คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 368

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 854 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 439/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าอาคาร: การเช่าทั้งหลังคุ้มครองการใช้ประโยชน์พื้นที่ทั้งหมด
การเช่าอาคารนั้นตามปกติวิสัย ก็ย่อมเป็นการเช่าอาคารทั้งหลังมิใช่ว่าการเช่าอาคารนั้น เป็นการเช่ากันเฉพาะส่วนภายในของอาคารเว้นแต่จะมีข้อสัญญาระบุไว้เป็นพิเศษ ฉะนั้นผู้ให้เช่าจึงไม่มีอำนาจที่จะเอาหลังคาตึกเช่านั้นไปให้ผู้อื่นเช่าติดป้ายโฆษณาอีกและถ้าขืนกระทำไป ผู้เช่าย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายและให้รื้อป้ายโฆษณานั้นไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอาศัยโดยผลของการเปรียบเทียบ - เจตนาให้มีสิทธิอยู่ตลอดชีวิต แม้มิได้จดทะเบียน
โจทก์ จำเลยตกลงกันตามคำเปรียบเทียบของคณะกรรมการอำเภอ ซึ่งมีความว่า "ให้จำเลยอยู่ในที่(พิพาท)นี้เรื่อยไป แต่จะยกที่ดินให้ใครไม่ได้ ส่วนพืชผลก็อาศัยแบ่งกันเก็บเงินไป" ดังนี้ ย่อมแสดงให้เห็นเจตนาของคู่ความว่า ให้จำเลยมีสิทธิอาศัยอยู่ในที่พิพาทเรื่อยไปจนตลอดชีวิตนั่นเอง และการยอมให้อาศัยเช่นนี้ แม้มิได้จดทะเบียน ก็ใช้ยันกันเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอาศัยโดยคำเปรียบเทียบ: สิทธิมีได้แม้ไม่จดทะเบียน ยันกันได้ระหว่างคู่สัญญา
โจทก์จำเลยตกลงกันตามคำเปรียบเทียบของคณะกรมการอำเภอซึ่งมีความว่า 'ให้จำเลยอยู่ในที่(พิพาท) นี้เรื่อยไปแต่จะยกที่ดินให้ใครไม่ได้ส่วนพืชผลก็อาศัยแบ่งกันเก็บกินไป' ดังนี้ย่อมแสดงให้เห็นเจตนาของคู่ความว่า ให้จำเลยมีสิทธิอาศัยอยู่ในที่พิพาทเรื่อยไปจนตลอดชีวิตนั่นเอง และการยอมให้อาศัยเช่นนี้แม้มิได้จดทะเบียน ก็ใช้ยันกันเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดินที่ถูกเวนคืน แม้มีกำหนดโอนในช่วงห้ามโอน แต่ยังสามารถบังคับให้ทำสัญญาได้ หากไม่ใช่สาระสำคัญของสัญญา
ที่ดินซึ่งอยู่ในเขตต์เวนคืนนั้นทำสัญญาจะซื้อขายต่อกันได้
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินและกำหนดไปโอนในเวลาซึ่งอยู่ในระหว่างกฎหมายห้ามโอนภายหลังแบ่งแยกโฉนดแล้ว ผู้ซื้อก็ขอบังคับให้โอนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ: สัญญาใหม่ลบล้างสัญญาเดิมได้
เดิมโจทก์จำเลยทำสัญญาจะซื้อที่ดินกันราคาเงิน 1550 บาท โจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญากันใหม่ โดยขึ้นราคาที่ดินที่จะซื้อขายกันนั้นอีก 200 บาท เป็นราคาที่ดิน 1,750 บาท ดังนี้ถือว่าข้อความหนังสือสัญญาฉะบับใหม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อสัญญาเดิมในสาระสำคัญและสัญญาฉะบับใหม่คงมีข้อความกล่าวท้าวถึงสัญญาเดิมแต่เพียงว่าที่จะซื้อขายกันนั้นคือที่ดินที่กล่าวไว้สัญญาเดิม และจำเลยได้รับเงินมัดจำจากโจทก์ไปแล้ว 100 บาทเท่านั้นต้องบังคับคดีตามสัญญาฉะบับใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทนาย: เงื่อนไขการจ่ายค่าจ้างเมื่อคดีจำหน่ายคดีชั่วคราว
โจทรับเปนทนายแก้ต่างบุตรของจำเลยซึ่งถูกฟ้องไนคดีอาญาโดยตกลงกันว่า ถ้าคดีนั้นจำเลยเปนฝ่ายชนะยกฟ้องหรือจำหน่ายคดีด้วยประการไดไดจำเลยจะไห้ค่าจ้าง 400 บาท ครั้นต่อมาสาลได้สั่งจำหน่ายคดีอาญานั้นเสียชั่วคราวโดยบุตรจำเลยเกิดวิกลจริตดังนี้ โจทไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าจ้าง 400 บาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างทนาย: คดีจำหน่ายชั่วคราวและวิกลจริตของผู้ถูกกล่าวหา
โจทก์รับเป็นทนายแก้ต่างบุตรของจำเลยซึ่งถูกฟ้องในคดีอาญาโดยตกลงกันว่า ถ้าคดีนั้นจำเลยเป็นฝ่ายชนะยกฟ้องหรือจำหน่ายคดีด้วยประการใดใดจำเลยจะให้ค่าจ้าง 400 บาท ครั้นต่อมาศาลได้สั่งจำหน่ายคดีอาญานั้นเสียชั่วคราวโดยบุตรจำเลยเกิดวิกลจริต ดังนี้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าจ้าง 400 บาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินรวมสิ่งปลูกสร้างและโรงเรือน แต่ช่อไฟฟ้าไม่ถือเป็นอุปกรณ์ติดไปกับที่ดิน
ในสัญญาซื้อขายระบุว่าขายที่ดินกับสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินนั้นย่อมครอบถึงโรงเรือนบนที่ดินซึ่งเสาไม่ได้ฝังดินด้วย
กรณีที่ถือว่าช่อไฟฟ้าที่ติดอยู่กับสิ่งปลูกสร้าง ไม่ใช่เป็นเครื่องอุปกรณ์ซึ่งไม่ตกติดไปกับสิ่งปลูกสร้างที่ขาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทนายที่ขัดต่อ พ.ร.บ.ทนายความ ม.12(2) (แบ่งส่วนจากทรัพย์พิพาท) เป็นโมฆะ และไม่สามารถเรียกร้องค่าจ้างได้
สัญญาจ้างว่าตามตกลงกันว่าเมื่อเรียกร้องเงินแสนบาท จะไห้ค่าจ้างสองหมื่นถือเปนหลักคำนวนตามมากน้อยตามส่วนที่จะได้ดังนี้ถือว่าเปนข้อสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์ที่พิพาทขัดต่อ พ.ร.บ.ทนายความ ม. 12(2) ย่อมเปนโมคะ และจะฟ้องเรียกค่าจ้างตามสมควนไม่ได้ด้วย
พ.ร.บ. ทนายความ ม. 12(2) นั้นแยกได้เปน 2 กรนี คือปลูกความโดยหามูลมิได้หย่าง 1 และแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์พิพาทอีกหย่างหนึ่งและทั้งสองหย่างนี้เปนเรื่องขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
สัญญาจ้างว่าความตกลงกันว่าค่าทนายที่สาลตัดสินไห้ ยอมไห้เปนของทนายไนกรนีถอนฟ้องฯลฯ ดังนี้ ถ้าไม่ได้ถอนฟ้องทนายจะฟ้องไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทนายที่แบ่งส่วนจากทรัพย์พิพาท หรือผูกพันผลค่าทนายกับผลคดี เป็นโมฆะ
สัญญาจ้างว่าความตกลงกันว่าเมื่อเรียกร้องเงินแสนบาท จะให้ค่าจ้างสองหมื่นถือเป็นหลักคำนวณตามมากน้อยตามส่วนที่จะได้ ดังนี้ถือว่าเป็นข้อสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์ที่พิพาทขัดต่อ พ.ร.บ.ทนายความ มาตรา 12(2) ย่อมเป็นโมฆะและจะฟ้องเรียกค่าจ้างตามสมควรไม่ได้ด้วย พ.ร.บ.ทนายความมาตรา 12(2) นั้นแยกได้เป็น 2 กรณีคือปลูกความโดยหามูลมิได้อย่างหนึ่งและแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์พิพาทอีกอย่างหนึ่งและทั้งสองอย่างนี้เป็นเรื่องขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน สัญญาจ้างว่าความตกลงกันว่าค่าทนายที่ศาลตัดสินให้ ยอมให้เป็นของทนายในกรณีถอนฟ้องฯลฯ ดังนี้ถ้าไม่ได้ถอนฟ้องทนายจะฟ้องเรียกไม่ได้
of 86