พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจำหน่ายคดีล้มละลาย: ศาลฎีกาเป็นผู้มีอำนาจจำหน่ายคดีหลังจากรับฎีกาแล้ว
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสามเด็ดขาดจำเลยทั้งสามยื่นฎีกา เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยทั้งสามแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานว่า จำเลยที่ 2 ถูกศาลแพ่งธนบุรีสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้ขอให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ออกจากสารบบความ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 15 ดังนี้ ย่อมเป็นอำนาจของศาลฎีกาที่จะสั่งจำหน่ายคดีจำเลยที่ 2 ออกจากสารบบความ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจำเลยที่ 2 ออกจากสารบบความเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจำหน่ายคดีล้มละลาย: ศาลฎีกาเป็นผู้มีอำนาจเมื่อรับฎีกาแล้ว แม้มีการพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อน
จำเลยทั้งสามยื่นฎีกาและศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาแล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รายงานต่อศาลว่า จำเลยที่ 2 ถูกศาลอื่นสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 2 แล้ว อำนาจสั่งจำหน่ายคดีเป็นอำนาจของศาลฎีกา การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องโดยมีคำสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ออกจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5358/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลายต่อคดีอื่นที่เจ้าหนี้อื่นฟ้อง
พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 15 มีความหมายถึง การที่ศาลสั่งในคดีหนึ่งคดีใดให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว ก็ให้จำหน่ายคดีซึ่งเจ้าหนี้อื่นฟ้องไว้เสีย โดยมิต้องคำนึงถึงว่า คดีอื่นนั้น ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในเวลาต่อมาหรือไม่ และ เจ้าหนี้ค่าภาษีอากรย่อมอยู่ในความหมายของคำว่า "เจ้าหนี้อื่น" ใน มาตรานี้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5358/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีล้มละลายเมื่อมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว แม้เป็นเจ้าหนี้ค่าภาษีอากร
ก่อนโจทก์ยื่นฟ้องขอให้จำเลยล้มละลาย เจ้าหนี้อื่นได้ยื่นฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายและศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในคดีดังกล่าวแล้ว ศาลต้องสั่งจำหน่ายคดีของโจทก์โดยไม่ต้องคำนึงว่าศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีของโจทก์หรือไม่ และแม้ว่าโจทก์จะเป็นเจ้าหนี้ค่าภาษีอากรก็ไม่มีกฎหมายยกเว้นว่าไม่ต้องจำหน่ายคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการโอนเงินเข้ากองทรัพย์สินล้มละลายก่อนการบังคับคดีสำเร็จ และผลต่อสิทธิของเจ้าหนี้
วันที่ 26 กันยายน ธนาคารส่งเงินที่มีคำสั่งอายัดไว้ก่อนคำพิพากษาให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อนำมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา แต่เมื่อวันที่ 10 เดือนเดียวกัน ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยไว้ชั่วคราวในคดีล้มละลายศาลจึงสั่งให้โอนเงินไปไว้ในคดีล้มละลาย วันที่1 ตุลาคม โจทก์แถลงขอรับเงิน ศาลสั่งยกคำขอ โจทก์ไม่โต้แย้งคัดค้านคำสั่ง วันที่ 2 ตุลาคม จำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในอีกสำนวนหนึ่ง ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเดิม แล้วสั่งโอนเงินไปไว้ในคดีใหม่ดังนี้ โจทก์จะอาศัยพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 110 มาอ้างว่า การบังคับคดีได้สำเร็จบริบูรณ์เพื่อยันแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ในคดีใหม่ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีล้มละลาย: ทรัพย์สินที่ถูกอายัดก่อนพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ยังคงเป็นทรัพย์สินในคดีล้มละลาย
วันที่ 26 กันยายน ธนาคารส่งเงินที่มีคำสั่งอายัดไว้ก่อนคำพิพากษาให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อนำมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา แต่เมื่อวันที่ 10 เดือนเดียวกัน ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยไว้ชั่วคราวในคดีล้มละลายศาลจึงสั่งให้โอนเงินไปไว้ในคดีล้มละลาย วันที่1 ตุลาคม โจทก์แถลงขอรับเงินศาลสั่งยกคำขอ โจทก์ไม่โต้แย้งคัดค้านคำสั่ง วันที่ 2 ตุลาคม จำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในอีกสำนวนหนึ่ง ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีเดิม แล้วสั่งโอนเงินไปไว้ในคดีใหม่ ดังนี้ โจทก์จะอาศัยพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 110 มาอ้างว่า การบังคับคดีได้สำเร็จบริบูรณ์เพื่อยันแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ในคดีใหม่ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความในคดีล้มละลาย: การฟ้องคดีล้มละลายสะดุดอายุความ การจำหน่ายคดีเริ่มต้นนับอายุความใหม่
การฟ้องคดีล้มละลายเป็นการฟ้องเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้องด้วยไม่ใช่เป็นเพียงการฟ้องเพื่อให้จัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ผู้ล้มละลายแต่อย่างเดียว จึงมีผลให้อายุความสะดุดหยุดลง
การที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีตามคำแถลงของโจทก์คดีล้มละลายเพื่อโจทก์จะไปขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายสำนวนอื่นนั้น กรณีไม่เข้ามาตรา 174 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อายุความจึงเริ่มนับใหม่ตั้งแต่วันที่ศาลสั่งจำหน่ายคดี
การที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีตามคำแถลงของโจทก์คดีล้มละลายเพื่อโจทก์จะไปขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายสำนวนอื่นนั้น กรณีไม่เข้ามาตรา 174 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อายุความจึงเริ่มนับใหม่ตั้งแต่วันที่ศาลสั่งจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความในคดีล้มละลาย: การฟ้องคดีล้มละลายเป็นการตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้อง ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับใหม่เมื่อศาลจำหน่ายคดี
การฟ้องคดีล้มละลายเป็นการฟ้องเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้องด้วย ไม่ใช่เป็นเพียงการฟ้องเพื่อให้จัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ผู้ล้มละลายแต่อย่างเดียว จึงมีผลให้อายุความสะดุดหยุดลง
การที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีตามคำแถลงของโจทก์คดีล้มละลาย เพื่อโจทก์จะไปขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายสำนวนอื่นนั้น กรณีไม่เข้ามาตรา 175 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อายุความจึงเริ่มนับใหม่ตั้งแต่วันที่ศาลสั่งจำหน่ายคดี
การที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีตามคำแถลงของโจทก์คดีล้มละลาย เพื่อโจทก์จะไปขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายสำนวนอื่นนั้น กรณีไม่เข้ามาตรา 175 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อายุความจึงเริ่มนับใหม่ตั้งแต่วันที่ศาลสั่งจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1343/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องล้มละลาย: เจ้าหนี้ตามสัญญาผ่อนชำระหนี้มีสิทธิฟ้องได้ แม้ไม่ได้โอนหนี้ และการจำหน่ายคดีเมื่อจำเลยเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว
จำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้ ส. 30,000 บาท ได้ออกเช็คเป็นการชำระหนี้ให้ก็ขึ้นเงินไม่ได้ และเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราจนจำเลยที่ 1 ต้องเปลี่ยนเช็คให้ใหม่เรื่อยมา ในที่สุดได้ทำสัญญาให้แก่โจทก์ว่าจะผ่อนใช้หนี้ 62,000 บาทให้โจทก์ โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน แม้จะฟังว่าหนี้รายนี้สมบูรณ์เพียงต้นเงิน 30,000 บาท ส่วนดอกเบี้ยเกินอัตราตกเป็นโมฆะไป หนี้ 30,000 บาทนี้ก็ยังผูกพันจำเลย โจทก์ได้ทวงถามสองครั้งในระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่าสามสิบวัน แม้จะทวงถามให้ชำระ 62,000 บาท เกินไปกว่าจำนวนที่ลูกหนี้ต้องผูกพัน จำเลยก็ไม่สามารถชำระหนี้ให้โจทก์ได้ และมีพฤติการณ์ที่ฟังได้ ว่าจำเลยเป็นลูกหนี้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ศาลย่อมมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด
แม้จำเลยจะไม่ใช่ลูกหนี้โจทก์ แต่เอกสารผ่อนชำระหนี้และค้ำประกันที่โจทก์นำมาฟ้องแสดงว่าโจทก์เป็นตัวเจ้าหนี้เอง เมื่อโจทก์จำเลยตกลงกันระบุให้โจทก์มีฐานะเป็นเจ้าหนี้เองแล้ว ก็ไม่ต้องพิสูจน์ว่าโจทก์รับโอนหนี้มาอย่างไร โจทก์ย่อมฟ้องจำเลย (เป็นคดีล้มละลาย) ตามข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าวนั้นได้
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดแล้ว ความจึงปรากฏแก่ศาลว่าจำเลยเป็นบุคคลล้มละลายตามคดีอีกสำนวนหนึ่ง ซึ่งคดีนั้นศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อนคำสั่งในคดีนี้ ศาลสูงย่อมสั่งจำหน่ายคดี
แม้จำเลยจะไม่ใช่ลูกหนี้โจทก์ แต่เอกสารผ่อนชำระหนี้และค้ำประกันที่โจทก์นำมาฟ้องแสดงว่าโจทก์เป็นตัวเจ้าหนี้เอง เมื่อโจทก์จำเลยตกลงกันระบุให้โจทก์มีฐานะเป็นเจ้าหนี้เองแล้ว ก็ไม่ต้องพิสูจน์ว่าโจทก์รับโอนหนี้มาอย่างไร โจทก์ย่อมฟ้องจำเลย (เป็นคดีล้มละลาย) ตามข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าวนั้นได้
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดแล้ว ความจึงปรากฏแก่ศาลว่าจำเลยเป็นบุคคลล้มละลายตามคดีอีกสำนวนหนึ่ง ซึ่งคดีนั้นศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อนคำสั่งในคดีนี้ ศาลสูงย่อมสั่งจำหน่ายคดี