คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 145

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,236 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาถึงที่สุดผูกพันคู่ความจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง การอ้างเหตุผลจากคดีอื่นมาลบล้างมิได้
คำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีหลังซึ่งยกฟ้องโจทก์โดยฟังข้อเท็จจริงว่า เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้แก่จำเลยและผู้อื่น ย่อมผูกพันโจทก์จำเลยในคดีหลังกล่าวคือโจทก์หมดสิทธิที่จะได้รับมรดกเฉพาะเกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่ว่ากล่าวกันในคดีหลังซึ่งเป็นทรัพย์คนละส่วนกับคดีนี้เท่านั้น จะถือเอาคำพิพากษาในคดีหลังไปลบล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีนี้ที่พิพากษาให้โจทก์มีสิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม เพื่อมิให้ศาลบังคับจำเลยในคดีนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2450/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องเป็นเหตุแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณา มิใช่เรื่องลายเซ็นปลอม หรือคำพิพากษาตามยอม
การที่คู่ความจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 นั้น ต้องเป็นกรณีที่คู่ความฝ่ายนั้นแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณา จำเลยขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างว่าลายเซ็นในใบแต่งทนายความของตนเป็นลายเซ็นปลอม สัญญาประนีประนอมยอมความที่ทนายจำเลยทำไปจึงตกเป็นโมฆะนั้นไม่ใช่เรื่องจำเลยแพ้คดี เพราะขาดนัดพิจารณาจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่
การขอเพิกถอนการพิจารณาคดีที่ผิดระเบียบนั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคสอง บังคับอยู่ในตัวว่าข้อคัดค้านเรื่องผิดระเบียบต้องยื่นก่อนพิพากษา การที่จำเลยขอเพิกถอนคำพิพากษาตามยอม ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจะกระทำไม่ได้นั้นมิใช่การขอเพิกถอนการพิจารณา จะถือว่าเป็นการขอเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2450/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องเป็นเหตุแพ้คดีเพราะขาดนัดเท่านั้น การอ้างลายเซ็นปลอมไม่ถือเป็นเหตุ
การที่คู่ความจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 นั้น ต้องเป็นกรณีที่คู่ความฝ่ายนั้นแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณา จำเลยขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างว่าลายเซ็นในใบแต่งทนายความของตนเป็นลายเซ็นปลอม สัญญาประนีประนอมยอมความที่ทนายจำเลยทำไปจึงตกเป็นโมฆะนั้นไม่ใช่เรื่องจำเลยแพ้คดีเพราะขาดนัดพิจารณาจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่
การขอเพิกถอนการพิจารณาคดีที่ผิดระเบียบนั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคสอง บังคับอยู่ในตัวว่าข้อคัดค้านเรื่องผิดระเบียบต้องยื่นก่อนพิพากษา การที่จำเลยขอเพิกถอนคำพิพากษาตามยอม ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจะกระทำไม่ได้นั้นมิใช่การขอเพิกถอนการพิจารณา จะถือว่าเป็นการขอเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1967/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาผูกพันคู่ความ - สิทธิครอบครองที่ดิน - การยกที่ดินให้ผู้อื่น
ในคดีก่อนจำเลยฟ้องโจทก์ห้ามไม่ให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาท ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องโดยฟังว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทแทนผู้มีชื่อ หลังจากผู้มีชื่อยกที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองแล้ว จำเลยก็มิได้เกี่ยวข้องกับที่พิพาทอีกเลย ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้สิทธิครอบครองในที่พิพาทคำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 จำเลยจะมาโต้เถียงในคดีนี้ว่าจำเลยได้สิทธิครอบครองที่พิพาท โดยครอบครองในฐานะเป็นเจ้าของอีกไม่ได้ และจะยกระยะเวลา 1 ปีขึ้นต่อสู้โจทก์ก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1967/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาผูกพันคู่ความ การครอบครองที่ดินต่อเนื่อง และการยกสิทธิครอบครอง
ในคดีก่อนจำเลยฟ้องโจทก์ห้ามไม่ให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาท ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง โดยฟังว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทแทนผู้มีชื่อ หลังจากผู้มีชื่อยกที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองแล้วจำเลยก็มิได้เกี่ยวข้องกับที่พิพาทอีกเลย ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้สิทธิครอบครองในที่พิพาทคำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันคู่ความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 จำเลยจะมาโต้เถียงในคดีนี้ว่าจำเลยได้สิทธิครอบครองที่พิพาท โดยครอบครองในฐานะเป็นเจ้าของอีกไม่ได้ และจะยกระยะเวลา 1 ปีขึ้นต่อสู้โจทก์ก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาถึงที่สุดผูกพันโจทก์ในคดีที่ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากข้อผิดพลาดเดียวกัน
โจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยพิมพ์ฉลากสำหรับใช้ปิดสับปะรดกระป๋อง จำเลยได้ส่งมอบฉลากให้โจทก์รับไปแล้ว แต่โจทก์ยังไม่ได้ชำระค่าจ้างพิมพ์ฉลากให้แก่จำเลย จำเลยจึงได้ยื่นฟ้องขอให้ศาลบังคับโจทก์ชำระเงินค่าจ้างพิมพ์ฉลาก โจทก์ให้การต่อสู้ว่าจำเลยพิมพ์ฉลากไม่ตรงตามตัวอย่างเป็นการผิดสัญญา และโจทก์ได้ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหาย ฐานผิดสัญญาพิมพ์ฉลากไม่เหมือนตัวอย่างเป็นคดีนี้ มูลกรณีที่โจทก์ถูกจำเลยฟ้อง จึงเป็นมูลคดีเดียวกับที่โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีนี้ คดีทั้งสองสำนวนศาลพิจารณาพิพากษารวมกันเมื่อคดีแรกศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้พิมพ์ฉลากถูกต้องตามความประสงค์ของโจทก์ มิได้ผิดสัญญาคดีถึงที่สุดแล้ว ผลแห่งคำพิพากษานั้นย่อมผูกพันโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 โจทก์จะฎีกาในคดีนี้ว่าจำเลยพิมพ์ฉลากไม่ตรงตามตัวอย่าง เป็นการผิดสัญญาทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาถึงที่สุด: มูลคดีเดียวกัน แม้ฟ้องแย้งต่างกรรมต่างวาระ
โจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยพิมพ์ฉลากสำหรับใช้ปิดสับปะรดกระป๋องจำเลยได้ส่งมอบฉลากให้โจทก์รับไปแล้วแต่โจทก์ยังไม่ได้ชำระค่าจ้างพิมพ์ฉลากให้แก่จำเลย จำเลยจึงได้ยื่นฟ้องขอให้ศาลบังคับโจทก์ชำระเงินค่าจ้างพิมพ์ฉลากโจทก์ให้การต่อสู้ว่าจำเลยพิมพ์ฉลากไม่ตรงตามตัวอย่างเป็นการผิดสัญญาและโจทก์ได้ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาพิมพ์ฉลากไม่เหมือนตัวอย่างเป็นคดีนี้ มูลกรณีที่โจทก์ถูกจำเลยฟ้อง จึงเป็นมูลคดีเดียวกับที่โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีนี้ คดีทั้งสองสำนวนศาลพิจารณาพิพากษารวมกันเมื่อคดีแรกศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้พิมพ์ฉลากถูกต้องตามความประสงค์ของโจทก์ มิได้ผิดสัญญาคดีถึงที่สุดแล้ว ผลแห่งคำพิพากษานั้นย่อมผูกพันโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145โจทก์จะฎีกาในคดีนี้ว่าจำเลยพิมพ์ฉลากไม่ตรงตามตัวอย่าง เป็นการผิดสัญญาทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1531/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: บุตร/บริวารผู้เกี่ยวข้องกับคดีเดิม ไม่อาจอ้างได้ แม้ครอบครองเกิน 10 ปี
โจทก์ครอบครองที่พิพาทในระหว่างที่บิดามารดาโจทก์กำลังเป็นความกับจำเลยอยู่ในศาล และอยู่ในระหว่างบังคับคดีตามคำพิพากษาแม้จะเกิน 10 ปี โจทก์ก็อ้างว่าเป็นการครอบครองปรปักษ์ยันจำเลยผู้เป็นเจ้าของไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ใช่บุคคลภายนอกแต่เป็นบุตรและบริวารของบิดามารดาเมื่อบิดามารดาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยตกลงยอมยกที่พิพาทให้เป็นของจำเลยและศาลได้พิพากษาคดีไปตามยอมแล้วคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลย่อมผูกพันโจทก์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1071/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาทหลังคำพิพากษาถึงที่สุด และสิทธิของผู้รับพินัยกรรมแทนเจ้าของเดิม
การที่จำเลยครอบครองที่ดินพิพาท ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลในคดีก่อน จะถือว่าจำเลยครอบครองโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนหาได้ไม่ และเมื่อคดีก่อนนั้นถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของ ล. ผลของคำพิพากษานั้นย่อมผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความ จำเลยจึงไม่อาจยกเอาสิทธิแห่งการครอบครองที่ดินพิพาทในระหว่างคดีก่อนมาใช้ยันกับโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับพินัยกรรมและเข้าเป็นคู่ความแทน ล. ผู้มรณะได้
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานโจทก์จำเลย แล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริง จากพยานหลักฐานในคดี เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 226 เมื่อจำเลยต้องการใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา ก็ต้องโต้แย้งคำสั่งนั้นไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1071/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินหลังพินัยกรรม: การครอบครองระหว่างคดีไม่ผูกพันผู้รับพินัยกรรม และการงดสืบพยานที่ต้องโต้แย้ง
การที่จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลในคดีก่อน จะถือว่าจำเลยครอบครองโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตนหาได้ไม่ และเมื่อคดีก่อนนั้นถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของ ล. ผลของคำพิพากษานั้นย่อมผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความ จำเลยจึงไม่อาจยกเอาสิทธิแห่งการครอบครองที่ดินพิพาทในระหว่างคดีก่อนมาใช้ยันกับโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับพินัยกรรมและเข้าเป็นคู่ความแทน ล. ผู้มรณะได้
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานโจทก์จำเลย แล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริง จากพยานหลักฐานในคดี เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 226 เมื่อจำเลยต้องการใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา ก็ต้องโต้แย้งคำสั่งนั้นไว้
of 124