พบผลลัพธ์ทั้งหมด 360 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1421/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากคำขอไม่มีประโยชน์เมื่อศาลชั้นต้นสั่งจ่ายเงินตามคำพิพากษาแล้ว
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จ่ายเงินค่าขายทอดตลาดทรัพย์แก่โจทก์ผู้ร้องฎีกาขอให้ศาลระงับการจ่ายเงินดังกล่าวไว้จนกว่าคดีที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์จำเลยในคดีนี้จะถึงที่สุดโดยผู้ร้องมิได้ขอให้มีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณา เมื่อศาลชั้นต้นจ่ายเงินค่าขายทอดตลาดทรัพย์ให้แก่โจทก์ไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ฎีกาของผู้ร้องจึงไม่มีประโยชน์ ศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีเสียได้
ในกรณีจำหน่ายคดีดังกล่าวแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้ (คดีนี้ค่าขึ้นศาลมีเพียง 50 บาท ศาลฎีกาไม่สั่งคืน)
ในกรณีจำหน่ายคดีดังกล่าวแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้ (คดีนี้ค่าขึ้นศาลมีเพียง 50 บาท ศาลฎีกาไม่สั่งคืน)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1421/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากคำขอไม่มีประโยชน์หลังมีการจ่ายเงินตามคำพิพากษา และสิทธิของผู้ร้องนอกเหนือจากเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จ่ายเงินค่าขายทอดตลาดทรัพย์แก่โจทก์.ผู้ร้องฎีกาขอให้ศาลระงับการจ่ายเงินดังกล่าวไว้จนกว่าคดีที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์จำเลยในคดีนี้จะถึงที่สุด.โดยผู้ร้องมิได้ขอให้มีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณา. เมื่อศาลชั้นต้นจ่ายเงินค่าขายทอดตลาดทรัพย์ให้แก่โจทก์ไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ฎีกาของผู้ร้องจึงไม่มีประโยชน์.ศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีเสียได้.
ในกรณีจำหน่ายคดีดังกล่าวแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้.(คดีนี้ค่าขึ้นศาลมีเพียง 50 บาท ศาลฎีกาไม่สั่งคืน).
ในกรณีจำหน่ายคดีดังกล่าวแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้.(คดีนี้ค่าขึ้นศาลมีเพียง 50 บาท ศาลฎีกาไม่สั่งคืน).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1421/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเมื่อคำขอไม่มีประโยชน์อีกต่อไปหลังมีการจ่ายเงินตามคำพิพากษา และสิทธิในการขอคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จ่ายเงินค่าขายทอดตลาดทรัพย์แก่โจทก์ผู้ร้องฎีกาขอให้ศาลระงับการจ่ายเงินดังกล่าวไว้จนกว่าคดีที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์จำเลยในคดีนี้จะถึงที่สุด โดยผู้ร้องมิได้ขอให้มีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณา เมื่อศาลชั้นต้นจ่ายเงินค่าขายทอดตลาดทรัพย์ให้แก่โจทก์ไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ฎีกาของผู้ร้องจึงไม่มีประโยชน์ศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีเสียได้
ในกรณีจำหน่ายคดีดังกล่าวแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้ (คดีนี้ค่าขึ้นศาลมีเพียง 50 บาท ศาลฎีกาไม่สั่งคืน)
ในกรณีจำหน่ายคดีดังกล่าวแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจสั่งคืนค่าตัดสินและค่าคำบังคับให้แก่ผู้ฎีกาได้ (คดีนี้ค่าขึ้นศาลมีเพียง 50 บาท ศาลฎีกาไม่สั่งคืน)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มเติมหลังคดีเปลี่ยนประเภท และการพิจารณาถึงเจตนาของโจทก์ในการดำเนินคดี
คดีไม่มีทุนทรัพย์ ซึ่งกลายเป็นคดีมีทุนทรัพย์ในภายหลัง.แม้ศาลกำหนดให้โจทก์นำค่าขึ้นศาลที่เพิ่มขึ้นมาชำระก่อนวันนัดพิจารณา. แต่ต่อมาได้มีการเลื่อนการพิจารณาโดยคู่ความแถลงว่า. คดีอาจมีทางตกลงกัน แล้วตกลงกันไม่ได้.พฤติการณ์ก็เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์มิได้จงใจขัดขืนไม่ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มตามที่ศาลสั่ง. ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง.โดยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด. ไม่ควรที่ศาลจะด่วนสั่งจำหน่ายคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมศาลเพิ่มเติมและการเลื่อนคดี: การพิจารณาเจตนาขัดขืนคำสั่งศาล
คดีไม่มีทุนทรัพย์ ซึ่งกลายเป็นคดีมีทุนทรัพย์ในภายหลังแม้ศาลกำหนดให้โจทก์นำค่าขึ้นศาลที่เพิ่มขึ้นมาชำระก่อนวันนัดพิจารณา แต่ต่อมาได้มีการเลื่อนการพิจารณาโดยคู่ความแถลงว่า คดีอาจมีทางตกลงกัน แล้วตกลงกันไม่ได้พฤติการณ์ก็เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์มิได้จงใจขัดขืนไม่ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มตามที่ศาลสั่ง ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง โดยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด ไม่ควรที่ศาลจะด่วนสั่งจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมศาลเพิ่มเติมคดีมีทุนทรัพย์ การเลื่อนคดีด้วยเหตุปรองดอง และการเพิกเฉยต่อการชำระค่าธรรมเนียม
คดีไม่มีทุนทรัพย์ ซึ่งกลายเป็นคดีมีทุนทรัพย์ในภายหลังแม้ศาลกำหนดให้โจทก์นำค่าขึ้นศาลที่เพิ่มขึ้นมาชำระก่อนวันนัดพิจารณา แต่ต่อมาได้มีการเลื่อนการพิจารณาโดยคู่ความแถลงว่า คดีอาจมีทางตกลงกัน แล้วตกลงกันไม่ได้.พฤติการณ์ก็เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์มิได้จงใจขัดขืนไม่ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มตามที่ศาลสั่ง ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องโดยเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด ไม่ควรที่ศาลจะด่วนสั่งจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่มีสภาพเป็นคำฟ้อง โจทก์มีหน้าที่นำส่งคู่ความ หากไม่ทำ ถือทิ้งฟ้อง
คำขอให้พิจารณาใหม่ (ไม่ว่าโจทก์หรือจำเลยเป็นฝ่ายขอ) ถือได้ว่าเป็นคำฟ้องตามวิเคราะห์ศัพท์ในมาตรา 1(3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำฟ้องนั้น กฎหมายบัญญัติให้โจทก์มีหน้าที่จัดการนำส่งเมื่อคู่ความที่ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่.ไม่จัดการนำส่งสำเนาคำขอให้พิจารณาแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาลจึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด ถือได้ว่าเป็นการทิ้งฟ้อง ศาลย่อมมีคำสั่งจำหน่าย(คดี) คำขอให้พิจารณาใหม่นั้นเสียได้
(เฉพาะปัญหาที่ว่า คำขอให้พิจารณาใหม่เป็นคำฟ้อง วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2511)
คำฟ้องนั้น กฎหมายบัญญัติให้โจทก์มีหน้าที่จัดการนำส่งเมื่อคู่ความที่ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่.ไม่จัดการนำส่งสำเนาคำขอให้พิจารณาแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาลจึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด ถือได้ว่าเป็นการทิ้งฟ้อง ศาลย่อมมีคำสั่งจำหน่าย(คดี) คำขอให้พิจารณาใหม่นั้นเสียได้
(เฉพาะปัญหาที่ว่า คำขอให้พิจารณาใหม่เป็นคำฟ้อง วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2511)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่มีสถานะเป็นคำฟ้อง โจทก์มีหน้าที่นำส่งตามกฎหมาย หากจำเลยเพิกเฉยถือเป็นการทิ้งฟ้อง
คำขอให้พิจารณาใหม่ (ไม่ว่าโจทก์หรือจำเลยเป็นฝ่ายขอ)ถือได้ว่าเป็นคำฟ้องตามวิเคราะห์ศัพท์ในมาตรา 1(3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำฟ้องนั้น กฎหมายบัญญัติให้โจทก์มีหน้าที่จัดการนำส่งเมื่อคู่ความที่ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่จัดการนำส่งสำเนาคำขอให้พิจารณาแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาลจึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดถือได้ว่าเป็นการทิ้งฟ้อง ศาลย่อมมีคำสั่งจำหน่าย(คดี) คำขอให้พิจารณาใหม่นั้นเสียได้
(เฉพาะปัญหาที่ว่า คำขอให้พิจารณาใหม่เป็นคำฟ้อง วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2511)
คำฟ้องนั้น กฎหมายบัญญัติให้โจทก์มีหน้าที่จัดการนำส่งเมื่อคู่ความที่ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่จัดการนำส่งสำเนาคำขอให้พิจารณาแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาลจึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดถือได้ว่าเป็นการทิ้งฟ้อง ศาลย่อมมีคำสั่งจำหน่าย(คดี) คำขอให้พิจารณาใหม่นั้นเสียได้
(เฉพาะปัญหาที่ว่า คำขอให้พิจารณาใหม่เป็นคำฟ้อง วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2511)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่มีสถานะเป็นคำฟ้อง โจทก์มีหน้าที่นำส่ง หากจำเลยเพิกเฉยถือเป็นการทิ้งฟ้อง
คำขอให้พิจารณาใหม่ (ไม่ว่าโจทก์หรือจำเลยเป็นฝ่ายขอ).ถือได้ว่าเป็นคำฟ้องตามวิเคราะห์ศัพท์ในมาตรา 1(3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง.
คำฟ้องนั้น กฎหมายบัญญัติให้โจทก์มีหน้าที่จัดการนำส่ง.เมื่อคู่ความที่ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่.ไม่จัดการนำส่งสำเนาคำขอให้พิจารณาแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาล.จึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด. ถือได้ว่าเป็นการทิ้งฟ้อง ศาลย่อมมีคำสั่งจำหน่าย(คดี) คำขอให้พิจารณาใหม่นั้นเสียได้. (เฉพาะปัญหาที่ว่า คำขอให้พิจารณาใหม่เป็นคำฟ้อง วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2511).
คำฟ้องนั้น กฎหมายบัญญัติให้โจทก์มีหน้าที่จัดการนำส่ง.เมื่อคู่ความที่ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่.ไม่จัดการนำส่งสำเนาคำขอให้พิจารณาแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาล.จึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด. ถือได้ว่าเป็นการทิ้งฟ้อง ศาลย่อมมีคำสั่งจำหน่าย(คดี) คำขอให้พิจารณาใหม่นั้นเสียได้. (เฉพาะปัญหาที่ว่า คำขอให้พิจารณาใหม่เป็นคำฟ้อง วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2511).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันตามคำพิพากษา การอ้างสัญญาใหม่นอกศาลเพื่อหลีกเลี่ยงบังคับคดีเป็นโมฆะ
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมใช้หนี้ให้โจทก์และศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว. ภายหลังจำเลยจะอ้างว่าได้ทำสัญญาประนีประนอมกันใหม่นอกศาล. โดยโจทก์ยอมผ่อนเวลาชำระหนี้ให้จำเลย ซึ่งโจทก์ปฏิเสธ เพื่อเป็นเหตุมิให้ศาลดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาหาได้ไม่. อ้างฎีกาที่ 417/2504).