พบผลลัพธ์ทั้งหมด 404 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสมควรเลื่อนคดี: การป่วยของจำเลยและพยานที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน ไม่ถือว่าประวิงคดี
ในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกซึ่งจำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ทนายจำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยเดินทางไปทำธุรกิจที่จังหวัดเลย แล้วป่วยกะทันหันไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ขอเลื่อนคดี โจทก์แถลงคัดค้านว่าจำเลยประวิงคดี และไม่มีพยานมาสืบ โจทก์มิได้คัดค้านโดยตรงว่าจำเลยมิได้ป่วย ทั้งมิได้คัดค้านว่าคำร้องของจำเลยไม่เป็นความจริงฟังได้ว่าจำเลยป่วยมีอาการท้องเดินและอ่อนเพลียมาศาลไม่ได้จริง นับว่าจำเลยมีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดี พยานจำเลยตามบัญชีพยานปรากฏว่านอกจากจำเลยอ้างตนเองแล้วมี ส. อีกเพียงคนเดียว แม้ ส. เป็นพยานซึ่งจำเลยมีหน้าที่นำมาเบิกความต่อศาลแต่จำเลยไม่นำมา ก็ได้ความว่าในวันนั้น ส. อยู่ที่จังหวัดเลยเช่นเดียวกันเมื่อคำนึงถึงเหตุที่จำเลยป่วยประกอบด้วยแล้ว การที่จำเลยไม่นำ ส. มาเบิกความยังถือไม่ได้ว่าจำเลยประวิงคดีและไม่มีพยานมาสืบ นอกจากนี้หากพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ในเนื้อหาของคดีประกอบกับประโยชน์แห่งความยุติธรรมด้วย กรณีมีเหตุสมควรให้จำเลยเลื่อนคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุเลื่อนคดี: การป่วยของจำเลยและพยาน, ศาลพิจารณาประกอบประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกซึ่งจำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนทนายจำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยเดินทางไปทำธุรกิจที่จังหวัดเลยแล้วป่วยกะทันหันไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ขอเลื่อนคดีโจทก์แถลงคัดค้านว่าจำเลยประวิงคดีและไม่มีพยานมาสืบโจทก์มิได้คัดค้านโดยตรงว่าจำเลยมิได้ป่วยทั้งมิได้คัดค้านว่าคำร้องของจำเลยไม่เป็นความจริงฟังได้ว่าจำเลยป่วยมีอาการท้องเดินและอ่อนเพลียมาศาลไม่ได้จริงนับว่าจำเลยมีเหตุจำเป็นในการขอเลื่อนคดีพยานจำเลยตามบัญชีพยานปรากฏว่านอกจากจำเลยอ้างตนเองแล้วมีส. อีกเพียงคนเดียวแม้ส. เป็นพยานซึ่งจำเลยมีหน้าที่นำมาเบิกความต่อศาลแต่จำเลยไม่นำมาก็ได้ความว่าในวันนั้นส. อยู่ที่จังหวัดเลยเช่นเดียวกันเมื่อคำนึงถึงเหตุที่จำเลยป่วยประกอบด้วยแล้วการที่จำเลยไม่นำส.มาเบิกความยังถือไม่ได้ว่าจำเลยประวิงคดีและไม่มีพยานมาสืบนอกจากนี้หากพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ในเนื้อหาของคดีประกอบกับประโยชน์แห่งความยุติธรรมด้วย กรณีมีเหตุสมควรให้จำเลยเลื่อนคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3807/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตเลื่อนคดีและการถือว่าจำเลยไม่มีพยาน เนื่องจากทนายความยังไม่ถอนตัวและมีทนายความอีกคนพร้อมปฏิบัติหน้าที่
ศาลชั้นต้นนั่งพิจารณาสืบพยานโจทก์เสร็จและนัดสืบพยานจำเลย ถึงวันนัดทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุว่าป่วยโดยไม่มีพยานฝ่ายจำเลยมาศาล เมื่อปรากฏว่าจำเลยมีทนายความสองคน แม้ ธ.ทนายจำเลยคนหนึ่งป่วยไม่สามารถมาปฏิบัติหน้าที่ได้ ้ส.ทนายจำเลยอีกคนหนึ่งก็ยังอยู่และไม่ปรากฏว่า มีเหตุจำเป็นที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ จึงไม่มีเหตุที่จำเลยจะขอเลื่อนคดีเพราะความเจ็บป่วยของทนายจำเลยข้ออ้างที่ว่า ส.ทนายจำเลยประสงค์จะขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและฝากคำร้องไว้แก่ ธ. แต่ ธ. ยังมิได้ยื่นต่อศาล แม้จะเป็นความจริงศาลก็ยังมิได้มีคำสั่งอนุญาต ส.จึงยังคงเป็นทนายจำเลยอยู่เมื่อจำเลยและพยานจำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลย ย่อมถือได้ว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบตามข้อต่อสู้และไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3807/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีและการถือว่าจำเลยไม่มีพยาน เนื่องจากทนายจำเลยป่วยและไม่แจ้งเหตุขอเลื่อนคดี
ศาลชั้นต้นนั่งพิจารณาสืบพยานโจทก์เสร็จและนัดสืบพยานจำเลย ถึงวันนัดทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างเหตุว่าป่วยโดยไม่มีพยานฝ่ายจำเลยมาศาลเมื่อปรากฏว่าจำเลย มีทนายความสองคนแม้ธ.ทนายจำเลยคนหนึ่งป่วยไม่สามารถ มาปฏิบัติหน้าที่ได้ส.ทนายจำเลยอีกคนหนึ่งก็ยังอยู่และไม่ปรากฏว่า มีเหตุจำเป็นที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้จึงไม่มีเหตุที่จำเลยจะขอเลื่อนคดี เพราะความเจ็บป่วยของทนายจำเลยข้ออ้างที่ว่าส.ทนายจำเลย ประสงค์จะขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและฝากคำร้องไว้แก่ธ. แต่ธ.ยังมิได้ยื่นต่อศาลแม้จะเป็นความจริงศาลก็ยังมิได้มีคำสั่งอนุญาต ส.จึงยังคงเป็นทนายจำเลยอยู่เมื่อจำเลยและพยานจำเลยไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานจำเลยย่อมถือได้ว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบตามข้อต่อสู้และไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากความผิดพลาดในการยื่นบัญชีพยาน ศาลพิจารณาเหตุผลและไม่คัดค้านของฝ่ายจำเลย
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ อัยการโจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานและขอหมายเรียกพยาน อ้างว่าพลั้งเผลอ ทั้งทนายจำเลยไม่คัดค้านการขอเลื่อนคดี และเป็นการเลื่อนคดีครั้งแรกของโจทก์ กรณีมีเหตุสมควรเลื่อนคดีเพื่อให้โอกาสโจทก์นำพยานเข้าสืบพิสูจน์ความผิดของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3905/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีและการรับผิดชอบต่อการกระทำของทนายความที่จำเลยแต่งตั้ง
จำเลยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยมาแล้ว 4 ครั้ง จนศาลมีคำสั่งกำชับว่านัดหน้าจะไม่ยอมให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ ครั้นถึงวันนัดตามที่เลื่อนมาทนายจำเลยกลับยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและจำเลยก็ไม่มาศาลตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยโดยถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบชอบแล้ว
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาล เพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้ง จำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาล เพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้ง จำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3905/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีโดยทนายจำเลยและการรับผิดชอบของจำเลยต่อการกระทำของทนาย
จำเลยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยมาแล้ว 4 ครั้ง จนศาลมีคำสั่งกำชับว่านัดหน้าจะไม่ยอมให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆครั้นถึงวันนัดตามที่เลื่อนมาทนายจำเลยกลับยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและจำเลยก็ไม่มาศาลตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยโดยถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบชอบแล้ว
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาลเพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะ ให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้งจำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาลเพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะ ให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้งจำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3163/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากทนายจำเลยป่วย และสิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างว่าทนายจำเลยป่วยตามใบรับรองแพทย์ท้ายคำร้อง ศาลชั้นต้นมิได้สอบถามโจทก์ว่าจะคัดค้านหรือไม่ กลับมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีไปเลย โดยไม่พิเคราะห์ว่ามีเหตุจำเป็นจะต้องเลื่อนคดีหรือไม่ คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 40
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีแล้ว ศาลชั้นต้นให้โจทก์นำพยานเข้าสืบ แม้ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งให้เสมียนทนายจำเลยนั่งฟังการสืบพยานโจทก์อยู่ด้วย และในนัดต่อมาพยานโจทก์ดังกล่าวจะได้มาศาลและให้ทนายจำเลยซักค้านแล้วก็ตาม ก็ไม่อาจถือได้ว่าไม่เสียความเป็นธรรม เพราะในระหว่างที่ทนายโจทก์หรือศาลซักถามพยานโจทก์นั้น อาจมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบในทางคดีเกิดขึ้น เสมียนทนายผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยซึ่งไม่มีอำนาจว่าความอย่างทนายความได้ จึงไม่มีสิทธิคัดค้านกระบวนพิจารณาที่ได้ดำเนินไปในช่วงนั้น นอกจากนี้ยังเป็นการหลีกเลี่ยงบทบัญญัติมาตรา 36 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งบังคับว่า การนั่งพิจารณาคดีต้องกระทำต่อหน้าคู่ความที่มาศาลและโดยเปิดเผย อันเป็นกฎหมายที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม
แม้จำเลยจะมิได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบแต่ก็ได้คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นไว้และใช้สิทธิอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ผิดระเบียบนั้นเสียได้
การที่ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีเพราะเหตุเจ็บป่วยตามใบรับรองแพทย์ท้ายคำร้อง เป็นกรณีมีความจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงได้ ทั้งเป็นการขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก สมควรอนุญาตให้เลื่อนคดีได้
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีแล้ว ศาลชั้นต้นให้โจทก์นำพยานเข้าสืบ แม้ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งให้เสมียนทนายจำเลยนั่งฟังการสืบพยานโจทก์อยู่ด้วย และในนัดต่อมาพยานโจทก์ดังกล่าวจะได้มาศาลและให้ทนายจำเลยซักค้านแล้วก็ตาม ก็ไม่อาจถือได้ว่าไม่เสียความเป็นธรรม เพราะในระหว่างที่ทนายโจทก์หรือศาลซักถามพยานโจทก์นั้น อาจมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบในทางคดีเกิดขึ้น เสมียนทนายผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยซึ่งไม่มีอำนาจว่าความอย่างทนายความได้ จึงไม่มีสิทธิคัดค้านกระบวนพิจารณาที่ได้ดำเนินไปในช่วงนั้น นอกจากนี้ยังเป็นการหลีกเลี่ยงบทบัญญัติมาตรา 36 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งบังคับว่า การนั่งพิจารณาคดีต้องกระทำต่อหน้าคู่ความที่มาศาลและโดยเปิดเผย อันเป็นกฎหมายที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม
แม้จำเลยจะมิได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบแต่ก็ได้คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นไว้และใช้สิทธิอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ผิดระเบียบนั้นเสียได้
การที่ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีเพราะเหตุเจ็บป่วยตามใบรับรองแพทย์ท้ายคำร้อง เป็นกรณีมีความจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงได้ ทั้งเป็นการขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก สมควรอนุญาตให้เลื่อนคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3163/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเลื่อนคดีเนื่องจากทนายจำเลยป่วย และผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรม
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าทนายจำเลยป่วยตามใบรับรองแพทย์ท้ายคำร้อง ศาลชั้นต้นมิได้สอบถามโจทก์ว่าจะคัดค้านหรือไม่ กลับมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีไปเลย โดยไม่พิเคราะห์ว่ามีเหตุจำเป็นจะต้องเลื่อนคดีหรือไม่ คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 40
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีแล้วศาลชั้นต้นให้โจทก์นำพยานเข้าสืบ แม้ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งให้เสมียนทนายจำเลยนั่งฟังการสืบพยานโจทก์อยู่ด้วย และในนัดต่อมาพยานโจทก์ดังกล่าวจะได้มาศาลและให้ทนายจำเลยซักค้านแล้วก็ตาม ก็ไม่อาจถือได้ว่าไม่เสียความเป็นธรรม เพราะในระหว่างที่ทนายโจทก์หรือศาลซักถามพยานโจทก์นั้น อาจมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบในทางคดีเกิดขึ้น เสมียนทนายผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยซึ่งไม่มีอำนาจว่าความอย่างทนายความได้ จึงไม่มีสิทธิคัดค้านกระบวนพิจารณาที่ได้ดำเนินไปในช่วงนั้น นอกจากนี้ยังเป็นการหลีกเลี่ยงบทบัญญัติมาตรา 36 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งบังคับว่า การนั่งพิจารณาคดีต้องกระทำต่อหน้าคู่ความที่มาศาลและโดยเปิดเผย อันเป็นกฎหมายที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม
แม้จำเลยจะมิได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบแต่ก็ได้คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นไว้และใช้สิทธิอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ผิดระเบียบนั้นเสียได้
การที่ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีเพราะเหตุเจ็บป่วยตามใบรับรองแพทย์ท้ายคำร้อง เป็นกรณีมีความจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงได้ ทั้งเป็นการขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก สมควรอนุญาตให้เลื่อนคดีได้
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีแล้วศาลชั้นต้นให้โจทก์นำพยานเข้าสืบ แม้ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งให้เสมียนทนายจำเลยนั่งฟังการสืบพยานโจทก์อยู่ด้วย และในนัดต่อมาพยานโจทก์ดังกล่าวจะได้มาศาลและให้ทนายจำเลยซักค้านแล้วก็ตาม ก็ไม่อาจถือได้ว่าไม่เสียความเป็นธรรม เพราะในระหว่างที่ทนายโจทก์หรือศาลซักถามพยานโจทก์นั้น อาจมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบในทางคดีเกิดขึ้น เสมียนทนายผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยซึ่งไม่มีอำนาจว่าความอย่างทนายความได้ จึงไม่มีสิทธิคัดค้านกระบวนพิจารณาที่ได้ดำเนินไปในช่วงนั้น นอกจากนี้ยังเป็นการหลีกเลี่ยงบทบัญญัติมาตรา 36 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งบังคับว่า การนั่งพิจารณาคดีต้องกระทำต่อหน้าคู่ความที่มาศาลและโดยเปิดเผย อันเป็นกฎหมายที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม
แม้จำเลยจะมิได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบแต่ก็ได้คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นไว้และใช้สิทธิอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243 ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ผิดระเบียบนั้นเสียได้
การที่ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีเพราะเหตุเจ็บป่วยตามใบรับรองแพทย์ท้ายคำร้อง เป็นกรณีมีความจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงได้ ทั้งเป็นการขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก สมควรอนุญาตให้เลื่อนคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2654/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดพิจารณา – สิทธิในการสืบพยาน – การพิจารณาคดีไม่ชอบ – แก้ไขคำพิพากษา
จำเลยทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์โดยชอบแล้วแต่ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาแล้วให้พิจารณาสืบพยานโจทก์ไป เสมียนทนายจำเลยเพิ่งนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากศาลสืบพยานโจทก์ซึ่งมีปากเดียวเสร็จสิ้นแล้ว ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีชอบแล้ว
ทนายจำเลยผู้ขาดนัดพิจารณามาศาลภายหลังที่โจทก์นำพยานเข้าสืบไปแล้ว จึงคัดค้านพยานนั้นโดยวิธีถามค้านพยานของโจทก์ที่สืบไปแล้วไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสาม (2)
การที่เสมียนทนายจำเลยซึ่งได้รับมอบหมายจากทนายจำเลยนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากที่ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว ก่อนโจทก์แถลงหมดพยาน ถือได้ว่าจำเลยผู้ขาดนัดมาศาลยังไม่พ้นเวลาที่จะนำพยานของตนเข้าสืบตามมาตรา 205 วรรคสาม (1) และจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบได้
ทนายจำเลยผู้ขาดนัดพิจารณามาศาลภายหลังที่โจทก์นำพยานเข้าสืบไปแล้ว จึงคัดค้านพยานนั้นโดยวิธีถามค้านพยานของโจทก์ที่สืบไปแล้วไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสาม (2)
การที่เสมียนทนายจำเลยซึ่งได้รับมอบหมายจากทนายจำเลยนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นหลังจากที่ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้ว ก่อนโจทก์แถลงหมดพยาน ถือได้ว่าจำเลยผู้ขาดนัดมาศาลยังไม่พ้นเวลาที่จะนำพยานของตนเข้าสืบตามมาตรา 205 วรรคสาม (1) และจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว จึงมีสิทธินำพยานของตนเข้าสืบได้