คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 145

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,236 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2280/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการโอนมรดกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผลกระทบต่อบุคคลภายนอกผู้รับโอน
ห.เป็นบุตรจำเลยกับ อ. โจทก์ฟ้องคดีนี้ให้ ห.กับพวกโดยยกข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าจำเลยโอนที่ดินส่วนที่เป็นมรดกของ อ.ให้นาง อำนวยเพียงผู้เดียวไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะจำเลยมิใช่ผู้จัดการมรดกขอให้เพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเฉพาะส่วนที่เป็นมรดกของ อ.คืนให้กองมรดกเป็นการกล่าวอ้างว่านาง อำนวยมีส่วนร่วมกับจำเลยกระทำการโต้แย้งสิทธิ ห.กับพวกโจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยแทน ห.กับพวกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1562ประกอบพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการพ.ศ.2521มาตรา5(1)โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องนาง อำนวยได้ด้วยเพราะมูลคดีเกี่ยวข้องกันเมื่อโจทก์ไม่ฟ้องนาง อำนวยมาด้วยศาลจึงไม่อาจพิพากษาคดีให้มีผลไปถึงนาง อำนวยผู้รับโอนที่ดินซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา145

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2280/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแทนทายาทมรดกและการเพิกถอนการโอนมรดกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อบุคคลภายนอก
การที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ดำเนินคดีแทน ห. กับพวกเพราะ ห. กับพวกต้องห้ามมิให้ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นมารดาโดยยกข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าจำเลยโอนที่ดินส่วนที่เป็นมรดกของนาย อ. ให้นาง อ. แต่เพียงผู้เดียวไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้เพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวเฉพาะส่วนที่เป็นมรดกของนาย อ. คืนให้กองมรดกนั้นเป็นการกล่าวอ้างว่านาง อ.มีส่วนร่วมกับจำเลยกระทำการโต้แย้งสิทธิของ ห. กับพวกด้วยโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยแทน ห. กับพวกได้และมีสิทธิฟ้องนาง อ.ซึ่งร่วมกับจำเลยกระทำการโต้แย้งสิทธิของ ห. กับพวกได้ด้วยเพราะ มูลคดีเกี่ยวข้องกัน แต่เมื่อโจทก์มิได้ฟ้องนาง อ.ผู้รับโอนที่ดินมาด้วยศาลจึงไม่อาจพิพากษาคดีให้มีผลไปถึงนาง อ.ผู้รับโอนที่ดินซึ่งเป็น บุคคลภายนอกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2228/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบโฉนดที่พิพาทเพื่อบังคับคดี แม้ผู้ร้องอ้างสิทธิอื่นก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล
ผู้ร้องเป็นผู้เก็บโฉนดที่พิพาทไว้เป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถดำเนินการบังคับคดีได้การที่ศาลสั่งให้ผู้ร้อง ส่งมอบโฉนดที่พิพาทต่อศาลก็เพื่อนำไปดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาเท่านั้นหาใช่เอาไปเสียจากการ ยึดถือครอบครองของผู้ร้องเสียทีเดียวไม่ผู้ร้องจึงต้อง ส่งโฉนดที่พิพาทต่อศาล การที่ผู้ร้องอ้างว่าคดีที่ผู้ร้องฟ้องจำเลยอยู่ระหว่างส่งคำบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนใส่ชื่อผู้ร้องเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกับจำเลยในโฉนดพิพาทนั้นเมื่อผู้ร้องไม่ได้แถลงโต้แย้งไว้จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและมิใช่ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือปัญหาที่ผู้ร้องไม่สามารถยกขึ้นกล่าวอ้างเพราะพฤติการณ์ไม่เปิดช่องให้กระทำได้แต่จะอย่างไรก็ตามแม้จะเป็นดังที่ผู้ร้องกล่าวอ้างก็หาใช่เหตุที่ผู้ร้องจะปฏิเสธไม่ยอมส่งโฉนดพิพาทต่อศาลได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1947/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการเพิกถอนคำพิพากษา: การฟ้องคดีใหม่เพื่อขอเพิกถอนคำพิพากษาเดิมทำไม่ได้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา145วรรคแรกบัญญัติให้คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นผูกพันคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาลที่พิพากษาหรือมีคำสั่งนับตั้งแต่วันที่ได้พิพากษาหรือมีคำสั่งจนถึงวันที่คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขกลับหรืองดเสียถ้าหากมีเมื่อโจทก์ทั้งสองเห็นว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องโจทก์ทั้งสองก็ชอบที่จะอุทธรณ์ฎีกาเพื่อให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกามีคำพิพากษาหรือคำสั่งเปลี่ยนแปลงแก้ไขต่อไปสำหรับการ บังคับคดีนั้นเมื่อโจทก์ที่1ซึ่งเป็นฝ่ายแพ้คดีมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลจำเลยที่2ซึ่งเป็นฝ่ายชนะชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษานั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา271หากโจทก์ทั้งสองประสงค์จะขอให้งดการบังคับคดีไว้ก็ต้องยื่นคำร้องขอในคดีเดิมโจทก์ทั้งสองไม่อาจฟ้องขอให้ เพิกถอนคำพิพากษาหรือขอให้สั่ง งดการบังคับคดีเป็นคดีใหม่ได้เมื่อโจทก์ทั้งสองฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ได้ก็ไม่อาจนำวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา254มาใช้บังคับแก่จำเลยทั้งสี่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1922/2539 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินเป็นสาธารณสมบัติ ไม่ต้องจดทะเบียนก็ได้ ศาลไม่อาจบังคับเจ้าพนักงานจดทะเบียน
การอุทิศที่ดินเพื่อเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันหาตกอยู่ในบังคับว่าด้วยการยกให้ไม่ แม้การยกให้โดยปริยายก็มีผลทำให้ที่ดินที่ยกให้ตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้ว ไม่จำต้องจดทะเบียนการให้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็สมบูรณ์ตามกฎหมาย
การจดทะเบียนเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานที่จะดำเนินการ ศาลย่อมไม่อาจสั่งบังคับให้เจ้าพนักงานซึ่งมิใช่คู่ความดำเนินการจดทะเบียนที่ดินพิพาทนั้นให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1922/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินมีผลสมบูรณ์ แม้ไม่ได้จดทะเบียน และศาลไม่สามารถสั่งให้เจ้าพนักงานจดทะเบียนได้
การอุทิศที่ดินเพื่อเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันหาตกอยู่ในบังคับว่าด้วยการยกให้ไม่แม้การยกให้โดยปริยายก็มีผลทำให้ที่ดินที่ยกให้ตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้ว ไม่จำต้องจดทะเบียนการให้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็สมบูรณ์ตามกฎหมาย การจดทะเบียนเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานที่จะดำเนินการ ศาลย่อมไม่อาจสั่งบังคับให้เจ้าพนักงานซึ่งมิใช่คู่ความดำเนินการจดทะเบียนที่ดินพิพาทนั้นให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1922/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินเป็นสาธารณสมบัติ แม้โดยปริยาย ก็มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย ศาลมิอาจบังคับเจ้าพนักงานจดทะเบียนได้
การอุทิศที่ดินเพื่อเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันหาตกอยู่ในบังคับว่าด้วยการยกให้ไม่แม้การยกให้โดยปริยายก็มีผลทำให้ที่ดินที่ยกให้ตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้วไม่จำต้องจดทะเบียนการให้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็สมบูรณ์ตามกฎหมาย การจดทะเบียนเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานที่จะดำเนินการศาลย่อมไม่อาจสั่งบังคับให้เจ้าพนักงานซึ่งมิใช่คู่ความดำเนินการจดทะเบียนที่ดินพิพาทนั้นให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1922/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินเป็นสาธารณสมบัติโดยปริยาย และขอบเขตอำนาจศาลในการสั่งการจดทะเบียน
การอุทิศที่ดินเพื่อเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันหาตกอยู่ในบังคับว่าด้วยการยกให้ไม่แม้การยกให้โดยปริยายก็มีผลทำให้ที่ดินที่ยกให้ตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้วไม่จำต้องจดทะเบียนการให้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็สมบูรณ์ตามกฎหมาย การจดทะเบียนเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานที่จะดำเนินการศาลย่อมไม่อาจสั่งบังคับให้เจ้าพนักงานซึ่งมิใช่คู่ความดำเนินการจดทะเบียนที่ดินพิพาทนั้นให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความที่ไม่ผูกพันบุคคลภายนอก และผลของการผิดสัญญาจะซื้อจะขาย
จำเลยที่3ฟ้องจำเลยที่1และที่2ขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยครอบครองปรปักษ์จำเลยที่3กับจำเลยที่1และที่2ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยจำเลยที่1และที่2จะไปจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทแก่จำเลยที่3ศาลพิพากษาคดีไปตามยอมไม่ใช่คำพิพากษาที่วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์แห่งที่ดินพิพาทจึงไม่ผูกพันหรือใช้ยันแก่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา145(2)ศาลไม่จำต้องเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาตามยอมในคดีดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 843/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการเพิกถอนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน
โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท จำเลยนำคดีมาฟ้องโจทก์ว่าผิดสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาท โดยขณะที่จำเลยยื่นฟ้องนั้น โจทก์ไม่เคยมีภูมิลำเนาและไม่เคยอาศัยอยู่ในบ้านตามที่โจทก์ระบุในคำฟ้อง ในการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่โจทก์ แม้บุคคลที่อยู่ในบ้านจะแจ้งว่าไม่มีคนชื่อเดียวกับโจทก์อยู่ในบ้านดังกล่าว จำเลยก็แถลงยืนยันว่าโจทก์มีภูมิลำเนาตามฟ้องโดยไม่ได้แสดงหลักฐานต่อศาล แสดงให้เห็นว่าได้มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าที่จะฟ้องโจทก์โดยไม่ให้โจทก์ทราบว่าถูกฟ้อง นอกจากนี้ชื่อโจทก์ที่ระบุในคำฟ้องก็ไม่ตรงกับชื่อโจทก์ที่แท้จริง ทำให้โจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา หลังจากศาลพิพากษาแล้ว จำเลยได้นำคำพิพากษาไปให้เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เป็นของจำเลย ทั้ง ๆ ที่ชื่อโจทก์ในคดีที่จำเลยฟ้องไม่ตรงกับชื่อในโฉนดที่ดิน พฤติการณ์ของจำเลยในการดำเนินคดีและการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นอันเป็นการมิชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421 ถือว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์ตามมาตรา 420 ดังนั้น การได้ที่ดินพิพาทของจำเลยเป็นการได้ไปโดยกระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทดังกล่าวได้
of 124