พบผลลัพธ์ทั้งหมด 188 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 746/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไฟฟ้านครหลวงฟ้องเรียกค่ากระแสไฟฟ้าที่คำนวณผิดพลาด อายุความ 10 ปี ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
การไฟฟ้านครหลวงโจทก์มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ มีวัตถุประสงค์ในการจ่ายกระแสไฟฟ้าแก่ประชาชนเป็นสาธารณูปโภคและได้รับทุนในการดำเนินการจากงบประมาณแผ่นดิน จึงมิใช่พ่อค้าตามมาตรา 165(1)แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การฟ้องเรียกค่ากระแสไฟฟ้าที่พนักงานของโจทก์จดหน่วยไฟฟ้าจากเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าโดยไม่ได้คูณด้วย 10 ตามลักษณะของเครื่องวัดไฟฟ้าที่โจทก์ติดตั้ง ทำให้จำเลยชำระค่าไฟฟ้าให้โจทก์ขาดไปนั้น เมื่อมิได้มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่น ต้องถือว่ามีอายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 โจทก์คำนวณหน่วยกระแสไฟฟ้าที่จำเลยใช้ผิดไปเพราะไม่ได้นำตัวเลขในเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้ามาคูณด้วย 10 ตามลักษณะของเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าที่โจทก์ติดตั้งให้จำเลย จำเลยได้รับประโยชน์ในการใช้กระแสไฟฟ้าที่โจทก์คำนวณผิด ไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ออกใบเสร็จรับเงินให้จำเลยโดยไม่อิดเอื้อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 327 จำเลยจึงต้องรับผิดใช้เงินค่ากระแสไฟฟ้าที่โจทก์คำนวณขาดไปและจะถือว่าโจทก์ฟ้องจำเลยโดยใช้สิทธิไม่สุจริตหาได้ไม่ คดีสำนวนแรกโจทก์ฟ้องเรียกค่ากระแสไฟฟ้าที่โจทก์คิดขาดไประหว่างเดือนธันวาคม 2505 จนถึงเดือนมกราคม 2525 สำนวนหลังโจทก์ฟ้องเรียกค่ากระแสไฟฟ้าที่โจทก์คิดขาดไปในระหว่างวันที่13 กุมภาพันธ์ 2525 ถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2525 ซึ่งเป็นคนละช่วงเวลากัน ฟ้องโจทก์ทั้งสองคดีจึงไม่ใช่ฟ้องเรื่องเดียวกันและโดยอาศัยเหตุเดียวกัน จึงไม่เป็นฟ้องซ้อนหรือฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 132/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้บางส่วนและการสะดุดหยุดอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 172
จำเลยได้ชำระหนี้ค่าสินค้าให้โจทก์งวดแรกเป็นการชำระหนี้ให้โจทก์บางส่วน อันถือได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 172 ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลง จึงต้องเริ่มนับอายุความใหม่ ดังนี้ เมื่อโจทก์ฟ้องคดียังไม่เกิน 2 ปี คดีจึงไม่ขาดอายุความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสิทธิเรียกร้องค่าบริการโทรศัพท์: ผู้ให้บริการสาธารณะเป็นผู้ค้าตาม ป.พ.พ. มาตรา 165(7)
โจทก์เป็นนิติบุคคลจัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 เพื่อให้บริการพูดโทรศัพท์ระหว่างประเทศแก่ประชาชน เมื่อผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์พูดโทรศัพท์จากประเทศไทยไปยังต่างประเทศโดยผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์ ผู้ใช้บริการพูดโทรศัพท์จะต้องเสียค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์ตาม อัตราที่โจทก์กำหนดไว้ ค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์จึงเป็นสินจ้างถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ค้าโดยรับทำการงาน เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7)ซึ่งมีอายุความ 2 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3212/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องหนี้เงินกู้และดอกเบี้ย: ลูกหนี้ร่วม, สัญญาเพิ่มเติม, และผลของการทำสัญญารับใช้หนี้
การเรียกเอาดอกเบี้ยค้างส่งมีกำหนดอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5ทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์และรับเงินครบถ้วนเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม2518 โดยยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ครั้นวันที่ 1 ธันวาคม 2526จำเลยที่ 4 ที่ 5 ทำสัญญารับใช้หนี้เงินกู้โดยยอมชำระดอกเบี้ยค้างส่งทั้งหมด การที่โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2527 คดีโจทก์สำหรับจำเลยที่ 4 ที่ 5 เกี่ยวกับหนี้ดอกเบี้ยค้างส่งจึงไม่ขาดอายุความ ส่วนจำเลยที่ 1 มิได้ทำสัญญารับใช้หนี้เงินกู้ดังกล่าวด้วย จึงไม่ต้องผูกพันโดยสัญญาดังกล่าว โจทก์มีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยค้างส่งจากจำเลยที่ 1 ได้เพียงภายใน 5 ปีนับแต่วันฟ้องย้อนหลังลงไป อายุความฟ้องร้องเรียกคืนเงินกู้ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น จึงกำหนด 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3135/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ: ผู้ให้บริการเป็นผู้ค้าตาม ป.พ.พ. มาตรา 165(7) อายุความ 2 ปี
โจทก์วางระเบียบให้ประชาชนผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์ของโจทก์สามารถใช้บริการพูดวิทยุโทรศัพท์ระหว่างประเทศโดยเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้บริการตามอัตราที่กำหนดทุกครั้ง เป็นการให้บริการประจำเป็นปกติธุระ ค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการในการพูดโทรศัพท์ระหว่างประเทศจึงเป็นสินจ้างที่โจทก์เรียกเก็บจากจำเลยผู้ใช้บริการแม้โจทก์จะเป็นรัฐวิสาหกิจตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติการสื่อสารพ.ศ. 2519 ก็ตาม ก็ถือว่าโจทก์เป็นผู้ค้าในการรับทำการงานต่าง ๆเรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7) จึงมีอายุความสองปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3121/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีเช่าทรัพย์สิน: พิจารณาประเภทผู้ให้เช่าและการส่งคืนทรัพย์สิน
โจทก์เป็นบริษัทจำกัด มีวัตถุประสงค์ในการให้เช่าโครงนั่งร้านและวัสดุที่ประกอบเป็นโครงนั่งร้าน จึงเป็นบุคคลจำพวกที่ค้าในการให้เช่าทรัพย์สิน การฟ้องเกี่ยวกับค่าเช่าทรัพย์สินดังกล่าวจึงมีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(6)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2163/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญาซื้อขาย และการเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลส่งผลให้ศาลไม่รับวินิจฉัยฟ้องแย้ง
ในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้จำเลยเสียค่าขึ้นศาลในส่วนที่ขอให้บังคับตามฟ้องแย้ง จำเลยเพิกเฉย ศาลอุทธรณ์จึงให้จำหน่ายฟ้องแย้งของจำเลยเสีย ฎีกาของจำเลยในประเด็นที่ว่า จำเลยมีสิทธิเรียกเงินค่าประกันพร้อมดอกเบี้ยคืนจากโจทก์ และโจทก์ต้องคืนอุปกรณ์การเจาะหรือชดใช้ราคาตามท้องตลาดปัจจุบันให้แก่จำเลยตามฟ้องแย้งของจำเลยหรือไม่ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับค่าเสียหายว่า เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว โจทก์ได้จัดซื้ออุปกรณ์การเจาะอย่างเดียวกับที่เคยทำสัญญาซื้อขายกับจำเลยใหม่ โดยซื้อจากบริษัท ท. ในราคา 392,975 บาท ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 10 เป็นเหตุให้โจทก์ต้องใช้ราคาสูงเพิ่มขึ้นจากสัญญาซื้อขายที่ทำกับจำเลยเป็นเงิน 208,785 บาท เป็นการแสดงถึงความเสียหายของโจทก์จากการที่จำเลยผิดสัญญาไว้อย่างชัดแจ้ง ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ต้องซื้อสินค้าซึ่งจำเลยไม่ส่งมอบตามสัญญาแพงขึ้นและเรียกเบี้ยปรับตามสัญญา เป็นกรณีที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะ ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 สิทธิเรียกร้องดังกล่าวจึงมีอายุความ 10 ปี
โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับค่าเสียหายว่า เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว โจทก์ได้จัดซื้ออุปกรณ์การเจาะอย่างเดียวกับที่เคยทำสัญญาซื้อขายกับจำเลยใหม่ โดยซื้อจากบริษัท ท. ในราคา 392,975 บาท ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 10 เป็นเหตุให้โจทก์ต้องใช้ราคาสูงเพิ่มขึ้นจากสัญญาซื้อขายที่ทำกับจำเลยเป็นเงิน 208,785 บาท เป็นการแสดงถึงความเสียหายของโจทก์จากการที่จำเลยผิดสัญญาไว้อย่างชัดแจ้ง ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ต้องซื้อสินค้าซึ่งจำเลยไม่ส่งมอบตามสัญญาแพงขึ้นและเรียกเบี้ยปรับตามสัญญา เป็นกรณีที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะ ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 สิทธิเรียกร้องดังกล่าวจึงมีอายุความ 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2163/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายสัญญาซื้อขายและการชดใช้ค่าอุปกรณ์
ในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้จำเลยเสียค่าขึ้นศาลในส่วนที่ขอให้บังคับตาม ฟ้องแย้ง จำเลยเพิกเฉย ศาลอุทธรณ์จึงให้จำหน่ายฟ้องแย้งของจำเลยเสีย ฎีกาของจำเลยในประเด็นที่ว่า จำเลยมีสิทธิเรียกเงินค่าประกันพร้อมดอกเบี้ย คืนจากโจทก์ และโจทก์ต้อง คืนอุปกรณ์การเจาะหรือชดใช้ราคาตาม ท้องตลาดปัจจุบันให้แก่จำเลยตาม ฟ้องแย้งของจำเลยหรือไม่ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับค่าเสียหายว่า เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว โจทก์ได้ จัดซื้ออุปกรณ์การเจาะอย่างเดียวกับที่เคยทำสัญญาซื้อขายกับจำเลยใหม่ โดยซื้อ จากบริษัท ท. ในราคา392,975 บาท ตาม เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 10 เป็นเหตุให้โจทก์ต้อง ใช้ ราคาสูงเพิ่มขึ้นจากสัญญาซื้อขายที่ทำกับจำเลยเป็นเงิน208,785 บาท เป็นการแสดงถึง ความเสียหายของโจทก์จากการที่จำเลยผิดสัญญาไว้อย่างชัดแจ้ง ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ต้องซื้อ สินค้าซึ่ง จำเลยไม่ส่งมอบตาม สัญญาแพงขึ้นและเรียกเบี้ยปรับตาม สัญญา เป็นกรณีที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะ ต้อง บังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 สิทธิเรียกร้องดังกล่าวจึงมีอายุความ 10 ปี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้และการสะดุดหยุดอายุความจากการชำระหนี้บางส่วน โดยเช็ค
จำเลยร่วมกันสั่งซื้อและเป็นหนี้ค่าน้ำมันโจทก์ การที่จำเลยคนหนึ่งนำเช็คที่จำเลยอื่นสั่งจ่ายผ่อนชำระหนี้แทนจำเลยอื่นด้วยชำระให้โจทก์นั้น ถือได้ว่าเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงเป็นการรับสภาพหนี้ เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ย่อมมีผลผูกพันจำเลยอื่นด้วย เมื่ออายุความสะดุดหยุดลงแล้ว จึงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2525 ซึ่งเป็นวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องตามเช็คเป็นต้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 181 วรรคสอง ดังนั้นอายุความสองปี ครบในวันที่ 13พฤศจิกายน 2526 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2526คดีจึงไม่ขาดอายุความ กรณีที่จำเลยยกอายุความขึ้นต่อสู้ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่าจำเลยรับสภาพหนี้เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง และคดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความ หาเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้และการสะดุดหยุดอายุความจากเช็คชำระหนี้
จำเลยร่วมกันสั่งซื้อและเป็นหนี้ค่าน้ำมันโจทก์ การที่จำเลยคนหนึ่งนำเช็คที่จำเลยอื่นสั่งจ่ายผ่อนชำระหนี้แทนจำเลยอื่นด้วยชำระให้โจทก์นั้น ถือได้ว่าเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงเป็นการรับสภาพหนี้ เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ย่อมมีผลผูกพันจำเลยอื่นด้วย เมื่ออายุความสะดุดหยุดลงแล้ว จึงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2524 ซึ่งเป็นวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องตามเช็คเป็นต้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 181 วรรคสอง ดังนั้นอายุความสองปี ครบในวันที่ 13พฤศจิกายน 2526 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2526คดีจึงไม่ขาดอายุความ กรณีที่จำเลยยกอายุความขึ้นต่อสู้ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่าจำเลยรับสภาพหนี้เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง และคดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความ หาเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นไม่