พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,236 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สถานะลูกหนี้ร่วม: จำเลยค้ำประกัน ย่อมไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ทั้งหมด หากพิสูจน์ได้ว่าตนไม่ได้กู้ร่วม
เดิมเจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินกู้จากโจทก์จำเลย ซึ่งปรากฏตามหนังสือสัญญากู้ว่าเป็นผู้กู้ร่วมกัน ศาลพิพากษาให้โจทก์จำเลยร่วมกันรับผิดใช้เงินกู้รายนี้ โจทก์ใช้เงินไปผู้เดียวทั้งหมด แล้วมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยครึ่งหนึ่ง ดังนี้ จำเลยย่อมต่อสู้ได้ว่า ความจริงจำเลยเป็นแต่ผู้ค้ำประกันมิใช่เป็นผู้กู้ร่วมกับโจทก์ โจทก์หามีสิทธิเรียกให้จำเลยใช้เงินจำนวนนี้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดใช้หนี้หากพิสูจน์ได้ว่าตนเองเป็นเพียงผู้ค้ำประกัน ไม่ใช่ผู้กู้ร่วม
เดิมเจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินกู้จากโจทก์จำเลย ซึ่งปรากฏตามหนังสือสัญญากู้ว่าเป็นผู้กู้ร่วมกับศาลพิพากษาให้โจทก์จำเลยร่วมกันรับผิดใช้เงินกู้รายนี้โจทก์ใช้เงินไปผู้เดียวทั้งหมด แล้วมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยครึ่งหนึ่ง ดังนี้ จำเลยย่อมต่อสู้ได้ว่า ความจริงจำเลยเป็นแต่ผู้ค้ำประกันมิใช่เป็นผู้กู้ร่วมกับโจทก์ ๆ หามีสิทธิเรียกให้จำเลยใช้เงินจำนวนนี้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดิน: ผู้ครอบครองทำประโยชน์ย่อมมีสิทธิเหนือผู้มีกรรมสิทธิแต่ละเลยการใช้ประโยชน์
คำพิพากษาของศาลที่วินิจฉัยในคดีที่โจทก์เป็นความกับคนอื่นว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์นั้น แม้จะใช้ยันจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ก็ดีจำเลยก็อาจพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่า
ที่ดินมือเปล่า ที่อยู่ติดต่อกับที่นาของโจทก์ และโจทก์ไม่ได้ใช้สิทธิครอบครองปล่อยให้เป็นป่ารกร้างจนจำเลยได้ขออนุญาตจับจองโก่นสร้างเป็นนาขึ้น ดังนี้ จำเลยย่อมมีสิทธิดีกว่าโจทก์
ที่ดินมือเปล่า ที่อยู่ติดต่อกับที่นาของโจทก์ และโจทก์ไม่ได้ใช้สิทธิครอบครองปล่อยให้เป็นป่ารกร้างจนจำเลยได้ขออนุญาตจับจองโก่นสร้างเป็นนาขึ้น ดังนี้ จำเลยย่อมมีสิทธิดีกว่าโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 584/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาตามยอมแล้ว ศาลไม่อาจกลับคำพิพากษาให้แพ้คดีเดิมได้
ฎีกาของจำเลยที่โต้เถียงว่าจำเลยได้พิพาทกันและทำยอมแบ่งที่ดินกันระหว่างจำเลยซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมไปแล้ว ศาลจะกลับมาพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีโจทก์ไม่ได้นั้น เป็นฎีกาที่ไม่มีสาระไม่มีกฎหมายใดสนับสนุน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 584/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาตามยอมแล้ว ศาลไม่สามารถกลับคำพิพากษาได้ แม้มีข้อพิพาทกรรมสิทธิ์ที่ดิน
ฎีกาของจำเลยที่โต้เถียงว่า จำเลยได้พิพาทกนและทำยอมแบ่งที่ดินกันระหว่างจำเลยซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมไปแล้วศาลจะกลับพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีโจทก์ไม่ได้นั้น เป็นฎีกาที่ไม่มีสาระไม่มีกฎหายให้สนับสนุน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจากการบังคับคดีตามคำพิพากษาถึงที่สุด ไม่กระทบจากคดีเรียกค่าเสียหายที่ศาลยกฟ้อง
ศาลได้พิพากษาให้จำเลยขุดเหมืองให้น้ำไหลสู่นาโจทก์คดีถึงที่สุดแล้ว การที่โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายอีกคดีหนึ่ง แต่ศาลยกฟ้องเพราะโจทก์สืบความเสียหายไม่ได้ ดังนี้ ย่อมไม่กระทบกระทั่งสิทธิของโจทก์ที่มีอยู่แล้วตามคำพิพากษาคดีแรกแต่อย่างใด ไม่มีเหตุที่จะให้งดการบังคับคดีไว้รอฟังผลของคดีหลัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจากการบังคับคดีตามคำพิพากษาถึงที่สุด แม้มีการฟ้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม ก็ไม่กระทบสิทธิเดิม
ศาลได้พิพากษาให้จำเลยขุดเหมืองให้น้ำไหลสู่นาโจทก์คดีถึงที่สุดแล้ว การที่โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายอีกคดีหนึ่ง แต่ศาลยกฟ้องเพราะโจทก์สืบความเสียหายไม่ได้ ดังนี้ ย่อมไม่กระทบกระทั่งสิทธิของโจทก์ที่มีอยู่แล้วตามคำพิพากษาคดีแรกแต่อย่างใด ไม่มีเหตุที่จะให้งดการบังคับคดีไว้รอฟังผลของคดีหลัง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1082-1083/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉ้อโกงหลังการซื้อขายโดยได้รับความยินยอม ผู้ขายไม่มีสิทธิอ้างผลคำพิพากษาเดิมยันผู้ซื้อ
นารายพิพาทเดิมเป็นของ ฝ. ยกให้แก่ร. ต่อมาร.ขายนารายนี้ให้กับโจทก์ โดย ฝ. ก็รู้เห็นยินยอมด้วย โจทก์ได้เข้าครอบครองทำกินในที่นานี้แล้ว ต่อมา ฝ. โดยเจตนาจะฉ้อโกงโจทก์ได้คบคิดกับ ร. ฟ้องขอเพิกถอนการให้แม้ ฝ. จะชนะคดีโดยศาลพิพากษาให้เพิกถอนการให้ในคดีนั้น ก็จะเอาผลแห่งคำพิพากษาคดีนั้นมายันกับโจทก์ไม่ได้ กรณีไม่เข้าตามมาตรา 1431 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และไม่ใช่เป็นเรื่องลาภมิควรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการอนุญาตถอนฟ้องหลังมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น และการทำประนีประนอมเพื่อแก้ไขคำพิพากษา
ศาลอุทธรณ์หามีอำนาจที่จะสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องที่ได้ยื่นไว้ต่อศาลชั้นต้นจนศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาไปเสร็จแล้วนั้นได้ไม่ ฉะนั้นเมื่อมีการถอนฟ้องในชั้นศาลอุทธรณ์ ก็ย่อมหมายความว่าผู้อุทธรณ์จะขอถอนฟ้องได้แต่ฟ้องอุทธรณ์เท่านั้น
เมื่อคู่ความประสงค์จะตกลงกันเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นประการใด คู่ความก็ชอบที่จะมาทำประนีประนอมกันต่อหน้าศาล และขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาไปตามสัญญาประนีประนอมนั้น คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงจะถูกงดเว้นเปลี่ยนแปลงการบังคับได้โดยอำนาจของคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์
เมื่อคู่ความประสงค์จะตกลงกันเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นประการใด คู่ความก็ชอบที่จะมาทำประนีประนอมกันต่อหน้าศาล และขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาไปตามสัญญาประนีประนอมนั้น คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงจะถูกงดเว้นเปลี่ยนแปลงการบังคับได้โดยอำนาจของคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1045/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการอนุญาตถอนฟ้อง และผลของการปรานีประนอมยอมเลิกความ
ศาลอุทธรณ์หามีอำนาจที่จะสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องที่ได้ยื่นไว้ต่อศาลชั้นต้นจนศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาไปเสร็จแล้วนั้นได้ไม่ ฉะนั้นเมื่อมีการถอนฟ้องในชั้นศาลอุทธรณ์ ก็ย่อมหมายความว่าผู้อุทธรณ์จะขอถอนฟ้องได้แต่ฟ้องอุทธรณ์เท่านั้น
เมื่อคู่ความประสงค์จะตกลงกันเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นประการใด คู่ความก็ชอบที่จะมาทำปราณีประนอมกันต่อหน้าศาล และขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาไปตามสัญญาปราณีประนอมนั้น คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงจะถูกงดเว้นเปลี่ยนแปลงการบังคับได้โดยอำนาจของคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์.
เมื่อคู่ความประสงค์จะตกลงกันเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นประการใด คู่ความก็ชอบที่จะมาทำปราณีประนอมกันต่อหน้าศาล และขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาไปตามสัญญาปราณีประนอมนั้น คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงจะถูกงดเว้นเปลี่ยนแปลงการบังคับได้โดยอำนาจของคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์.