คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 175

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 99 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จเกี่ยวกับเช็คไม่เป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดฐานฉ้อโกง หากการกระทำนั้นไม่เข้าข่ายการหลอกลวงให้ได้ทรัพย์
การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงแห่งคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่า 'พยานโจทก์ที่นำสืบมาฟังไม่ได้ว่าจำเลยฟ้องโจทก์เป็นฟ้องเท็จ' นั้นเป็นการวินิจฉัยว่าพยานโจทก์ตามที่นำสืบมา ไม่มีมูลในความผิดฐานฟ้องเท็จนั่นเอง ไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ข้อสำคัญในคดีสำหรับความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 คือ หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง การเอาเช็คไปขอแลกเงินสด มิใช่เป็นการหลอกลวงให้ส่งทรัพย์ ถึงโจทก์จะกระทำตามที่จำเลยเบิกความ โจทก์ก็ไม่มีความผิดฐานฉ้อโกงดังนั้น แม้จำเลยจะรู้ว่าเช็คฉบับดังกล่าวเป็นเช็คที่โจทก์นำมามอบให้จำเลยเกี่ยวกับการเล่นการพนันสลากกินรวบ แล้วจำเลยมาเบิกความว่าเป็นเช็คที่โจทก์นำไปขอแลกเงินสดจากจำเลยข้อที่จำเลยเบิกความดังกล่าวแม้จะเป็นความเท็จ ก็มิใช่เป็นข้อสำคัญในคดีสำหรับความผิดฐานฉ้อโกง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จในคดีฉ้อโกงไม่เป็นข้อสำคัญ หากการกระทำไม่เข้าข่ายหลอกลวงให้ส่งทรัพย์
การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงแห่งคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่า'พยานโจทก์ที่นำสืบมาฟังไม่ได้ว่าจำเลยฟ้องโจทก์เป็นฟ้องเท็จ'นั้นเป็นการวินิจฉัยว่าพยานโจทก์ตามที่นำสืบมาไม่มีมูลในความผิดฐานฟ้องเท็จนั่นเองไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา. ข้อสำคัญในคดีสำหรับความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา341คือหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงการเอาเช็คไปขอแลกเงินสดมิใช่เป็นการหลอกลวงให้ส่งทรัพย์ถึงโจทก์จะกระทำตามที่จำเลยเบิกความโจทก์ก็ไม่มีความผิดฐานฉ้อโกงดังนั้นแม้จำเลยจะรู้ว่าเช็คฉบับดังกล่าวเป็นเช็คที่โจทก์นำมามอบให้จำเลยเกี่ยวกับการเล่นการพนันสลากกินรวบแล้วจำเลยมาเบิกความว่าเป็นเช็คที่โจทก์นำไปขอแลกเงินสดจากจำเลยข้อที่จำเลยเบิกความดังกล่าวแม้จะเป็นความเท็จก็มิใช่เป็นข้อสำคัญในคดีสำหรับความผิดฐานฉ้อโกง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3800/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ทรงเช็คโดยชอบ ฟ้องเท็จ-เบิกความเท็จ การพิพากษาคดีแพ่งเป็นผลต่อคดีอาญา
เช็คที่บริษัท อ.มอบให้บริษัทย. โดยระบุชื่อจำเลยเป็นผู้รับเงินโดยบริษัท อ. ลูกหนี้และโจทก์ซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายยอมรับว่ามีความผูกพันที่จะต้องชำระหนี้ตามเช็ค จำเลยจึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบ แม้เช็คพิพาทจะไม่ได้ลงวันที่จำเลยทำการโดยสุจริตย่อมมีอำนาจจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงลงได้ การที่จำเลยฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาโดยอ้างว่าโจทก์ออกเช็คให้จำเลยเป็นการชำระหนี้ค่านายหน้าและแม้จำเลยจะลงวันที่ในเช็คก็ไม่เป็นการฟ้องเท็จ เพราะการนำสืบของโจทก์ก็ยังยอมรับว่าโจทก์และบริษัท อ. มีความผูกพันที่จะต้องจ่ายเงินตามเช็คให้บริษัท ย. เมื่อจำเลยเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบและได้ฟ้องโจทก์เป็นคดีแพ่งศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษายืนให้โจทก์ชำระเงินแก่จำเลยตามเช็คจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานฟ้องเท็จ และเมื่อจำเลยเบิกความไปตามคำฟ้องจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3488/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โทษปรับสำหรับนิติบุคคลในความผิดฐานฟ้องเท็จ แม้กฎหมายกำหนดทั้งจำคุกและปรับ
ศาลอาจลงโทษนิติบุคคลในความผิดฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 ซึ่งมีทั้งโทษจำคุกและปรับโดยลงโทษปรับแต่เพียงสถานเดียวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3488/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โทษปรับสำหรับนิติบุคคลในความผิดฐานฟ้องเท็จ: ศาลสามารถลงโทษปรับได้เพียงสถานเดียว
ศาลอาจลงโทษนิติบุคคลในความผิดฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 ซึ่งมีทั้งโทษจำคุกและปรับ โดยลงโทษปรับแต่เพียงสถานเดียวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2684/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายกรรมต่างกัน: แจ้งความเท็จ, ฟ้องเท็จ, เบิกความเท็จ ต้องลงโทษทุกกรรม
จำเลยกระทำความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ แม้ความที่เป็นเท็จนั้นจะเป็นเรื่องเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1007/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีฟ้องเท็จเป็นคดีอาญาแผ่นดิน สัญญาประนีประนอมยอมความใช้ไม่ได้ ผู้ถูกฟ้องเป็นผู้เสียหายฟ้องได้
คดีความผิดฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175เป็นคดีอาญาแผ่นดิน มิใช่ความผิดต่อส่วนตัวหรือความผิดอันยอมความได้ คดีอาญาที่จะระงับไปเพราะการยอมความนั้นมีได้เฉพาะแต่ความผิดต่อส่วนตัว ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 39(2) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ฉะนั้นแม้โจทก์จำเลยจะได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อกันไว้ก็ไม่ทำให้คดีซึ่งมีข้อหาดังกล่าวข้างต้นระงับไป
จำเลยนำความเท็จมาฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญา ถึงแม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษายกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องก็ตาม แต่โจทก์ผู้ถูกฟ้องย่อมได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยแล้ว โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย และคำฟ้องในคดีดังกล่าวนั้นถือได้ว่าเป็นฟ้องโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานฟ้องเท็จ
คดีที่คู่ความฎีกาได้แต่เฉพาะข้อกฎหมาย ศาลฎีกาก็มีอำนาจที่จะพิพากษาลงโทษจำเลยให้เหมาะสมแก่ความผิด และรอการลงโทษให้แก่จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 268/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่ชัดเจนของฟ้องในความผิดฐานฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา
ในความผิดฐานฟ้องเท็จ ฟ้องของโจทก์บรรยายถึงคำฟ้องที่ว่าเป็นฟ้องเท็จความจริงเป็นอย่างไรมิได้กล่าวถึง พิจารณาคำฟ้องโดยตลอดก็ไม่อาจเข้าใจได้ และที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าโจทก์มิได้กระทำความผิดเพราะศาลพิพากษายกฟ้องในคดีนั้น ก็เป็นเพียงอ้างผลของคำพิพากษาว่าศาลพิพากษาในคดีนั้นอย่างไรเท่านั้น ถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้บรรยายฟ้องถึงความจริงอันแสดงให้เห็นได้ว่าคำฟ้องในคดีนั้นเป็นความเท็จ ยากที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี ส่วนฟ้องของโจทก์ที่ว่าจำเลยเบิกความเท็จนั้น โจทก์บรรยายฟ้องถึงคำเบิกความของจำเลยแต่ละคนมาหลายตอนซึ่งมิใช่ความเท็จทั้งหมดคำเบิกความของจำเลยคนใดตอนไหนเป็นความเท็จและความจริงเป็นอย่างไร โจทก์มิได้กล่าวให้ชัดเจน ไม่อาจทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเช่นกัน ฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2843/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเท็จ: การระบุสถานที่เกิดเหตุเท็จและการขอโทษหนักกว่าความผิด ไม่ถือเป็นความผิดฐานฟ้องเท็จ
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยกระทำผิดฐานฟ้องเท็จ โดยจำเลย ได้ ฟ้องโจทก์ว่ากระทำผิดฐานหมิ่นประมาทแต่ระบุสถานที่เกิดเหตุเป็นเท็จ และอ้างกฎหมายขอให้ลงโทษแรงกว่าที่เป็นจริงดังนี้ เหตุ 2 ประการดังกล่าวมิใช่เนื้อหาแห่งการ กระทำ อันจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท แม้จะอ้างกฎหมายขอให้ลงโทษหลายบทรวมกันมา โดยกฎหมายบางบท มีโทษหนักกว่า ความผิด ก็เป็นเรื่องมีคำขอฟุ่มเฟือย เกินเลยไปกรณีจะเป็นความผิดอาญาลงโทษได้ ตามกฎหมายบทใดหรือไม่ ย่อมอยู่ที่การกระทำ ซึ่งบรรยายในฟ้อง ข้ออ้างตามฟ้อง โจทก์ยังถือไม่ได้ว่า จำเลยกระทำผิดฐานฟ้องเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2843/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเท็จต้องพิจารณาเนื้อหาความผิดจริง การระบุสถานที่เกิดเหตุเท็จหรือขอโทษหนักกว่าความเป็นจริงไม่ใช่ความผิดฐานฟ้องเท็จ
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยกระทำผิดฐานฟ้องเท็จ โดยจำเลยได้ฟ้องโจทก์ว่ากระทำผิดฐานหมิ่นประมาทแต่ระบุสถานที่เกิดเหตุเป็นเท็จ และอ้างกฎหมายขอให้ลงโทษแรงกว่าที่เป็นจริง ดังนี้ เหตุ 2 ประการดังกล่าวมิใช่เนื้อหาแห่งการกระทำอันจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท แม้จะอ้างกฎหมายขอให้ลงโทษหลายบทรวมกันมา โดยกฎหมายบางบทมีโทษได้ตามกฎหมายบทใดหรือไม่ ย่อมอยู่ที่การกระทำซึ่งบรรยายในฟ้องข้ออ้างตามฟ้องโจทก์ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานฟ้องเท็จ
of 10