พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,236 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกสาธารณสมบัติของแผ่นดินและการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ละเมิด โดยคำพิพากษาคดีก่อนไม่ผูกพันบุคคลภายนอก
จำเลยเคยฟ้องขับไล่ผู้มีชื่อให้รื้อถอนบ้านออกจากที่ดินตามที่โจทก์อ้างว่าเป็นลำรางสาธารณะ และศาลได้พิพากษาขับไล่ไปแล้วก็ตามคำพิพากษาคดีดังกล่าวย่อมไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าจำเลย
จำเลยบุกรุกลำรางระบายน้ำสาธารณะอันเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินเป็นการละเมิดทำให้กรุงเทพมหานครและหัวหน้าเขตโจทก์เสียหายโจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ตามสมควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
จำเลยบุกรุกลำรางระบายน้ำสาธารณะอันเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินเป็นการละเมิดทำให้กรุงเทพมหานครและหัวหน้าเขตโจทก์เสียหายโจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ตามสมควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีก่อน และกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจากการเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความ
โจทก์จำเลยได้พิพาทกันมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยโจทก์ได้ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความที่ ว.ยกบ้านและที่ดินพิพาทให้แก่จำเลย ซึ่งในคดีนั้นจำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ แต่เป็นของ ค.และจำเลย ศาลฎีกาพิพากษาว่าทรัพย์พิพาทเป็นของ ค. ซึ่งได้จดทะเบียนยกให้โจทก์และน้องแล้ว สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่าง ว. และจำเลยฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546 ไม่มีผลผูกพันโจทก์คำพิพากษาในคดีก่อนได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้วว่าบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ จึงผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อนแล้วด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาเดิม: คดีกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านที่เคยพิพาทแล้วย่อมผูกพันคู่ความเดิม
โจทก์จำเลยได้พิพาทกันมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยโจทก์ได้ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความที่ ว. ยกบ้านและที่ดินพิพาทให้แก่จำเลย ซึ่งในคดีนั้นจำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ แต่เป็นของ ค. และจำเลยศาลฎีกาพิพากษาว่าทรัพย์พิพาทเป็นของค. ซึ่งได้จดทะเบียนยกให้โจทก์และน้องแล้ว สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่าง ว. และจำเลยฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546 ไม่มีผลผูกพันโจทก์ คำพิพากษาในคดีก่อนได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้วว่าบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ จึงผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อนแล้วด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองหลังคำพิพากษาถึงที่สุด: จำเลยไม่อาจอ้างสิทธิเจ้าของได้อีก เมื่อคดีก่อนพิพากษาว่าเช่า
เมื่อคำพิพากษาในคดีก่อนซึ่งถึงที่สุดไปแล้วฟังว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยทั้งสองอยู่โดยอาศัยสิทธิการเช่าจากบิดาโจทก์ เช่นนี้ เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่าและฟ้องขับไล่เรียกค่าเสียหายจากจำเลยเป็นคดีใหม่ จำเลยจะยกสิทธิครอบครองเป็นเจ้าของขึ้นต่อสู้โจทก์อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุด ศาลสั่งคืนเงินเมื่อศาลฎีกาตัดสินกลับ
โจทก์กับผู้ร้องพิพาทกันเรื่องเงินที่ธนาคารออมสินส่งมาตามคำสั่งอายัดทรัพย์สินไว้ก่อนมีคำพิพากษา ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์มีสิทธิ์เหนือเงินจำนวนนี้ดีกว่าผู้ร้อง ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ผู้ร้องมีสิทธิ์ในเงินจำนวนนี้ การที่โจทก์รับเงินไปจากศาลก่อนศาลฎีกาจะได้มีคำพิพากษา เท่ากับโจทก์รับเงินที่ตนไม่มีสิทธิ์ได้รับตามคำพิพากษาศาลฎีกา โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเงินอายัดทรัพย์สิน: การรับเงินก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุดทำให้มีหน้าที่คืน
โจทก์กับผู้ร้องพิพาทกันเรื่องเงินที่ธนาคารออมสินส่งมาตามคำสั่งอายัดทรัพย์สินไว้ก่อนมีคำพิพากษาในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์มีสิทธิเหนือเงินจำนวนนี้ดีกว่าผู้ร้อง ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ผู้ร้องมีสิทธิในเงินจำนวนนี้การที่โจทก์รับเงินไปจากศาลก่อนศาลฎีกาจะได้มีคำพิพากษา เท่ากับโจทก์รับเงินที่ตนไม่มีสิทธิได้รับตามคำพิพากษาศาลฎีกา โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2314/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์จากการครอบครองปรปักษ์ vs. สิทธิเจ้าหนี้จำนองจากการขายฝาก สิทธิใครเหนือกว่า
เดิมโจทก์ฟ้อง บ. ซึ่งเป็นผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่พิพาท โดยอ้างว่าได้ครอบครองปรปักษ์มาเกิน 10 ปี คดีหนึ่ง และโจทก์ได้ฟ้อง บ. กับจำเลยคดีนี้ขอให้เพิกถอนนิติกรรม บ. นำที่พิพาทไปจดทะเบียนขายฝากจำเลยอีกคดีหนึ่ง แม้ศาลฎีกาได้พิพากษาคดีแรกว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ แต่ก็ได้พิพากษาคดีหลังว่าการขายฝากระหว่าง บ. กับจำเลยเป็นไปโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน ย่อมผูกพันโจทก์มิให้โต้เถียงได้อีกว่าการขายฝากที่พิพาทเป็นไปโดยสมยอมกัน การขายฝากสมบูรณ์ตามกฎหมาย โจทก์หาอาจฟ้องคดีใหม่ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนการขายฝากได้ไม่ ทั้งโจทก์ก็ไม่มีทางไถ่ถอนได้เพราะเวลาไถ่ถอนได้ล่วงพ้นไปแล้ว การที่โจทก์ยังอยู่ในที่พิพาทมาตั้งแต่วันฟ้องแย้งย่อมเป็นการละเมิดสิทธิ์ของจำเลย โจทก์ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้จำเลยตามฟ้องแย้ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอาศัยตามคำพิพากษาประนีประนอม และการสละสิทธิโดยการต่อสู้คดี
ที่พิพาทเป็นที่ดินส่วนหนึ่งของที่ดินที่บิดาโจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท แล้วบิดาโจทก์กับจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยบิดาโจทก์ยอมให้จำเลยกับลูกหลานมีสิทธิอาศัยอยู่ในที่พิพาทไปตลอดชีวิต และศาลพิพากษาตามยอม สิทธิอาศัยดังกล่าวมิได้มีการจดทะเบียนสิทธิไว้ ต่อมาบิดามารดาโจทก์ยกที่ดินนั้นให้แก่โจทก์และบุคคลอื่น สิทธิที่จำเลยจะได้อยู่ในที่พิพาทตนตลอดชีวิตตามคำพิพากษาตามยอมนั้นเป็นประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาที่จำเลยมีอยู่ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยอาศัยอยู่ในที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่าครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ มิได้ยกประเด็นแห่งเงื่อนเวลาดังกล่าวขึ้นต่อสู้ ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้สละประโยชน์แห่งเงื่อนไขเวลาดังกล่าวเสียแล้ว ไม่เป็นประเด็นแห่งคดีต่อปี และประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาดังกล่าไม่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่จำเลยจะอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1657/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดในละเมิดของลูกจ้างที่กระทำในทางการที่จ้าง แม้ข้อเท็จจริงไม่ตรงตามฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้กระทำละเมิดในทางการที่จ้าง เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ขับรถของจำเลยที่ 2 ในทางการที่จ้างโดยประมาทชนรถของโจทก์เสียหาย จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้างก็ต้องร่วมรับผิด แม้จะฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถนั้นก็ตามศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยที่ 2 รับผิดได้ หานอกฟ้องนอกประเด็นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1516-1517/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งนายกฯ ตาม ม.17 ยึดทรัพย์เป็นของรัฐทันที ผู้มีสิทธิถูกจำกัดสิทธิฟ้อง และการสิ้นสุดอำนาจตัวแทน
คำสั่งนายกรัฐมนตรีตามธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร มาตรา 17ให้ทรัพย์ตกเป็นของรัฐทันที มีผลให้ที่ดินและบ้านตามคำสั่งตกเป็นของรัฐในวันออกคำสั่ง จึงไม่มีอะไรต้องปฏิบัติให้เสร็จใน 5 ปีต่อไปอีก
คำพิพากษาวินิจฉัยว่าที่ดินตกเป็นของรัฐตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ตามธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร มาตรา 17 โจทก์ในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจฟ้อง และพิพากษายืนให้ยกฟ้อง คำสั่งนั้นมีผลบังคับเป็นกฎหมายทันทีใช้ยันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีนั้น ไม่ต้องรื้อขึ้นพิจารณาในคดีนี้ใหม่
ตัวแทนหมดอำนาจเมื่อตัวการตาย ไม่มีอำนาจโอนขายที่ดินของตัวการหลังจากตัวการตาย
ผู้อาศัยในโรงเรือนซ่อมแซมบ้านเพื่อความสะดวกสบายของตนสิ่งที่ทำขึ้นเป็นส่วนควบตกแก่เจ้าของ เมื่อถูกเรียกบ้านคืนจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้
คำพิพากษาวินิจฉัยว่าที่ดินตกเป็นของรัฐตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ตามธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร มาตรา 17 โจทก์ในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจฟ้อง และพิพากษายืนให้ยกฟ้อง คำสั่งนั้นมีผลบังคับเป็นกฎหมายทันทีใช้ยันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีนั้น ไม่ต้องรื้อขึ้นพิจารณาในคดีนี้ใหม่
ตัวแทนหมดอำนาจเมื่อตัวการตาย ไม่มีอำนาจโอนขายที่ดินของตัวการหลังจากตัวการตาย
ผู้อาศัยในโรงเรือนซ่อมแซมบ้านเพื่อความสะดวกสบายของตนสิ่งที่ทำขึ้นเป็นส่วนควบตกแก่เจ้าของ เมื่อถูกเรียกบ้านคืนจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้