คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 312

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 78 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลคดีไม่มีทุนทรัพย์: การคืนค่าใช้จ่ายที่เสียเกินมา
คดีที่โจทก์ขอให้อายัดเงินของจำเลยต่อผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และมีการโต้แย้งระหว่างผู้ร้องกับโจทก์ว่าเงินที่ขออายัดดังกล่าวอยู่ที่ผู้ร้องหรือไม่ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ผู้ร้องเสียค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์และโจทก์เสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกามาอย่างคดีมีทุนทรัพย์จึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาให้คืนค่าขึ้นศาลที่เสียเกินมาในชั้นอุทธรณ์และฎีกาแก่ผู้ร้องและโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลคดีไม่มีทุนทรัพย์: การคืนค่าใช้จ่ายที่เสียเกินเมื่อมีการดำเนินการเสมือนคดีมีทุนทรัพย์
คดีที่โจทก์ขอให้อายัดเงินของจำเลยต่อผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และมีการโต้แย้งระหว่างผู้ร้องกับโจทก์ว่าเงินที่ขออายัดดังกล่าวอยู่ที่ผู้ร้องหรือไม่ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ผู้ร้องเสียค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์และโจทก์เสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกามาอย่างคดีมีทุนทรัพย์จึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาให้คืนค่าขึ้นศาลที่เสียเกินมาในชั้นอุทธรณ์และฎีกาแก่ผู้ร้องและโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2094-2095/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายัดสิทธิเรียกร้องชดใช้ค่าเสียหายจากประกันภัย - การบังคับชำระหนี้ - การโอนที่ดิน - สิทธิเรียกร้อง
เมื่อโรงภาพยนตร์ พร้อมอุปกรณ์ที่โจทก์ต้องโอนให้จำเลยที่ 3 ถูกเพลิงไหม้หมด การชำระหนี้ของโจทก์ย่อมกลายเป็นพ้นวิสัย แต่เนื่องจากโจทก์ได้เอาประกันภัยไว้แก่ผู้ร้อง โจทก์ได้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนมา จำเลยที่ 3 จึงมีสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 228 ที่จะเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนนั้นเสียเองได้ การเรียกร้องตามบทบัญญัตินี้มิใช่เป็นการเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนในฐานะผู้รับโอนวัตถุที่เอาประกันภัยจึงไม่ต้องมีการบอกกล่าวการโอนวัตถุที่เอาประกันภัยให้ผู้รับประกันภัยทราบตามมาตรา 875 ก่อน เมื่อเป็นกระบวนพิจารณาชั้นบังคับคดีจำเลยที่ 3 จึงชอบที่จะบังคับเอาค่าสินไหมทดแทนในคดีนี้ได้หาใช่เป็นเรื่องข้อพิพาทตามสัญญาประกันภัยต่างหากจากคดีนี้ไม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินประกันภัยก็เพื่อนำมาชำระให้แก่จำเลยที่ 3 เป็นการอายัดสิทธิเรียกร้องอันอยู่ในบังคับแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 310 ถึง 315 การที่ศาลชั้นต้นนัดผู้ร้องและจำเลยที่ 3 มาพร้อมกันสอบถามพิจารณาคำแถลงของคู่ความประกอบกับเอกสารต่าง ๆ แล้วมีคำสั่งให้ผู้ร้องส่งเงิน 15 ล้านบาทที่อายัดมาวางศาล เป็นการไต่สวนและมีคำสั่งตามมาตรา 312 วรรคหนึ่งแล้ว เมื่อคำสั่งนั้นมิได้ถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข กลับ หรือยกเสียข้อเท็จจริงในเรื่องค่าเสียหายของโรงภาพยนตร์ และอุปกรณ์จึงเป็นอันยุติคำแถลงของผู้ร้องในชั้นเสนอหลักทรัพย์เป็นประกัน การทุเลาการบังคับที่ว่า ความเสียหายแท้จริงเป็นเงิน 8 ล้านบาทเศษ จึงไม่อาจรับฟังได้ เมื่อจำเลยที่ 3 ยื่นคำแถลงขอรับเงินที่อายัด ผู้ร้องก็มิได้โต้แย้งว่าโจทก์มีส่วนทำให้เกิดวินาศภัยแต่อย่างใด จนศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งคำแถลงของจำเลยที่ 3 ไปแล้ว จึงล่วงเลยเวลาที่ผู้ร้องจะปฏิเสธหรือโต้แย้งหนี้ที่เรียกร้องเอาแก่ตนตามมาตรา 312 ผู้ร้องหามีสิทธิโต้แย้งตามมูลหนี้เรื่องประกันภัยต่อไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการอายัดสิทธิเรียกร้อง: ศาลต้องไต่สวนพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน
เดิมศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องชั้นบังคับคดีของโจทก์ให้โดยอนุโลมว่าเป็นคำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 277 และมีคำสั่งกล่าวไว้ชัดว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลทำการไต่สวนว่าจำเลยมีทรัพย์สินอยู่ในความครอบครองของผู้ร้องเป็นจำนวนเท่าใดแล้วยกคำร้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำขออายัดสิทธิเรียกร้องซึ่งมีอยู่ที่ผู้ร้องอีก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินตามคำขอ ดังนี้ คำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีไปถึงผู้ร้องครั้งหลังนี้เป็นคำสั่งตามมาตรา 311 ประกอบด้วยมาตรา 310(3) แม้เดิมศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยินยอมให้ผู้ร้องหักหนี้ไปแล้วก็ตาม ข้อเท็จจริงนั้นก็ไม่ผูกพันโจทก์กรณีขอให้อายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยครั้งหลังนี้เมื่อผู้ร้องได้ปฏิเสธหรือโต้แย้งหนี้ที่โจทก์เรียกร้องศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะไต่สวนพยานหลักฐานโจทก์และผู้ร้องให้เสร็จสิ้นกระแสความก่อนจะมีคำสั่งในเรื่องนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2555/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยต่อบุคคลภายนอก: สิทธิในการโต้แย้งหนี้และหลักเกณฑ์การพิจารณา
โจทก์อายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยอันมีต่อผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้ร้องปฏิเสธหรือโต้แย้งหนี้ที่เรียกร้องได้หากศาลไต่สวนแล้วเป็นที่พอใจว่าหนี้ที่เรียกร้องมีอยู่จริงก็มีคำสั่งให้บุคคลภายนอกปฏิบัติตามคำสั่งอายัดฎีกาในปัญหาที่ว่าจะอายัดได้หรือไม่ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยต่อบุคคลภายนอก: คดีไม่มีทุนทรัพย์ ค่าขึ้นศาล
กรณีที่ศาลมีคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยต่อผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกให้ชำระเงินและมีการโต้แย้งระหว่างโจทก์กับผู้ร้องในปัญหาที่ว่าจะอายัดได้หรือไม่ เพียงใดเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ซึ่งต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 50 บาท
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1590/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายัดเงินสงเคราะห์จากการรถไฟฯ ชำระหนี้ได้ แม้ยังมิได้เลือกวิธีรับเงิน
การรถไฟแห่งประเทศไทยมีข้อบังคับว่าด้วยกองทุนสำหรับจ่ายสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติงานในการรถไฟฯ กรณีออกจากงานอยู่ 2 ฉบับ ซึ่งผู้ออกจากงานไม่ว่าเพราะเหตุใด (นอกจากถูกไล่ออก) อาจเลือกรับเงินสงเคราะห์ครั้งเดียวหรือเป็นรายเดือนตามข้อบังคับฉบับหนึ่งฉบับใดก็ได้ ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นพนักงานของการรถไฟฯ และลาออกจากงานย่อมมีสิทธิเรียกร้องเงินสงเคราะห์จากการรถไฟฯ สุดแต่จะเลือก แม้ยังไม่เลือกเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็มีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดเงินสงเคราะห์ครั้งเดียวตามสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้วิธีหนึ่งให้การรถไฟฯส่งเงินนั้นมายังศาลได้
ความในมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 ที่ว่าทรัพย์สินของการรถไฟฯ ย่อมไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีนั้น มุ่งหมายถึงการบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของการรถไฟฯโดยตรง กรณีที่ศาลมีคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งมีสิทธิจะได้รับเงินสงเคราะห์จากการรถไฟฯ หาใช่เป็นการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของการรถไฟโดยตรงไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องเงินสงเคราะห์จากการรถไฟฯ ไม่เป็นการบังคับคดีต่อทรัพย์สินโดยตรง
การรถไฟแห่งประเทศไทยมีข้อบังคับว่าด้วยกองทุนสำหรับจ่ายสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติงานในการรถไฟฯ กรณีออกจากงานอยู่ 2 ฉบับ ซึ่งผู้ออกจากงานไม่ว่าเพราะเหตุใด (นอกจากถูกไล่ออก)อาจเลือกรับเงินสงเคราะห์ครั้งเดียวหรือเป็นรายเดือนตามข้อบังคับฉบับหนึ่งฉบับใดก็ได้ ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นพนักงานของการรถไฟฯ และลาออกจากงานย่อมมีสิทธิเรียกร้องเงินสงเคราะห์จากการรถไฟฯสุดแต่จะเลือก แม้ยังไม่เลือก เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็มีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดเงินสงเคราะห์ครั้งเดียวตามสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้วิธีหนึ่ง ให้การรถไฟฯส่งเงินนั้นมายังศาลได้
ความในมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2494 ที่ว่า ทรัพย์สินของการรถไฟฯ ย่อมไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีนั้น มุ่งหมายถึงการบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของการรถไฟฯโดยตรง กรณีที่ศาลมีคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งมีสิทธิจะได้รับเงินสงเคราะห์จากการรถไฟฯ หาใช่เป็นการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของการรถไฟโดยตรงไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินส่วนได้ของจำเลยร่วมในคดีมรดก: สิทธิในการคัดค้านและการคุ้มครองทรัพย์สินส่วนตัว
ในชั้นบังคับคดี ศาลได้สั่งอายัดเงินส่วนได้ของจำเลยร่วมซึ่งจะได้รับชำระจากเจ้าพนักงานบังคับคดีไว้ตามคำร้องของโจทก์และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งการอายัดให้จำเลยร่วมทราบแล้วในกรณีเช่นนี้มิได้มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายระบุไว้โดยตรงว่าให้จำเลยร่วมร้องคัดค้านภายในกำหนดระยะเวลาเท่าใด เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดียังมิได้จ่ายเงินที่อายัดนั้นให้แก่โจทก์ไปจำเลยย่อมใช้สิทธิยื่นคำร้องคัดค้านขอให้ถอนการอายัดและจ่ายเงินนั้นให้แก่ตนได้ (โดยไม่มีกำหนดเวลา)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินส่วนได้ของจำเลยร่วมในคดีบังคับคดี ศาลฎีกาพิพากษายืนสิทธิจำเลยร่วมคัดค้านการอายัดได้หากเงินนั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของมรดกที่ต้องชำระหนี้
ในชั้นบังคับคดี ศาลได้สั่งอายัดเงินส่วนได้ของจำเลยร่วมซึ่งจะได้รับชำระจากเจ้าพนักงานบังคับคดีไว้ตามคำร้องของโจทก์และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งการอายัดให้จำเลยร่วมทราบแล้วในกรณีเช่นนี้มิได้มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายระบุไว้โดยตรงว่าให้จำเลยร่วมร้องคัดค้านภายในกำหนดระยะเวลาเท่าใด เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดียังมิได้จ่ายเงินที่อายัดนั้นให้แก่โจทก์ไป จำเลยย่อมใช้สิทธิยื่นคำร้องคัดค้านขอให้ถอนการอายัดและจ่ายเงินนั้นให้แก่ตนได้ (โดยไม่มีกำหนดเวลา)
of 8