คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 141 (5)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 49 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อโดยกรรมการผู้จัดการ แม้ไม่มีตราบริษัท ก็มีผลผูกพันหากทำในนามบริษัท และจำเลยไม่โต้แย้งอำนาจกรรมการ
กรรมการผู้จัดการของบริษัทโจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อในนามบริษัทโจทก์เป็นคู่สัญญาให้จำเลยเช่าซื้อรถยนต์ โดยกรรมการผู้จัดการนั้นลงชื่อแทน แม้มิได้ประทับตราบริษัท ซึ่งตามข้อบังคับที่จดทะเบียนไว้จะต้องประทับตราด้วย ก็ถือได้ว่าบริษัทโจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลย บริษัทโจทก์ย่อมเอาสัญญาเช่าซื้อที่กรรมการผู้จัดการทำกับจำเลยฟ้องจำเลยได้
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 992/2497)
บริษัทโจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระจากจำเลยตามสัญญาเช่าซื้อที่จำเลยทำกับกรรมการผู้จัดการของบริษัทโจทก์ จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่า กรรมการผู้จัดการไม่มีอำนาจทำสัญญาเช่าซื้อแทนบริษัทโจทก์ ศาลจะยกปัญหาข้อนี้ขึ้นชี้ขาดยกฟ้องมิได้ เพราะเป็นเรื่องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรรมการผู้จัดการทำสัญญาเช่าซื้อแทนบริษัท แม้ไม่มีตราบริษัท ก็มีผลผูกพันได้ หากแสดงเจตนาทำในนามบริษัท
กรรมการผู้จัดการของบริษัทโจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อในนามบริษัทโจทก์เป็นคู่สัญญาให้จำเลยเช่าซื้อรถยนต์. โดยกรรมการผู้จัดการนั้นลงชื่อแทน. แม้มิได้ประทับตราบริษัท. ซึ่งตามข้อบังคับที่จดทะเบียนไว้จะต้องประทับตราด้วย.ก็ถือได้ว่าบริษัทโจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลย. บริษัทโจทก์ย่อมเอาสัญญาเช่าซื้อที่กรรมการผู้จัดการทำกับจำเลยฟ้องจำเลยได้.(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 992/2497)
บริษัทโจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระจากจำเลยตามสัญญาเช่าซื้อที่จำเลยทำกับกรรมการผู้จัดการของบริษัทโจทก์. จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่า กรรมการผู้จัดการไม่มีอำนาจทำสัญญาเช่าซื้อแทนบริษัทโจทก์. ศาลจะยกปัญหาข้อนี้ขึ้นชี้ขาดยกฟ้องมิได้. เพราะเป็นเรื่องนอกประเด็น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรรมการผู้จัดการทำสัญญา แม้ไม่มีตราบริษัท ก็ผูกพันบริษัทได้ หากทำในนามบริษัท และจำเลยไม่โต้แย้งอำนาจ
กรรมการผู้จัดการของบริษัทโจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อในนามบริษัทโจทก์เป็นคู่สัญญาให้จำเลยเช่าซื้อรถยนต์โดยกรรมการผู้จัดการนั้นลงชื่อแทน แม้มิได้ประทับตราบริษัทซึ่งตามข้อบังคับที่จดทะเบียนไว้จะต้องประทับตราด้วยก็ถือได้ว่าบริษัทโจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลย บริษัทโจทก์ย่อมเอาสัญญาเช่าซื้อที่กรรมการผู้จัดการทำกับจำเลยฟ้องจำเลยได้(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 992/2497)
บริษัทโจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระจากจำเลยตามสัญญาเช่าซื้อที่จำเลยทำกับกรรมการผู้จัดการของบริษัทโจทก์ จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่า กรรมการผู้จัดการไม่มีอำนาจทำสัญญาเช่าซื้อแทนบริษัทโจทก์ศาลจะยกปัญหาข้อนี้ขึ้นชี้ขาดยกฟ้องมิได้เพราะเป็นเรื่องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาข้อเท็จจริง: ประเด็นสำคัญของคดีต้องเป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ไม่ใช่กระบวนการออกโฉนด
ในกรณีที่ประเด็นสำคัญแห่งคดีมีอยู่ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จริงหรือไม่ แล้วจำเลยมาฎีกาว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าจำเลยได้เคยเอาที่ดินที่เคยเช่าวัดบางส่วนกับเอาที่ดินของวัดที่ไม่ได้เช่าบางส่วนไปรวมออกโฉนดจริงหรือไม่ เช่นนี้ เมื่อประเด็นที่จำเลยว่าสำคัญเป็นประเด็นที่จำเลยยกกล่าวอ้างขึ้นมาเองเพื่อจะให้เข้ากับกฎหมายที่ประสงค์จะอ้างอิง และเพื่อที่จะให้ศาลวินิจฉัยไปตามประเด็นที่ยกขึ้นนั้น ดังนี้ เป็นฎีกาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาข้อเท็จจริง: ประเด็นสำคัญคือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ไม่ใช่กระบวนการออกโฉนด
ในกรณีที่ประเด็นสำคัญแห่งคดีมีอยู่ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จริงหรือไม่แล้วจำเลยมาฎีกาว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าจำเลยได้เคยเอาที่ดินที่เคยเช่าวัดบางส่วนกับเอาที่ดินของวัดที่ไม่ได้เช่าบางส่วนไปรวมออกโฉนดจริงหรือไม่ เช่นนี้เมื่อประเด็นที่จำเลยว่าสำคัญเป็นประเด็นที่จำเลยยกกล่าวอ้างขึ้นมาเองเพื่อจะให้เข้ากับกฎหมายที่ประสงค์จะอ้างอิงและเพื่อที่จะให้ศาลวินิจฉัยไปตามประเด็นที่ยกขึ้นนั้นดังนี้ เป็นฎีกาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1060/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมระงับข้อพิพาทมีผลผูกพัน ทำให้สิทธิเรียกร้องเดิมระงับสิ้นสุด แม้จะไม่ได้ทำกับจำเลยร่วม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นนายจ้างจำเลยที่ 1 ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมชดใช้ค่าเสียหายจำเลยทั้งสองต่อสู้ว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ได้เป็นนายจ้างลูกจ้าง โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะเหตุสุดวิสัย และว่าโจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาทกันแล้ว ดังนี้ ประเด็นที่สำคัญที่จะต้องวินิจฉัยเบื้องต้น คือ โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมระงับข้อพิพาทกันไว้แล้วจริง หรือไม่ ถ้าได้ทำไว้จริงก็ไม่ต้องวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นต่อไป
เมื่อความรับผิดของจำเลยที่ 1 ได้ปลดเปลื้องไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว ก็ไม่มีความรับผิดที่จะให้จำเลยที่ 2 ร่วมชดใช้ค่าเสียหายอันใดอีก แม้โจทก์จะไม่ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยที่ 2 ก็ตาม โจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 ย่อมหมดสิทธิฟ้องจำเลยที่ 2 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1060/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นที่สุด เมื่อมีการชำระเงินแล้ว โจทก์หมดสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติม แม้จำเลยที่ 2 จะไม่ได้ทำสัญญา
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ทำละเมิดโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นนายจ้างจำเลยที่ 1 ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมชดใช้ค่าเสียหาย จำเลยทั้งสองต่อสู้ว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ได้เป็นนายจ้างลูกจ้าง โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะเหตุสุดวิสัย และว่าโจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาทกันแล้ว ดังนี้ประเด็นที่สำคัญที่จะต้องวินิจฉัยเบื้องต้น คือ โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมระงับข้อพิพาทกันไว้แล้วจริงหรือไม่ ถ้าได้ทำไว้จริงก็ไม่ต้องวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นต่อไป
เมื่อความรับผิดของจำเลยที่ 1 ได้ปลดเปลื้องไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วก็ไม่มีความรับผิดที่จะให้จำเลยที่ 2 ร่วมชดใช้ค่าเสียหายอันใดอีก แม้โจทก์จะไม่ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยที่ 2 ก็ตาม โจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 ย่อมหมดสิทธิฟ้องจำเลยที่ 2 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินและการเปลี่ยนแปลงฐานการได้มาทรัพย์สิน การฟ้องไม่ผิดแม้รายละเอียดไม่ตรงกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ที่พิพาทโจทก์ได้รับมรดกและชนะความมา แม้จะได้ความว่า ที่ที่ชนะความเป็นที่ดินแปลงอื่น และโจทก์ได้ รับส่วนแบ่งมาจากบิดซึ่งไม่ใช่ได้จากการรับมรดกเมื่อบิดาตายแล้ว ก็ไม่ควรถือว่าผิดกับคำฟ้องจนถึงกับต้องให้โจทก์แพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตคำฟ้อง: แม้ข้อเท็จจริงบางส่วนต่างจากที่บรรยายฟ้อง ก็ไม่ถึงขนาดทำให้โจทก์แพ้คดี
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ที่พิพาทโจทก์ได้รับมรดกและชนะความมา แม้จะได้ความว่าที่ที่ชนะความเป็นที่ดินแปลงอื่น และโจทก์ได้รับส่วนแบ่งมาจากบิดาซึ่งไม่ใช่ได้จากการรับมรดกเมื่อบิดาตายแล้ว ก็ไม่ควรถือว่าผิดกับคำฟ้องจนถึงกับต้องให้โจทก์แพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้แล้วเรียกคืนเนื่องจากเนรคุณ ประเด็นอยู่ที่การยกให้สมบูรณ์หรือไม่ และเหตุเนรคุณมีอยู่จริงหรือไม่
ตามฟ้องและคำให้การฟังได้ว่า โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยครอบครองมากกว่า 20 ปีแล้ว จำเลยมิได้ต่อสู้ว่าการยกให้ไม่สมบูรณ์ จำเลยต่อสู้โดยอ้างเหตุเพียงว่า ไม่ได้ประพฤติเนรคุณ และโจทก์ยกให้เนื่องในการสมรส ประเด็นคงมีเพียงว่า โจทก์ยกให้เนื่องในการสมรสหรือไม่ และจำเลยได้ประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ ซึ่งจะต้องสืบพยานฟังข้อเท็จจริงกันต่อไป ศาลไม่ชอบที่จะสั่งงดสืบพยาน ในเมื่อสอบคู่ความได้ความว่า ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า โจทก์บอกยกให้ด้วยปาก ไม่ได้ทำเป็นหนังสือจดทะเบียน แล้วเลยวินิจฉัยว่า การให้ไม่สมบูรณ์ จึงพิพากษายกฟ้อง เพราะการให้สมบูรณ์หรือไม่ ไม่เป็นประเด็นในคดีนี้
of 5