คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 177

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 430 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จในชั้นไต่สวนอนาถา ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อคู่ความ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
การที่จำเลยเข้าเบิกความในชั้นไต่สวนเพื่อให้ศาลสั่งอนุญาตให้จำเลยซึ่งเป็นโจทก์ในคดีนั้นฟ้องคดีอย่างคนอนาถา เป็นข้อความที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของจำเลย มิได้เกี่ยวพันถึงโจทก์ในคดีนี้หรือจำเลยในคดีนั้นโจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องคดีในข้อหาเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในการขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
การเบิกความหรือนำสืบแสดงพยานหลักฐานต่อศาลในการพิจารณาไต่สวนเพื่อมีคำสั่งอันเกี่ยวกับการนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ ถ้าคำเบิกความ หรือพยานหลักฐานที่นำสืบแสดงเป็นความเท็จและเป็นข้อสำคัญในประเด็นของเรื่องที่ศาลจะต้องวินิจฉัยสั่งในการพิจารณาส่วนนั้น ก็ย่อมจะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ นำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 และมาตรา 180 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในชั้นไต่สวนขอคุ้มครองชั่วคราว ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177, 180 ได้
การเบิกความหรือนำสืบแสดงพยานหลักฐานต่อศาลในการพิจารณาไต่สวนเพื่อมีคำสั่งอันเกี่ยวกับการนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ ถ้าคำเบิกความหรือพยานหลักฐานที่นำสืบแสดงเป็นความเท็จและเป็นข้อสำคัญในประเด็นของเรื่องที่ศาลจะต้องวินิจฉัยสั่งในการพิจารณาส่วนนั้น ก็ย่อมจะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ นำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 และมาตรา 180 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อและพิพากษาคดีแพ่งผิดพลาด ถือเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ
ธนาคารฟ้องขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินตามตั๋วแลกเงิน โจทก์ได้ให้การต่อสู้คดีว่า นายมานิตย์ได้ชำระเงินตามตั๋วแลกเงินให้ธนาคารฯ แทนโจทก์ตามเช็คเลขที่ เค.0343109 แล้ว ข้อที่ว่าธนาคารได้รับเช็คชำระเงินตามตั๋วแลกเงินแล้วหรือไม่ จึงเป็นข้อสำคัญในคดี ฉะนั้น ที่จำเลยเบิกความในฐานะผู้จัดการธนาคารฯ ว่าได้รับแต่ตั๋วแลกเงินจากโจทก์ ไม่มีเช็คกำกับด้วย อันเป็นความเท็จ ถือได้ว่าจำเลยได้เบิกความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดีการกระทำของจำเลยจึงมีมูลเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญาเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องหาใช่ข้อสารสำคัญไม่ และเมื่อการพิจารณาเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งจำเลยยังมิได้ให้การ ยังไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้จึงยกเอาเหตุข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องขึ้น ยกฟ้องในชั้นนี้ยังไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 93/2513)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อและพิพากษาคดีแพ่งผิดพลาด ถือเป็นข้อสำคัญในคดีอาญา
ธนาคารฟ้องขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินตามตั๋วแลกเงิน โจทก์ได้ให้การต่อสู้คดีว่า นายมานิตย์ได้ชำระเงินตามตั๋วแลกเงินให้ธนาคารฯ แทนโจทก์ ตามเช็คเลขที่ เค.0343109 แล้ว ข้อที่ว่าธนาคารได้รับเช็คชำระเงินตามตั๋วแลกเงินแล้วหรือไม่ จึงเป็นข้อสำคัญในคดี ฉะนั้น ที่จำเลยเบิกความในฐานะผู้จัดการธนาคารฯ ว่าได้รับแต่ตั๋วแลกเงินจากโจทก์ไม่มีเช็คกำกับด้วย อันเป็นความเท็จ ถือได้ว่าจำเลยได้เบิกความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดีการกระทำของจำเลยจึงมีมูลเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญาเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่ และเมื่อการพิจารณาเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งจำเลยยังมิได้ให้การ ยังไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้จึงยกเอาเหตุข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องขึ้น ยกฟ้องในชั้นนี้ยังไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 93/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในคดีอาญาเพื่อช่วยเหลือจำเลย ทำให้ศาลยกฟ้อง เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
ข้อสำคัญในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 859/2511 คือ นายเทพหรือสุเทพได้ใช้ปืนยิงจำเลยกับพวกจริงหรือไม่ ฉะนั้นข้อความอันเป็นเท็จที่จำเลยเบิกความว่าจำเลยได้ยินเสียงปืนดัง 10 นัด เข้าใจว่าเป็นเสียงปืนที่ยิงพวกจำเลยเพื่อแสดงว่าจำเลยไม่เห็นใครยิงปืนขึ้น10 นัด ทั้ง ๆ ที่ความจริงจำเลยเห็นนายเทพหรือสุเทพเป็นคนใช้ปืนกระหน่ำยิงมาทางจำเลยเป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้อง ปล่อยนายเทพหรือสุเทพไป จึงเป็นข้อสารสำคัญในคดี จำเลยต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในชั้นศาลเพื่อช่วยเหลือจำเลยในคดีอาญา, เป็นข้อสำคัญในคดี, มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
ข้อสำคัญในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 859/2511 คือ นายเทพหรือสุเทพได้ใช้ปืนยิงจำเลยกับพวกจริงหรือไม่ ฉะนั้น ข้อความอันเป็นเท็จที่จำเลยเบิกความว่าจำเลยได้ยินเสียงปืนดัง 10 นัด เข้าใจว่าเป็นเสียงปืนที่ยิงพวกจำเลย เพื่อแสดงว่าจำเลยไม่เห็นใครยิงปืนขึ้น10 นัด ทั้ง ๆ ที่ความจริงจำเลยเห็นนายเทพหรือสุเทพเป็นคนใช้ปืนกระหน่ำยิงมาทางจำเลยเป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้อง ปล่อยนายเทพหรือสุเทพไป จึงเป็นข้อสารสำคัญในคดี จำเลยต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีเบิกความเท็จหลังมีคำพิพากษา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่สามารถทำได้
การถอนฟ้องนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติถึงคดีที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ว่าให้ถอนคดีได้เสมอไป ไม่ว่าผู้เสียหายหรืออัยการเป็นโจทก์ การถอนฟ้องต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 ที่ให้ถอนฟ้องได้ก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เว้นแต่คดีความผิดต่อส่วนตัวจะถอนฟ้องหรือยอมความในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดได้ ในกรณีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 มิใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วจึงถอนฟ้องไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีเบิกความเท็จหลังมีคำพิพากษา ศาลฎีกาตัดสินว่าทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว
การถอนฟ้องนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติ.ถึงคดีที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ว่าให้ถอนคดีได้เสมอไป. ไม่ว่าผู้เสียหายหรืออัยการเป็นโจทก์. การถอนฟ้องต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 ที่ให้ถอนฟ้องได้ก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้น. เว้นแต่คดีความผิดต่อส่วนตัวจะถอนฟ้องหรือยอมความในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้. ในกรณีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 มิใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว.เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วจึงถอนฟ้องไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีอาญาหลังมีคำพิพากษา ศาลไม่อนุญาต เพราะไม่ใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว
การถอนฟ้องนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติ ถึงคดีที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ว่าให้ถอนคดีได้เสมอไป ไม่ว่าผู้เสียหายหรืออัยการเป็นโจทก์ การถอนฟ้องต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 ที่ให้ถอนฟ้องได้ก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เว้นแต่คดีความผิดต่อส่วนตัวจะถอนฟ้องหรือยอมความในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้ ในกรณีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 มิใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วจึงถอนฟ้องไม่ได้
of 43