คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 967

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 87 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1946/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อและผลของการไม่ชำระเงินตามสัญญา หากโจทก์รับเงินไม่ได้ สัญญาระงับ
จำเลยสลักหลังเช็คลงวันที่ล่วงหน้าของผู้อื่นเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ตามสัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกซึ่งมีข้อตกลงกันด้วยว่าจำเลยจะต้องชำระเงินให้โจทก์เป็นงวด ๆ ถ้าไม่ชำระงวดใดให้ถือว่าจำเลยหมดสิทธิอาศัยในอาคาร เมื่อเช็คนั้นถึงกำหนดโจทก์รับเงินไม่ได้ ก็ต้องถือว่าจำเลยผิดสัญญาและสัญญานั้นย่อมเลิกกันไปตามที่ระบุไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยให้ชำระเงินตามเช็คดังกล่าว คงมีสิทธิแต่เพียงไม่ให้จำเลยอาศัยในอาคารและไม่ต้องคืนเงินงวดก่อน ๆ เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1946/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อสิทธิการเช่าและการสลักหลังเช็คล่วงหน้า: ผลของการผิดสัญญาและสิทธิของคู่สัญญา
จำเลยสลักหลังเช็คลงวันที่ล่วงหน้าของผู้อื่นเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ตามสัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกซึ่งมีข้อตกลงกันด้วยว่าจำเลยจะต้องชำระเงินให้โจทก์เป็นงวด ๆ ถ้าไม่ชำระงวดใดให้ถือว่าจำเลยหมดสิทธิอาศัยในอาคาร เมื่อเช็คนั้นถึงกำหนดโจทก์รับเงินไม่ได้ ก็ต้องถือว่า จำเลยผิดสัญญาและสัญญานั้นย่อมเลิกกันไปตามที่ระบุไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยให้ชำระเงินตามเช็คดังกล่าว คงมีสิทธิแต่เพียงไม่ให้จำเลยอาศัยในอาคารและไม่ต้องคืนเงินงวดก่อน ๆ เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับอาวัลมีสิทธิไล่เบี้ยจากผู้สั่งจ่ายตั๋วแลกเงินเมื่อชำระหนี้แทนได้ แม้ยังไม่ชำระหนี้ทั้งหมด
จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายตั๋วแลกเงินให้แก่เจ้าหนี้ โดยโจทก์เป็นผู้รับอาวัลโจทก์ไม่ใช่ลูกหนี้โดยตรง เพียงแต่ต้องรับผิดชดใช้เงินตามตั๋วแลกเงินในเมื่อจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายไม่ชำระ ความผูกพันของโจทก์จำเลยซึ่งมีต่อเจ้าหนี้ผู้ทรงตั๋วแลกเงิน.จึงมิใช่เป็นลูกหนี้ร่วมกันจะต้องรับผิดเป็นส่วนเท่าๆกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 296 แม้มาตรา 967 จะบัญญัติให้ผู้สั่งจ่ายและผู้รับอาวัลต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง ก็เพื่อประโยชน์แก่ผู้ทรงในอันที่จะว่ากล่าวเรียกเงินตามตั๋ว แต่ในระหว่างผู้สั่งจ่ายกับผู้รับอาวัล ผู้สั่งจ่ายจะต้องชำระเงินตามจำนวนที่ระบุในตั๋วแลกเงินก่อน หากผู้สั่งจ่ายไม่ชำระผู้รับอาวัลจึงต้องรับผิดชดใช้ให้ เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินตามตั๋วแลกเงิน และโจทก์ใช้เงินให้เจ้าหนี้ผู้ทรงตั๋วแลกเงินไปแล้วบางส่วนโดยมีหลักฐานการชำระหนี้ โจทก์ย่อมได้สิทธิในอันจะไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยซึ่งโจทก์ประกันไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 940 วรรคสามโดยหาจำต้องชำระแล้วทั้งหมดหรือถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินในตั๋วแลกเงินไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับอาวัลไม่ต้องรับผิดเป็นลูกหนี้ร่วม หากผู้สั่งจ่ายไม่ชำระหนี้ ผู้รับอาวัลมีสิทธิไล่เบี้ย
จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายตั๋วแลกเงินให้แก่เจ้าหนี้ โดยโจทก์เป็นผู้รับอาวัลโจทก์ไม่ใช่ลูกหนี้โดยตรง เพียงแต่ต้องรับผิดชดใช้เงินตามตั๋วแลกเงินในเมื่อจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายไม่ชำระ ความผูกพันของโจทก์จำเลยซึ่งมีต่อเจ้าหนี้ผู้ทรงตั๋วแลกเงิน.จึงมิใช่เป็นลูกหนี้ร่วมกันจะต้องรับผิดเป็นส่วนเท่าๆ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 296 แม้มาตรา 967 จะบัญญัติให้ผู้สั่งจ่ายและผู้รับอาวัลต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง ก็เพื่อประโยชน์แก่ผู้ทรงในอันที่จะว่ากล่าวเรียกเงินตามตั๋ว แต่ในระหว่างผู้สั่งจ่ายกับผู้รับอาวัล ผู้สั่งจ่ายจะต้องชำระเงินตามจำนวนที่ระบุในตั๋วแลกเงินก่อน หากผู้สั่งจ่ายไม่ชำระผู้รับอาวัลจึงต้องรับผิดชดใช้ให้ เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินตามตั๋วแลกเงิน และโจทก์ใช้เงินให้เจ้าหนี้ผู้ทรงตั๋วแลกเงินไปแล้วบางส่วนโดยมีหลักฐานการชำระหนี้ โจทก์ย่อมได้สิทธิในอันจะไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยซึ่งโจทก์ประกันไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 940 วรรคสามโดยหาจำต้องชำระแล้วทั้งหมดหรือถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินในตั๋วแลกเงินไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1853/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คโดยชอบแม้ไม่มีเงินฝาก ผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังร่วมรับผิดต่อผู้ทรง
ผู้สั่งจ่ายเช็คไม่มีเงินฝากธนาคาร. แต่ออกเช็คโดยใช้แบบพิมพ์เช็คของบุคคลอื่นเมื่อทำเป็นหนังสือตราสารซึ่งมีรายการครบถ้วนบริบูรณ์ตามลักษณะที่บัญญัติไว้ในมาตรา 987, 988 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ย่อมเป็นเช็คโดยชอบ.หากผู้ทรงนำไปขึ้นเงินจากธนาคารไม่ได้. ผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังหรือผู้รับประกันด้วยอาวัลย่อมต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง.
การที่ผู้ทรงเช็คเคยฟ้องผู้สั่งจ่ายเป็นคดีอาญา แล้วถอนฟ้องเสีย โดยยอมผ่อนเวลาให้ผู้สั่งจ่ายใช้เงินตามเช็คนั้น. ไม่เป็นเหตุให้ผู้สลักหลังหรือรับประกันด้วยอาวัลหลุดพ้นจากความรับผิด เพราะต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง. (ปัญหาตามวรรคแรกวินิจฉัยตามแนวคำพิพากษาฎีกาที่ 1017/2507 ซึ่งวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1853/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คที่ออกโดยไม่มีเงินฝากแต่มีรายการครบถ้วนสมบูรณ์ ผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังต้องรับผิดร่วมกันต่อผู้ทรง
ผู้สั่งจ่ายเช็คไม่มีเงินฝากธนาคาร แต่ออกเช็คโดยใช้แบบพิมพ์เช็คของบุคคลอื่นเมื่อทำเป็นหนังสือตราสารซึ่งมีรายการครบถ้วนบริบูรณ์ตามลักษณะที่บัญญัติไว้ในมาตรา 987,988 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ย่อมเป็นเช็คโดยชอบหากผู้ทรงนำไปขึ้นเงินจากธนาคารไม่ได้ ผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังหรือผู้รับประกันด้วยอาวัลย่อมต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง
การที่ผู้ทรงเช็คเคยฟ้องผู้สั่งจ่ายเป็นคดีอาญา แล้วถอนฟ้องเสีย โดยยอมผ่อนเวลาให้ผู้สั่งจ่ายใช้เงินตามเช็คนั้น ไม่เป็นเหตุให้ผู้สลักหลังหรือรับประกันด้วยอาวัลหลุดพ้นจากความรับผิด เพราะต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง (ปัญหาตามวรรคแรกวินิจฉัยตามแนวคำพิพากษาฎีกาที่ 1017/2507 ซึ่งวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1853/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คโดยชอบ แม้ผู้สั่งจ่ายไม่มีเงินฝาก ผู้สลักหลัง/อาวัลร่วมรับผิด แม้มีการถอนฟ้องคดีอาญา
ผู้สั่งจ่ายเช็คไม่มีเงินฝากธนาคาร แต่ออกเช็คโดยใช้แบบพิมพ์เช็คของบุคคลอื่นเมื่อทำเป็นหนังสือตราสารซึ่งมีรายการครบถ้วนบริบูรณ์ตามลักษณะที่บัญญัติไว้ในมาตรา 987, 988 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ย่อมเป็นเช็คโดยชอบหากผู้ทรงนำไปขึ้นเงินจากธนาคารไม่ได้ ผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังหรือผู้รับประกันด้วยอาวัลย่อมต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง
การที่ผู้ทรงเช็คเคยฟ้องผู้สั่งจ่ายเป็นคดีอาญา แล้วถอนฟ้องเสีย โดยยอมผ่อนเวลาให้ผู้สั่งจ่ายใช้เงินตามเช็คนั้น ไม่เป็นเหตุให้ผู้สลักหลังหรือรับประกันด้วยอาวัลหลุดพ้นจากความรับผิด เพราะต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง
(ปัญหาตามวรรคแรกวินิจฉัยตามแนวคำพิพากษาฎีกาที่ 1017/2507 ซึ่งวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายและผู้สลักหลังเช็คต่อผู้ทรง
จำเลยที่ 1 ออกเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ จำเลยที่ 3 เป็นผู้สลักหลัง เมื่อเช็คถึงกำหนดและโจทก์นำไปเข้าบัญชี แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 จำเลยที่3 จึงมีฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 มิได้มีฐานะเป็นผู้ค้ำประกัน จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 700 และ 948 มาบังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้สลักหลังเช็คมีฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับผู้สั่งจ่ายเมื่อเช็คไม่สามารถเรียกเก็บได้
จำเลยที่ 1 ออกเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ จำเลยที่ 3 เป็นผู้สลักหลัง เมื่อเช็คถึงกำหนดและโจทก์นำไปเข้าบัญชี แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 จำเลยที่ 3 จึงมีฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 มิได้มีฐานะเป็นผู้ค้ำประกัน จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 700 และ 948 มาบังคับไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 1034/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คไม่บริสุทธิ์-รับผิดเช็ค: จำเลยต้องแสดงเหตุผลการอ้างว่าโจทก์ไม่สุจริต และข้อเท็จจริงในคดีอาญาใช้ฟังในคดีแพ่งได้
คำให้การของจำเลยที่ว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่บริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์อย่างไรมิได้แสดงไว้ ถือว่าไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบได้
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 967 และ 989 ผู้ทรงเช็คมีสิทธิว่ากล่าวเอาแก่ผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังเรียงตัวหรือรวมกันก็ได้ โดยมิพักต้องดำเนินตามลำดับที่คนเหล่านั้นมาต้องผูกพัน
เมื่อจำเลยแถลงตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลว่าจะขอสืบพยานเพียง 2 ข้อ จำเลยจะขอสืบพยานในประเด็นข้ออื่นนอกจาก 2 ข้อนั้นมิได้
ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลย และปรากฏว่าเกี่ยวกับเช็ครายนี้จำเลยถูกศาลพิพากษาลงโทษในข้อหาว่าจำเลยออกเช็คให้โจทก์คดีนี้โดยไม่มีเงินอยู่ในธนาคาร ข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่พิพากษาว่าจำเลยยอมให้ผู้อื่นกรอกจำนวนเงินในเช็คและเมื่อผู้นั้นกรอกแล้ว จำเลยก็มิได้คัดค้านประการใด เพียงแต่ขอผัดเรื่อย ๆ นั้น ย่อมนำมารับฟังในคดีแพ่งว่าจำเลยต้องรับผิดตามเช็คนั้นได้.
of 9