พบผลลัพธ์ทั้งหมด 360 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ก่อนพิพากษาและการยกเลิกเมื่อมีคำพิพากษาตามยอม คดีไม่มีประโยชน์พิจารณาต่อ
ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนพิพากษา โจทก์จำเลยยอมความให้ทรัพย์ที่ถูกยึดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ศาลพิพากษาตามยอมการยึดทรัพย์จึงยกเลิกไป ไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาคดีที่ผู้ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ศาลยกคำร้องขัดทรัพย์ ผู้ร้องอุทธรณ์ฎีกา เป็นการขอให้พิจารณาสืบพยานต่อไป เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ เสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ข้อ 2 ก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2372/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสภาพการเป็นผู้จัดการมรดกเมื่อผู้จัดการมรดกถึงแก่กรรม และผลกระทบต่อการดำเนินคดี
ผู้ร้องได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย หลังจากนั้นผู้ร้องกับผู้คัดค้านมีข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สินหลายประการ จนเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถจัดการแบ่งปันมรดกได้ตามคำแถลงของผู้ร้องและผู้คัดค้านนั้น เมื่อผู้ร้องถึงแก่กรรมในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา คำสั่งของศาลที่แต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกจึงไม่มีผลต่อไปและการเป็นผู้จัดการมรดกเป็นการเฉพาะตัวของผู้ร้อง จะรับมรดกความกันไม่ได้จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาของผู้คัดค้านที่ขอให้บังคับผู้ร้องให้จัดการแบ่งมรดกตาม คำสั่งของศาลชั้นต้นอีก ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2372/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสถานะผู้จัดการมรดกเมื่อผู้รับมอบหมายถึงแก่กรรม และผลกระทบต่อคดีความ
ผู้ร้องได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหลังจากนั้นผู้ร้องกับผู้คัดค้านมีข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สินหลายประการ จนเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถจัดการแบ่งปันมรดกได้ ตามคำแถลงของผู้ร้องและผู้คัดค้านนั้น เมื่อผู้ร้องถึงแก่กรรมในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา คำสั่งของศาลที่แต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกจึงไม่มีผลต่อไป และการเป็นผู้จัดการมรดกเป็นการเฉพาะตัวของผู้ร้อง จะรับมรดกความกันไม่ได้ จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาของผู้คัดค้านที่ขอให้บังคับผู้ร้องให้จัดการแบ่งมรดกตามคำสั่งของศาลชั้นต้นอีก ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1966/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการเลือกตั้งถูกจำหน่ายคดีเนื่องจากรัฐธรรมนูญและรัฐสภาสิ้นสุดลงหลังมีคำสั่งคณะปฏิรูปฯ
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ ขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ ปรากฏว่าขณะคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินได้มีคำสั่งให้รัฐธรรมนูญซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นและรัฐสภาสิ้นสุดลง จึงไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาที่ผู้ร้องฎีกา เพราะไม่อาจจะบังคับคดีให้เป็นไปตามคำร้องของผู้ร้องได้ ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1874/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดของรัฐสภาและผลกระทบต่อคดีเลือกตั้ง
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปราฏว่าคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาหลังที่คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินให้รัฐธรรมนูญซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นสิ้นสุดลง และให้รัฐสภาสิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยคำร้องของผู้ร้องต่อไป ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินคดีแพ่งโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้มีเหตุส่งหมายเรียกผิดพลาด ศาลต้องพิจารณาความตั้งใจของผู้ฟ้อง
แม้โจทก์มิได้แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายในกำหนด 7 วันตามคำสั่ง ศาลชั้นต้น ในกรณีส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้แก่จำเลยไม่ได้ก็ตาม เมื่อได้ความว่าโจทก์ได้เอาใจใส่ในการดำเนินคดีของโจทก์มาโดยตลอด พนักงานศาลไปส่งหมายเรียกกับสำเนาคำฟ้องให้จำเลยผิดจากวันที่นัดหมายกันไว้ โดยโจทก์ไม่ทราบ ไม่ได้นำส่ง แต่โจทก์ก็ติดตามทำคำแถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้มอบหมายให้ผู้อื่นไปยื่นต่อศาลแต่เกินกำหนด 7 วัน ซึ่งศาลได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงใหม่ในตราประทับรับฟ้องเดิมที่กำหนดไว้ 15 วันไปเพียงวันเดียว จึงยังไม่ได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลกำหนด ศาลจะมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องและให้จำหน่ายคดีจากสารบบความหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1243/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่อยู่ภายใต้การประนอมหนี้ในคดีล้มละลาย สิทธิเรียกร้องต้องยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินตามเช็คแก่โจทก์และยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2 ที่ 3 จำเลยที่ 1 ฝ่ายเดียวฎีกา เมื่อความปรากฏแก่ศาลฎีกาว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 ที่ 2 เด็ดขาดจนได้ประนอมหนี้และศาลได้มีคำสั่งให้ปิดคดีเพราะชำระหนี้ตามประนอมหนี้แล้ว ดังนี้หนี้รายที่โจทก์ฟ้องคดีนี้อยู่ในบังคับที่โจทก์จะต้องยื่นขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483มาตรา 27,91 แม้โจทก์ไม่ยื่นขอรับชำระหนี้ โจทก์ก็ถูกผูกมัดโดยการประนอมหนี้ด้วยตามมาตรา 56 โจทก์จึงจะฟ้องให้จำเลยรับผิดชำระหนี้เป็นคดีนี้อีกไม่ได้ ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348-356/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดนัดวางเงินชำระค่าสินไหมทดแทน ต้องเป็นไปตามคำสั่งศาล ไม่ใช่ตามบัญชีนัด หากพ้นกำหนดแล้ว คดีจำหน่าย ศาลไม่รับวางเงิน
ศาลชั้นต้นได้สั่งไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางเงินภายใน 30 วัน โจทก์และทนายผู้ร้องขัดทรัพย์ได้ลงชื่อรับทราบไว้แล้ว ดังนี้ ต้องถือตามกำหนดนัดนั้น จะไปถือเอาวันที่ลงไว้ในบัญชีนัดซึ่งเจ้าหน้าที่ของศาลนัดไว้ผิดไปจากคำสั่งศาลไม่ได้
เมื่อครบกำหนดที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางเงิน ผู้ร้องขัดทรัพย์ไม่วางเงินและศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีของผู้ร้องขัดทรัพย์จากสารบบความแล้ว ผู้ร้องขัดทรัพย์จึงยื่นคำร้องขอวางเงิน และขอให้ศาลมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของผู้ร้องขัดทรัพย์ต่อไป เช่นนี้ คดีของผู้ร้องขัดทรัพย์ไม่มีอยู่ในศาลอันจะพึงต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอีกแล้ว คำร้องของผู้ร้องขัดทรัพย์จึงต้องยกเสีย
เมื่อครบกำหนดที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางเงิน ผู้ร้องขัดทรัพย์ไม่วางเงินและศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีของผู้ร้องขัดทรัพย์จากสารบบความแล้ว ผู้ร้องขัดทรัพย์จึงยื่นคำร้องขอวางเงิน และขอให้ศาลมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของผู้ร้องขัดทรัพย์ต่อไป เช่นนี้ คดีของผู้ร้องขัดทรัพย์ไม่มีอยู่ในศาลอันจะพึงต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอีกแล้ว คำร้องของผู้ร้องขัดทรัพย์จึงต้องยกเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348-356/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางเงินประกันค่าสินไหมทดแทนหลังศาลจำหน่ายคดี: ศาลไม่รับคำร้อง
ศาลชั้นต้นได้สั่งไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาว่าให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางเงินภายใน 30 วัน โจทก์และทนายผู้ร้องขัดทรัพย์ได้ลงชื่อรับทราบไว้แล้ว ดังนี้ ต้องถือตามกำหนดนัดนั้น จะไปถือเอาวันที่ลงไว้ในบัญชีนัดซึ่งเจ้าหน้าที่ของศาลนัดไว้ผิดไปจากคำสั่งศาลไม่ได้
เมื่อครบกำหนดที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางเงิน ผู้ร้องขัดทรัพย์ไม่วางเงินและศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีของผู้ร้องขัดทรัพย์จากสารบบความแล้วผู้ร้องขัดทรัพย์จึงยื่นคำร้องขอวางเงิน และขอให้ศาลมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของผู้ร้องขัดทรัพย์ต่อไปเช่นนี้ คดีของผู้ร้องขัดทรัพย์ไม่มีอยู่ในศาลอันจะพึงต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอีกแล้ว คำร้องของผู้ร้องขัดทรัพย์จึงต้องยกเสีย
เมื่อครบกำหนดที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางเงิน ผู้ร้องขัดทรัพย์ไม่วางเงินและศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีของผู้ร้องขัดทรัพย์จากสารบบความแล้วผู้ร้องขัดทรัพย์จึงยื่นคำร้องขอวางเงิน และขอให้ศาลมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของผู้ร้องขัดทรัพย์ต่อไปเช่นนี้ คดีของผู้ร้องขัดทรัพย์ไม่มีอยู่ในศาลอันจะพึงต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอีกแล้ว คำร้องของผู้ร้องขัดทรัพย์จึงต้องยกเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2222/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีลูกหนี้ล้มละลายและการสะดุดหยุดอายุความจากคำขอรับชำระหนี้
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้อง และต่อมาได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายต่อเนื่องเกี่ยวโยงกัน เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173 แม้ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีที่ฟ้องนั้นเสีย จำเลยก็ไม่อาจยกอายุความขึ้นใช้ยันโจทก์ได้
ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 25ศาลมีอำนาจงดการพิจารณาคดีไว้ หรือจะสั่งประการใดตามที่เห็นสมควรก็ได้ มิใช่มีอำนาจสั่งงดการพิจารณาไว้อย่างเดียวโจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยที่ 1 ต่อมาศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 เด็ดขาดในคดีอื่นและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาดำเนินคดีแทนจำเลยที่ 1แม้โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็จะต้องสอบสวนและทำความเห็นเสนอต่อศาลเพื่อมีคำสั่งตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 105,106เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ของจำเลยที่ 1ไว้ในคดีล้มละลายด้วย การพิจารณาคดีของจำเลยที่ 1ต่อไปจึงไม่เป็นประโยชน์ ศาลมีอำนาจที่จะสั่งจำหน่ายคดีของจำเลยที่ 1 เสียได้ ตามมาตรา 25 ตอนท้าย คำสั่งจำหน่ายคดีเช่นนี้มิใช่สั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132
ระหว่างที่คดีโจทก์อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแม้โจทก์จะขอถอนคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายและได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วก็ตาม เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีโดยชอบแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะยกคำสั่งและคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง และเรียกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาดำเนินคดีแทนจำเลยที่ 1 ต่อไป ตามคำร้องของโจทก์ได้
ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 25ศาลมีอำนาจงดการพิจารณาคดีไว้ หรือจะสั่งประการใดตามที่เห็นสมควรก็ได้ มิใช่มีอำนาจสั่งงดการพิจารณาไว้อย่างเดียวโจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยที่ 1 ต่อมาศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 เด็ดขาดในคดีอื่นและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาดำเนินคดีแทนจำเลยที่ 1แม้โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็จะต้องสอบสวนและทำความเห็นเสนอต่อศาลเพื่อมีคำสั่งตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 105,106เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ของจำเลยที่ 1ไว้ในคดีล้มละลายด้วย การพิจารณาคดีของจำเลยที่ 1ต่อไปจึงไม่เป็นประโยชน์ ศาลมีอำนาจที่จะสั่งจำหน่ายคดีของจำเลยที่ 1 เสียได้ ตามมาตรา 25 ตอนท้าย คำสั่งจำหน่ายคดีเช่นนี้มิใช่สั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132
ระหว่างที่คดีโจทก์อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแม้โจทก์จะขอถอนคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายและได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วก็ตาม เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีโดยชอบแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะยกคำสั่งและคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง และเรียกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาดำเนินคดีแทนจำเลยที่ 1 ต่อไป ตามคำร้องของโจทก์ได้