คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 177

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 430 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3646/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการพิจารณาความผิดแจ้งความเท็จ: ต้องพิจารณามาตรา 172 ก่อนมาตรา 174 วรรคสอง และสิทธิอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
การที่จะพิจารณาว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา174วรรคสองหรือไม่ศาลต้องพิจารณาเสียก่อนว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา172หรือไม่การกระทำความผิดตามมาตรา174วรรคสองมีอัตราโทษอย่างสูงเกินสามปีไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตราS93ทวิในกรณีเช่นนี้สำหรับความผิดฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา172จึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงด้วย การกระทำอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา174วรรคสองได้นั้นจะต้องกระทำความผิดตามมาตรา172เสียก่อนแม้โจทก์จะได้ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงในความผิดตามมาตรา172มาด้วยและศาลชั้นต้นสั่งรับไว้ก็ตามเมื่อศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริงดังกล่าวดังนี้ศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยตามลำดับชั้นของศาลเสียก่อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3646/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการพิจารณาความผิดแจ้งความเท็จ: มาตรา 172 ก่อน 174 วรรคสอง และข้อยกเว้นการห้ามอุทธรณ์
การที่จะพิจารณาว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 174 วรรคสองหรือไม่ ศาลต้องพิจารณาเสียก่อนว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จ ตามมาตรา172 หรือไม่ การกระทำความผิดตาม มาตรา 174 วรรคสองมีอัตราโทษอย่างสูงเกินสามปีไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิในกรณีเช่นนี้สำหรับความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม มาตรา 172 จึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงด้วย
การกระทำอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 174วรรคสองได้นั้น จะต้องกระทำความผิดตาม มาตรา 172 เสียก่อนแม้โจทก์จะได้ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงในความผิดตาม มาตรา 172มาด้วยและศาลชั้นต้นสั่งรับไว้ก็ตามเมื่อศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริงดังกล่าว ดังนี้ ศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยตามลำดับชั้นของศาลเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3646/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการพิจารณาความผิดแจ้งความเท็จ: มาตรา 172 ก่อน 174 วรรคสอง และข้อยกเว้นการอุทธรณ์
การที่จะพิจารณาว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 174 วรรคสองหรือไม่ ศาลต้องพิจารณาเสียก่อนว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จ ตามมาตรา 172 หรือไม่ การกระทำความผิดตาม มาตรา 174 วรรคสองมีอัตราโทษอย่างสูงเกินสามปีไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193 ทวิในกรณีเช่นนี้สำหรับความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม มาตรา 172 จึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงด้วย
การกระทำอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 174 วรรคสองได้นั้น จะต้องกระทำความผิดตาม มาตรา 172 เสียก่อน แม้โจทก์จะได้ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงในความผิดตาม มาตรา 172 มาด้วยและศาลชั้นต้นสั่งรับไว้ก็ตามเมื่อศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริงดังกล่าว ดังนี้ ศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยตามลำดับชั้นของศาลเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3439/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จในคดีเช็ค: ข้อสำคัญอยู่ที่เจตนาออกเช็ค ไม่ใช่การชำระหนี้บางส่วน
คำเบิกความที่เป็นข้อสำคัญในการพิจารณาคดีว่าโจทก์กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คหรือไม่อยู่ที่ว่าโจทก์ออกเช็คโดยมีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คหรือไม่มิได้อยู่ที่ว่าเช็คที่จำเลยฟ้องเป็นคดีอาญานั้นมีการชำระหนี้กันบางส่วนตามเช็คนั้นหรือไม่แม้คำเบิกความของจำเลยที่ว่าซื้อรถแทรกเตอร์จากโจทก์1คันราคา210,000บาทและได้ชำระด้วยเงินสดให้โจทก์จะเป็นความเท็จความจริงเมื่อจำเลยนำเช็คที่โจทก์ออกให้ไปขึ้นเงินไม่ได้โจทก์จำเลยได้ประนีประนอมยอมความกันโดยโจทก์เอารถแทรกเตอร์ของโจทก์ตีใช้หนี้ให้จำเลยบางส่วนเป็นเงิน210,000บาทดังฟ้องก็มิใช่คำเบิกความอันเป็นเท็จที่เป็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา177.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3439/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำเบิกความเท็จที่ไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีเช็ค การชำระหนี้บางส่วนไม่กระทบความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาทุจริต
คำเบิกความที่เป็นข้อสำคัญในการพิจารณาคดีว่าโจทก์กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คหรือไม่อยู่ที่ว่าโจทก์ออกเช็คโดยมีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คหรือไม่มิได้อยู่ที่ว่าเช็คที่จำเลยฟ้องเป็นคดีอาญานั้นมีการชำระหนี้กันบางส่วนตามเช็คนั้นหรือไม่ แม้คำเบิกความของจำเลยที่ว่าซื้อรถแทรกเตอร์จากโจทก์1 คัน ราคา210,000 บาท และได้ชำระด้วยเงินสดให้โจทก์จะเป็นความเท็จความจริง เมื่อจำเลยนำเช็คที่โจทก์ออกให้ไปขึ้นเงินไม่ได้โจทก์จำเลยได้ประนีประนอมยอมความกันโดยโจทก์เอารถแทรกเตอร์ของโจทก์ตีใช้หนี้ให้จำเลยบางส่วนเป็นเงิน 210,000บาท ดังฟ้อง ก็มิใช่คำเบิกความอันเป็นเท็จที่เป็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3439/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชีเป็นประเด็นสำคัญคดีเช็ค ไม่ใช่การชำระหนี้บางส่วน
คำเบิกความที่เป็นข้อสำคัญในการพิจารณาคดีว่าโจทก์กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คหรือไม่ อยู่ที่ว่าโจทก์ออกเช็คโดยมีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คหรือไม่มิได้ อยู่ที่ว่าเช็คที่จำเลยฟ้องเป็นคดีอาญานั้น มีการชำระหนี้กันบางส่วนตามเช็คนั้นหรือไม่ แม้คำเบิกความของจำเลยที่ว่าซื้อรถแทรกเตอร์จากโจทก์ 1 คัน ราคา 210,000 บาท และได้ชำระด้วยเงินสดให้โจทก์จะเป็นความเท็จ ความจริง เมื่อจำเลยนำเช็คที่โจทก์ออกให้ไปขึ้นเงินไม่ได้ โจทก์จำเลยได้ประนีประนอมยอมความกันโดยโจทก์เอารถแทรกเตอร์ของโจทก์ตีใช้หนี้ให้จำเลยบางส่วนเป็นเงิน 210,000 บาท ดังฟ้อง ก็มิใช่คำเบิกความอันเป็นเท็จที่เป็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำเบิกความเท็จเพื่อยืดอายุความคดีอาญา: ผลกระทบต่อการฟ้องร้อง
โจทก์ถูกฟ้องด้วยข้อหายักยอกซึ่งเป็นความผิดอันยอมความกันได้ถ้าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดเป็นอันขาดอายุความสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปคำเบิกความเท็จของจำเลยซึ่งสนับสนุนข้ออ้างว่าสิทธิที่จะฟ้องร้องโจทก์ยังมิได้ระงับไปด้วยคดีขาดอายุความจึงเป็นข้อสำคัญในคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเพื่อยืดอายุความคดีอาญา: ผลกระทบต่อการฟ้องร้อง
โจทก์ถูกฟ้องด้วยข้อหายักยอก ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความกันได้ถ้าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดเป็นอันขาดอายุความ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป คำเบิกความเท็จของจำเลยซึ่งสนับสนุนข้ออ้างว่าสิทธิที่จะฟ้องร้องโจทก์ยังมิได้ระงับไปด้วยคดีขาดอายุความจึงเป็นข้อสำคัญในคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จเกี่ยวกับเช็คไม่เป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดฐานฉ้อโกง หากการกระทำนั้นไม่เข้าข่ายการหลอกลวงให้ได้ทรัพย์
การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงแห่งคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่า 'พยานโจทก์ที่นำสืบมาฟังไม่ได้ว่าจำเลยฟ้องโจทก์เป็นฟ้องเท็จ' นั้นเป็นการวินิจฉัยว่าพยานโจทก์ตามที่นำสืบมา ไม่มีมูลในความผิดฐานฟ้องเท็จนั่นเอง ไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ข้อสำคัญในคดีสำหรับความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 คือ หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง การเอาเช็คไปขอแลกเงินสด มิใช่เป็นการหลอกลวงให้ส่งทรัพย์ ถึงโจทก์จะกระทำตามที่จำเลยเบิกความ โจทก์ก็ไม่มีความผิดฐานฉ้อโกงดังนั้น แม้จำเลยจะรู้ว่าเช็คฉบับดังกล่าวเป็นเช็คที่โจทก์นำมามอบให้จำเลยเกี่ยวกับการเล่นการพนันสลากกินรวบ แล้วจำเลยมาเบิกความว่าเป็นเช็คที่โจทก์นำไปขอแลกเงินสดจากจำเลยข้อที่จำเลยเบิกความดังกล่าวแม้จะเป็นความเท็จ ก็มิใช่เป็นข้อสำคัญในคดีสำหรับความผิดฐานฉ้อโกง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จในคดีฉ้อโกงไม่เป็นข้อสำคัญ หากการกระทำไม่เข้าข่ายหลอกลวงให้ส่งทรัพย์
การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงแห่งคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่า'พยานโจทก์ที่นำสืบมาฟังไม่ได้ว่าจำเลยฟ้องโจทก์เป็นฟ้องเท็จ'นั้นเป็นการวินิจฉัยว่าพยานโจทก์ตามที่นำสืบมาไม่มีมูลในความผิดฐานฟ้องเท็จนั่นเองไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา. ข้อสำคัญในคดีสำหรับความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา341คือหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงการเอาเช็คไปขอแลกเงินสดมิใช่เป็นการหลอกลวงให้ส่งทรัพย์ถึงโจทก์จะกระทำตามที่จำเลยเบิกความโจทก์ก็ไม่มีความผิดฐานฉ้อโกงดังนั้นแม้จำเลยจะรู้ว่าเช็คฉบับดังกล่าวเป็นเช็คที่โจทก์นำมามอบให้จำเลยเกี่ยวกับการเล่นการพนันสลากกินรวบแล้วจำเลยมาเบิกความว่าเป็นเช็คที่โจทก์นำไปขอแลกเงินสดจากจำเลยข้อที่จำเลยเบิกความดังกล่าวแม้จะเป็นความเท็จก็มิใช่เป็นข้อสำคัญในคดีสำหรับความผิดฐานฉ้อโกง.
of 43