำเลย จึงเป็นสาขาของจำเลย เมื่อสาขาดังกล่าวมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตศาลชั้นต้น และได้ร่วมกระทำการ ในการขนส่งสินค้ารายพิพาท จึงถือว่าสำนักงานแห่งใหญ่ของสายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพ เป็นภูมิลำเนาของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 71 วรรคสอง โจทก์ย่อมฟ้องจำเลยต่อศาลชั้นต้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2)
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ แต่ให้ยกฟ้อง เนื่องจากโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์อุทธรณ์เรื่องอำนาจฟ้อง แม้จำเลยจะมิได้ยกประเด็นข้ออื่นขึ้นโต้แย้งไว้ในคำแก้อุทธรณ์ ก็หาทำให้ประเด็นดังกล่าวยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่เพราะการที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้วยังวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นต่อไปอีกก็โดยมีความประสงค์ว่าหากศาลอุทธรณ์ไม่เห็นด้วยในประเด็นเรื่องอำนาจฟ้อง จะได้วินิจฉัยประเด็นอื่นไปทีเดียวโดยไม่ต้องย้อนสำนวน ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นต่อไป การที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้ และจำเลยยกประเด็นดังกล่าวขึ้นฎีกาต่อมา ศาลฎีกาจึงสมควรวินิจฉัยไปทีเดียวโดยไม่ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก
ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายว่าด้วยการรับขนของทางทะเลใช้บังคับ และไม่ปรากฏว่ามีประเพณีการขนส่งทางทะเลที่ถือปฏิบัติกันอยู่ จึงต้องนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะรับขน อันเป็นกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาปรับแก่คดี
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 ห้ามผู้ขนส่งกำหนดข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดไว้ในใบรับ ใบตราส่งหรือเอกสารอื่น ๆ ทำนองนั้นเว้นแต่ผู้ส่งจะแสดงความตกลงด้วยชัดแจ้ง เมื่อฟังไม่ได้ว่าผู้ส่งได้แสดงความตกลงด้วยแจ้งชัด ข้อความจำกัดความรับผิดจึงไม่มีผลใช้ยันผู้ส่งได้ และไม่อาจใช้ยันผู้รับตราส่ง ซึ่งได้รับช่วงสิทธิมาจากผู้ส่ง ตลอดจนผู้รับประกันภัยซึ่งรับช่วงสิทธิของผู้รับตราส่งมาอีกทอดหนึ่ง
สัญญาประกันภัยมีผลบังคับตั้งแต่ผู้รับประกันภัยตกลงรับประกันภัย และได้ออกหนังสือรับประกันภัยล่วงหน้าให้แก่ผู้เอาประกันภัยไว้ สัญญาประกันภัยทำขึ้นก่อนผู้เอาประกันภัยทราบว่าสินค้าสูญหาย แม้ว่าผู้รับประกันภัยจะออกกรมธรรม์ประกันภัยให้หลังจากผู้เอาประกันภัยทราบว่าสินค้าสูญหายแล้ว สัญญาประกันภัยก็ไม่ตกเป็นโมฆะ
ข้อกำหนดในสัญญาประกันภัยที่ว่าในกรณีวัตถุที่เอาประกันภัยสูญหาย ผู้เอาประกันภัยจะต้องบอกกล่าวให้ตัวแทนของผู้รับประกันภัยทราบเพื่อทำรายงานสำรวจเสียก่อน มิฉะนั้นจะไม่จ่ายเงินนั้น เป็นวิธีปฏิบัติเพื่อให้ผู้รับประกันภัยเชื่อถือได้ว่าสินค้าที่เอาประกันภัยสูญหายจริงเท่านั้น หากผู้รับประกันภัยเชื่อถือได้แน่นอนแล้วจะไม่ถือข้อกำหนดนี้เป็นสาระสำคัญก็ได้หา เป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2876-2877/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับขนสินค้าสูญหาย ผู้รับขนต้องรับผิดชดใช้ราคาสินค้าตามสัญญา แม้จะอ้างว่าไม่ได้ตรวจสอบ
ในกรณีรับขน สิทธิของผู้ส่งจะตกเป็นของผู้รับตราส่งต่อเมื่อสินค้าไปถึงตำบลที่กำหนดไว้และผู้รับตราส่งเรียกให้ส่งมอบแล้ว กรณีที่สินค้าสูญหายระหว่างการรับขน ส่งสินค้า โจทก์ได้มอบสินค้าให้จำเลยส่งไปให้แก่ลูกค้าของโจทก์ในประเทศญี่ปุ่นในใบตราส่ง ก็ได้ระบุข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเกี่ยวกับการ ส่งสินค้าตลอดจนค่าขนส่งฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์อย่างใด แม้จะกล่าวในตอนท้ายว่าการกระทำละเมิดของจำเลยทำให้โจทก์ ไม่ได้รับเงินจากลูกค้าก็เห็นได้ว่าฟ้องโจทก์มุ่งประสงค์จะให้จำเลย รับผิดตามสัญญารับขน
สินค้าที่จำเลยรับขนคือพลอยหาใช่หีบห่อหรือกล่องที่ใส่พลอยไม่ เมื่อส่งไปถึงผู้รับตราส่งคงมีแต่หีบห่อหรือกล่องเปล่าย่อมจะถือว่า ของส่งถึงตำบลที่กำหนดให้ส่งแล้ว ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 627 หา ได้ไม่
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะมิได้ ฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยได้ส่งมอบสินค้าหรือวันที่ควรจะส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่งแต่จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะโจทก์ฟ้องคดีเกินกว่า 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์ส่งมอบสินค้าให้จำเลยในฐานะผู้ขนส่งฎีกาของจำเลยจึงแตกต่างไปจากที่จำเลยเคยให้การต่อสู้คดีไว้หาใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยให้ไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเนื่องจากจำเลยไม่สามารถขนส่งสินค้า ของโจทก์ไปให้ลูกค้าได้ตามสัญญาเพราะสินค้าสูญหาย ไปค่าเสียหาย ที่โจทก์เรียกร้องมาในคำฟ้องก็คือราคาสินค้าตามที่กำหนดไว้ใน ใบกำกับสินค้าหากจำเลยเห็นว่าราคาที่โจทก์เรียกร้องสูงเกินไป จำเลยก็อาจให้การต่อสู้คดีและนำสืบให้เห็นเช่นนั้นได้โจทก์หาจำต้องระบุรายละเอียดมาในคำฟ้องว่าราคาสินค้าที่เรียกร้องเป็นราคาต้นทุนเท่าใด กำไรเท่าใดไม่ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
ตามใบตราส่งที่จำเลยออกให้โจทก์เห็นได้ว่า จำเลยรับขนส่งสินค้า ซึ่งระบุว่าเป็นพลอย เป็นสินค้ามีค่าได้กำหนดราคาสินค้าและเสีย ค่าขนส่งพิเศษสำหรับสินค้ามีค่าจำเลยจึงมีหน้าที่ที่จะต้องขนส่งพลอย ตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งไปให้ผู้รับตราส่งตามที่ได้สัญญาไว้แก่โจทก์ หน้าที่ของจำเลยมิใช่มีเพียงแต่ขนส่งกล่องสินค้าโดยไม่ต้องคำนึงว่าสินค้าในกล่องจะมีอยู่หรือไม่ เมื่อสินค้าสูญหายไปไม่ถึงผู้รับตราส่ง จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามมาตรา 616 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จะอ้างว่าจำเลยรับสินค้ามาในสภาพที่อยู่ในหีบห่อเรียบร้อยจำเลย มิได้รู้เห็นในการบรรจุสินค้า จึงไม่ต้องรับผิดหาได้ไม่ ทั้งข้ออ้างดังกล่าวก็ขัดแย้งกับคำให้การของจำเลยซึ่งยอมรับว่าได้ทำสัญญารับขนพลอย ตามรายการที่โจทก์ฟ้องแต่อ้างว่าได้ส่งสินค้าไปถึงจุดหมายปลายทาง โดยไม่มีการสูญหายแล้ว
แม้ราคาสินค้าที่โจทก์เรียกจากจำเลยจะรวมกำไรค่าประกันภัย และค่าขนส่งด้วยแต่ก็เป็นราคาสินค้าที่โจทก์ขายให้แก่ผู้ซื้อซึ่งโจทก์ มีสิทธิได้รับหากมีการ ขนส่งถึงมือผู้ซื้อและราคาจำนวนนี้ได้ระบุไว้ ในใบตราส่งซึ่งถือเสมือนสัญญารับขนระหว่างโจทก์จำเลยทั้งจำเลย ก็มิได้นำสืบหักล้างว่าโจทก์มิได้เสียหายตามจำนวนดังกล่าวโจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าเสียหายตามจำนวนที่เรียกร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2876-2877/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิและความรับผิดของผู้ขนส่งเมื่อสินค้าสูญหายระหว่างขนส่ง และอายุความการฟ้องร้อง
ในกรณีรับขน สิทธิของผู้ส่งจะตกเป็นของผู้รับตราส่งต่อเมื่อสินค้าไปถึงตำบลที่กำหนดไว้และผู้รับตราส่งเรียกให้ส่งมอบแล้ว กรณีที่สินค้าสูญหายระหว่างการรับขนสิทธิของผู้ส่งหาตกเป็นของ ผู้รับตราส่งไม่ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยประกอบธุรกิจขนส่งสินค้า โจทก์ได้มอบสินค้า ให้จำเลยส่งไปให้แก่ลูกค้าของโจทก์ในประเทศญี่ปุ่นในใบตราส่ง ก็ได้ระบุข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเกี่ยวกับการ ส่งสินค้าตลอดจน ค่าขนส่งฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์อย่างใด แม้จะกล่าวในตอนท้ายว่าการกระทำละเมิดของจำเลยทำให้โจทก์ ไม่ได้รับเงินจากลูกค้าก็เห็นได้ว่าฟ้องโจทก์มุ่งประสงค์จะให้จำเลย รับผิดตามสัญญารับขน สินค้าที่จำเลยรับขนคือพลอยหาใช่หีบห่อหรือกล่องที่ใส่พลอยไม่ เมื่อส่งไปถึงผู้รับตราส่งคงมีแต่หีบห่อหรือกล่องเปล่าย่อมจะถือว่า ของส่งถึงตำบลที่กำหนดให้ส่งแล้วตามความหมายของ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 627 หา ได้ไม่ จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะมิได้ ฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยได้ส่งมอบสินค้าหรือวันที่ควรจะส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่งแต่จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะโจทก์ฟ้องคดีเกินกว่า1 ปี นับแต่วันที่โจทก์ส่งมอบสินค้าให้จำเลยในฐานะผู้ขนส่งฎีกาของจำเลยจึงแตกต่างไปจากที่จำเลยเคยให้การต่อสู้คดีไว้หาใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยให้ไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเนื่องจากจำเลยไม่สามารถขนส่งสินค้า ของโจทก์ไปให้ลูกค้าได้ตามสัญญาเพราะสินค้าสูญหาย ไปค่าเสียหาย ที่โจทก์เรียกร้องมาในคำฟ้องก็คือราคาสินค้าตามที่กำหนดไว้ใน ใบกำกับสินค้าหากจำเลยเห็นว่าราคาที่โจทก์เรียกร้องสูงเกินไป จำเลยก็อาจให้การต่อสู้คดีและนำสืบให้เห็นเช่นนั้นได้โจทก์หาจำต้องระบุรายละเอียดมาในคำฟ้องว่าราคาสินค้าที่เรียกร้องเป็นราคาต้นทุนเท่าใด กำไรเท่าใดไม่ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม ตามใบตราส่งที่จำเลยออกให้โจทก์เห็นได้ว่า จำเลยรับขนส่งสินค้า ซึ่งระบุว่าเป็นพลอย เป็นสินค้ามีค่าได้กำหนดราคาสินค้าและเสีย ค่าขนส่งพิเศษสำหรับสินค้ามีค่าจำเลยจึงมีหน้าที่ที่จะต้องขนส่งพลอย ตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งไปให้ผู้รับตราส่งตามที่ได้สัญญาไว้แก่โจทก์ หน้าที่ของจำเลยมิใช่มีเพียงแต่ขนส่งกล่องสินค้าโดยไม่ต้องคำนึงว่าสินค้าในกล่องจะมีอยู่หรือไม่ เมื่อสินค้าสูญหายไปไม่ถึงผู้รับตราส่ง จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามมาตรา616 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จะอ้างว่าจำเลยรับสินค้ามาในสภาพที่อยู่ในหีบห่อเรียบร้อยจำเลย มิได้รู้เห็นในการบรรจุสินค้า จึงไม่ต้องรับผิดหาได้ไม่ ทั้งข้ออ้างดังกล่าวก็ขัดแย้งกับคำให้การของจำเลยซึ่งยอมรับว่าได้ทำสัญญารับขนพลอย ตามรายการที่โจทก์ฟ้องแต่อ้างว่าได้ส่งสินค้าไปถึงจุดหมายปลายทาง โดยไม่มีการสูญหายแล้ว แม้ราคาสินค้าที่โจทก์เรียกจากจำเลยจะรวมกำไรค่าประกันภัย และค่าขนส่งด้วยแต่ก็เป็นราคาสินค้าที่โจทก์ขายให้แก่ผู้ซื้อซึ่งโจทก์ มีสิทธิได้รับหากมีการ ขนส่งถึงมือผู้ซื้อและราคาจำนวนนี้ได้ระบุไว้ ในใบตราส่งซึ่งถือเสมือนสัญญารับขนระหว่างโจทก์จำเลยทั้งจำเลย ก็มิได้นำสืบหักล้างว่าโจทก์มิได้เสียหายตามจำนวนดังกล่าวโจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าเสียหายตามจำนวนที่เรียกร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2678/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้รับมอบขนส่งและการยกเว้นความรับผิดจากเหตุสุดวิสัยที่ต้องป้องกันได้
ฟ้องของโจทก์แปลได้ว่าโจทก์ซื้อวิทยุแล้วมอบให้ผู้ขายเป็นตัวแทนนำเอาวิทยุไปให้จำเลยทำการขนส่งไปให้โจทก์ และในทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่าที่ผู้ขายกระทำไปนั้นเป็นการกระทำในฐานะตัวแทนของโจทก์ โดยโจทก์เป็นผู้จ่ายค่าขนส่งเอง ผู้ขายจึงเป็นตัวแทนของโจทก์ในการทำสัญญาขนส่งวิทยุกับจำเลย โจทก์ซึ่งเป็นตัวการจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญารับขนได้
เหตุสุดวิสัยนั้นต้องเป็นเหตุผิดปกติสุดวิสัยที่คิดว่าจะมีขึ้น หากเป็นกรณีที่อาจป้องกันผลพิบัติได้ถ้าได้จัดการระมัดระวังตามสมควรแล้ว ก็มิใช่เหตุที่จะป้องกันไม่ได้ จำเลยรับขนวิทยุไปให้โจทก์โดยบรรทุกมาในรถ ถ้าหากลูกจ้างของจำเลยใช้ความระมัดระวังตรวจตราดูแลสินค้าที่บรรทุกมาในระหว่างจอดพักรถ คนร้ายก็จะไม่สามารถขโมยเอาวิทยุไปได้จึงอยู่ในวิสัยที่จะป้องกันได้ ถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2678/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญารับขน: ตัวแทน, ตัวการ, ความรับผิดจากความประมาทเลินเล่อ และเหตุสุดวิสัย
ฟ้องของโจทก์แปลได้ว่าโจทก์ซื้อวิทยุแล้วมอบให้ผู้ขายเป็นตัวแทนนำเอาวิทยุไปให้จำเลยทำการขนส่งไปให้โจทก์และในทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่าที่ผู้ขายกระทำไปนั้นเป็นการกระทำในฐานะตัวแทนของโจทก์ โดยโจทก์เป็นผู้จ่ายค่าขนส่งเอง ผู้ขายจึงเป็นตัวแทนของโจทก์ในการทำสัญญาขนส่งวิทยุกับจำเลย โจทก์ซึ่งเป็นตัวการจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญารับขนได้
เหตุสุดวิสัยนั้นต้องเป็นเหตุผิดปกติสุดวิสัยที่คิดว่าจะมีขึ้น หากเป็นกรณีที่อาจป้องกันผลพิบัติได้ถ้าได้จัดการระมัดระวังตามสมควรแล้ว ก็มิใช่เหตุที่จะป้องกันไม่ได้ จำเลยรับขนวิทยุไปให้โจทก์โดยบรรทุกมาในรถ ถ้าหากลูกจ้างของจำเลยใช้ความระมัดระวังตรวจตราดูแลสินค้าที่บรรทุกมาในระหว่างจอดพักรถ คนร้ายก็จะไม่สามารถขโมยเอาวิทยุไปได้จึงอยู่ในวิสัยที่จะป้องกันได้ ถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ซี.ไอ.เอฟ., การประกันภัยขนส่ง, ข้อยกเว้นความรับผิด, ตัวแทนรับผิดแต่ลำพัง
การตกลงซื้อขายกันในราคา ซี.ไอ.เอฟ นั้นหมายความว่า ราคาสินค้าที่ตกลงซื้อขายกันรวมค่าประกันภัยและค่าระวางขนส่งด้วย ฉะนั้น ผู้ขายจึงมีหน้าที่ต้องเอาประกันภัยสินค้านั้นในระหว่างขนส่งไปยังผู้ซื้อ ถือได้ว่าผู้ขายมีส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัยไว้สัญญาประกันภัยที่ผู้ขายทำไว้กับโจทก์จึงมีผลผูกพันกันตามกฎหมายโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้วจึงมีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากจำเลยซึ่งเป็นผู้รับขนส่งได้
การที่ผู้ส่งเพียงแต่ยอมรับใบตราส่งซึ่งมีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่ง เพื่อเป็นหลักฐานไปขอรับเงินค่าสินค้าจากธนาคาร ยังไม่เพียงพอที่จะถือว่าผู้ส่งได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเช่นว่านั้น ข้อยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งที่ระบุไว้ในใบตราส่งจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 625
จำเลยทำสัญญารับขนส่งสินค้าแทนตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ. เมื่อสินค้าสูญหายไปในระหว่างขนส่งจำเลยจะต้องรับผิดตามสัญญานั้นแต่ลำพังตนเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ CIF, หน้าที่ประกันภัย, ข้อจำกัดความรับผิดโมฆะ, ตัวแทนรับผิดชอบสัญญา
การตกลงซื้อขายกันในราคา ซี. ไอ. เอฟ นั้น หมายความว่า ราคาสินค้าที่ตกลงซื้อขายกันรวมค่าประกันภัยและค่าระวางขนส่งด้วย ฉะนั้น ผู้ขายจึงมีหน้าที่ต้องเอาประกันภัยสินค้านั้นในระหว่างขนส่งไปยังผู้ซื้อ ถือได้ว่าผู้ขายมีส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัยไว้สัญญาประกันภัยที่ผู้ขายทำไว้กับโจทก์จึงมีผลผูกพันกันตามกฎหมายโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้วจึงมีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากจำเลยซึ่งเป็นผู้รับขนส่งได้
การที่ผู้ส่งเพียงแต่ยอมรับใบตราส่งซึ่งมีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่ง เพื่อเป็นหลักฐานไปขอรับเงินค่าสินค้าจากธนาคาร ยังไม่เพียงพอที่จะถือว่าผู้ส่งได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเช่นว่านั้น ข้อยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งที่ระบุไว้ในใบตราส่งจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 625
จำเลยทำสัญญารับขนส่งสินค้าแทนตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ เมื่อสินค้าสูญหายไปในระหว่างขนส่งจำเลยจะต้องรับผิดตามสัญญานั้นแต่ลำพังตนเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 62/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับขนสินค้า, ส่วนได้เสีย, ข้อจำกัดความรับผิด, การรับช่วงสิทธิ, คำให้การปฏิเสธ
คำให้การของจำเลยที่ว่า "จำเลยไม่ทราบและไม่ขอรับรอง" เป็นคำให้การที่ไม่ได้แสดงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง ถือไม่ได้ว่าจำเลยให้การปฏิเสธจึงรับฟังข้อเท็จจริงได้ตามฟ้อง
บริษัท ด. และบริษัท อ. ร่วมทุนกันดำเนินธุรกิจขนส่งทางทะเล ใช้ชื่อทางการค้าว่าสายเดินเรือเมอสก์ และเรือซึ่งบรรทุกสินค้ารายนี้เป็นของสายเดินเรือเมอสก์ บริษัททั้งสองซึ่งร่วมทุนกันดังกล่าวจึงเป็นผู้รับขนสินค้ารายนี้ และถือได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นสำนักงานสาขาของบริษัททั้งสองนั้นเป็นผู้รับขนสินค้ารายนี้ด้วย
การที่บริษัท ย. เป็นผู้สั่งสินค้าตามฟ้องเข้ามาจากประเทศสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต ต่อ อินเตอร์เนชั่นแนลแบงค์ออฟไชน่า ถือได้ว่า บริษัท ย. เป็นผู้มีส่วนได้เสียในสินค้าที่เอาประกันไว้นั้น
ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งในใบตราส่งที่พิมพ์เพิ่มเติมขึ้นจากแบบพิมพ์เดิมโดยไม่ปรากฏการรับรู้ของผู้ส่งหรือผู้ตราส่ง จะฟังว่าผู้ส่งหรือผู้ตราส่งตกลงด้วยในข้อจำกัดความรับผิดของจำเลยซึ่งเป็นผู้ขนส่งหาได้ไม่ และเมื่อข้อจำกัดความรับผิดนั้นไม่อาจใช้ยันผู้ส่งหรือผู้ตราส่งเสียแล้ว ก็ย่อมใช้ยันผู้รับตราส่งซึ่งได้รับสิทธิของผู้ส่งมาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 627 ตลอดจนผู้รับช่วงสิทธิของผู้รับตราส่งไม่ได้
of 5