คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ม. 7

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 30 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3237/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ปริมาณสารบริสุทธิ์ในคดียาเสพติด หากโจทก์ไม่นำสืบ ศาลไม่อาจลงโทษตามอัตราโทษสูงกว่าได้
แม้ฝิ่นของกลางจะมีน้ำหนักถึง 10,000 กรัม แต่โจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าฝิ่นของกลางมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์จำนวนเท่าใด จึงฟังไม่ได้ว่าฝิ่นของกลางมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกินหนึ่งร้อยกรัม ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ฯ มาตรา 69 วรรคสาม หรือมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินกว่าหนึ่งร้อยกรัมตามมาตรา 69 วรรคสี่ จึงไม่อาจลงโทษจำเลยตามมาตรา 69 วรรคสามหรือวรรคสี่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4730/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานมีฝิ่นและมูลฝิ่นเป็นกรรมเดียวภายใต้กฎหมายยาเสพติด
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่2) พ.ศ. 2528 มาตรา 10 บัญญัติให้ฝิ่นหรือมูลฝิ่นเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7 ดังนั้น การที่จำเลยมีฝิ่นดิบและมูลฝิ่นไว้ในความครอบครองจึงเป็นความผิดต่อบทกฎหมายมาตราเดียวกันตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 69 วรรคหนึ่ง เป็นความผิดเพียงกรรมเดียว
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยฐานมีฝิ่นดิบและมีมูลฝิ่นเป็น 2กรรมเป็ฯการไม่ชอบ แม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4730/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยฐานมีฝิ่นดิบและมูลฝิ่น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำผิดกรรมเดียว
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 มาตรา 10 บัญญัติให้ฝิ่นหรือมูลฝิ่นเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7 ดังนั้น การที่จำเลยมีฝิ่นดิบและมูลฝิ่นไว้ในความครอบครองจึงเป็นความผิดต่อบทกฎหมายมาตราเดียวกันตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 69 วรรคหนึ่ง เป็นความผิดเพียงกรรมเดียว
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยฐานมีฝิ่นดิบและมีมูลฝิ่นเป็น 2 กรรมเป็นการไม่ชอบ แม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4378/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม, สถานที่เกิดเหตุ, เจตนาการกระทำความผิด และข้อยกเว้นความรับผิดในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด
ในคดีอาญาปัญหาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นว่าในชั้นอุทธรณ์ เพิ่งจะยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาศาลฎีกาก็วินิจฉัยให้ได้ สถานที่เกิดการกระทำความผิดตามฟ้องมีสองแห่ง แม้โจทก์จะบรรยายสถานที่เกิดการกระทำความผิดตามฟ้องมาแห่งเดียว แต่ปรากฏข้อเท็จจริงจากทางพิจารณาว่ามีสถานที่เกิดการกระทำความผิดอีกแห่งหนึ่ง ก็ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง การที่จำเลยที่ 1 และที่ 4 ร่วมมือกับสายลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดต่อล่อซื้อเฮโรอีนจากจำเลยที่ 3กับพวก โดยจำเลยที่ 1 และที่ 4 มีเจตนาเพื่อช่วยเหลือเจ้าพนักงานตำรวจปราบปรามการค้าเฮโรอีนและโดยหวังเงินรางวัลที่เจ้าพนักงานตำรวจจะแบ่งให้ การกระทำของจำเลยที่ 1และที่ 4 เป็นการกระทำที่ขาดเจตนาที่จะกระทำความผิดไม่มีความผิดฐานเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนในความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือจำหน่ายเฮโรอีน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2385/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่าย แม้เพียงรับฝาก หากรู้เจตนาของผู้ฝาก ถือมีความผิด
เฮโรอีนของกลางที่จำเลยที่ 1 มีไว้ในครอบครองเป็นของ บุคคลอื่นที่จะนำไปจำหน่ายแม้จำเลยที่ 1 เพียงแต่ รับฝากเฮโรอีนของกลางให้นำพาไป แต่จำเลยที่ 1 รู้อยู่ ว่าผู้ฝากจะนำไปจำหน่ายการกระทำของจำเลยที่ 1 จึง เป็นการร่วมกับผู้อื่นมีเฮโรอีนของกลางไว้เพื่อจำหน่ายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2385/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันมียาเสพติดเพื่อจำหน่าย แม้เพียงรับฝากขนส่ง หากรู้เจตนาผู้ฝาก
เฮโรอีนของกลางที่จำเลยที่ 1 มีไว้ในครอบครองเป็นของ บุคคลอื่นที่จะนำไปจำหน่ายแม้จำเลยที่ 1 เพียงแต่ รับฝากเฮโรอีนของกลางให้นำพาไป แต่จำเลยที่ 1 รู้อยู่ ว่าผู้ฝากจะนำไปจำหน่ายการกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการร่วมกับผู้อื่นมีเฮโรอีนของกลางไว้เพื่อจำหน่ายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมในความผิดยาเสพติด: เจตนาและพฤติการณ์สนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยที่ 2 พาสายลับไปพบจำเลยที่ 1 ซึ่งมีเฮโรอีนมาขายแล้วนั่งรถไปยังสถานที่นัดซื้อขายเฮโรอีนด้วยกัน และจำเลยที่ 2 เป็นผู้ถือกระเป๋าใส่เฮโรอีนที่ขายลงจากรถส่งมอบให้ผู้ซื้อด้วยตนเองแม้จะมีจำเลยที่ 1 อยู่ด้วยก็ตาม แต่เมื่อจำเลยที่ 2 รู้เห็นและมีเจตนาร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดฐานเป็นตัวการในความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเข้าร่วมกระทำผิดฐานมีและจำหน่ายยาเสพติด แม้มีตัวการร่วม
จำเลยที่ 2 พาสายลับไปพบจำเลยที่ 1 ซึ่งมีเฮโรอีนมาขายแล้วนั่งรถไปยังสถานที่นัดซื้อขายเฮโรอีนด้วยกัน และจำเลยที่ 2เป็นผู้ถือกระเป๋าใส่เฮโรอีนที่ขายลงจากรถส่งมอบให้ผู้ซื้อด้วยตนเอง แม้จะมีจำเลยที่ 1 อยู่ด้วยก็ตาม แต่เมื่อจำเลยที่ 2 รู้เห็นและมีเจตนาร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดฐานเป็นตัวการในความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายเฮโรอีน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2330/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษคดีจำเลยกระทำผิดซ้ำภายในห้าปี แม้ความผิดก่อนหน้าตามกฎหมายเดิม ศาลฎีกาชี้ว่าเพิ่มโทษได้ตามกฎหมายยาเสพติด
แม้ว่าโทษที่จำเลยได้รับครั้งก่อนจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติกัญชาพุทธศักราช 2477 แต่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 3 ได้บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติกัญชา พุทธศักราช 2477 ทั้งฉบับ โดยถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และผู้มีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม มาตรา 26,76ดังนั้น การที่จำเลยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตในคดีก่อนจึงต้องถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษด้วยเมื่อจำเลยกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนอันเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท1 ไว้ในครอบครองภายในกำหนดเวลาห้าปี นับแต่วันพ้นโทษคดีก่อน จึงอยู่ในเกณฑ์ที่จะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2330/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษคดีซ้ำจากความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แม้ความผิดแรกเกิดก่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ
แม้ว่าโทษที่จำเลยได้รับครั้งก่อนจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติกัญชาพุทธศักราช 2477 แต่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 3 ได้บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติกัญชา พุทธศักราช 2477 ทั้งฉบับ โดยถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และผู้มีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม มาตรา 26, 76 ดังนั้น การที่จำเลยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกฐานมีกัญชาไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตในคดีก่อนจึงต้องถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษด้วย เมื่อจำเลยกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนอันเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองภายในกำหนดเวลาห้าปี นับแต่วันพ้นโทษคดีก่อน จึงอยู่ในเกณฑ์ที่จะเพิ่มโทษจำเลยตาม มาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ได้
of 3