พบผลลัพธ์ทั้งหมด 188 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แม้กรรมการลงนามไม่ครบตามข้อบังคับ แต่สัญญากู้ยืมและเช่าซื้อก็ผูกพันจำเลย หากจำเลยแสดงออกว่ายอมรับและได้รับประโยชน์จากสัญญา
จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลทำหนังสือกู้เงินและเช่าซื้ออุปกรณ์ทำนาจากโจทก์ โดยกรรมการลงชื่อไม่ครบตามข้อบังคับ แต่จำเลยที่ 1 ยอมรับว่ากรรมการเหล่านั้นทำแทนและยอมรับประโยชน์จากสัญญากู้และเช่าซื้อสัญญาจึงผูกพันจำเลยที่ 1 และไม่ใช่กรณีซื้อเชื่อ นำอายุความซื้อขายมาบังคับไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2119/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาค้ำประกันการขายลดตั๋วเงิน: ฟ้องในฐานะผู้ค้ำฯ ไม่ใช่ผู้รับผิดตามตั๋วเงินโดยตรง
เมื่อโจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในมูลหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วเงินที่จำเลยที่ 1 ทำไว้ต่อโจทก์ และให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ค้ำประกันการขายลดตั๋วเงินดังกล่าว หาได้ฟ้องจำเลยให้รับผิดในมูลหนี้ตามตั๋วแลกเงินไม่สัญญาขายลดตั๋วเงินไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ โดยเฉพาะ ดังนั้น จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 คือมีกำหนดอายุความ 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้จากการซื้อขายและการรับสภาพหนี้: การสะดุดหยุดและเริ่มนับอายุความใหม่
โจทก์จำเลยติดต่อซื้อขายเศษยางกัน โดยจำเลยรับเงินล่วงหน้าไปจากโจทก์จำนวนหนึ่ง เมื่อจำเลยนำยางและเศษยางมาขายให้โจทก์ก็คิดราคายางหักจากเงินที่จำเลยรับไปแล้ว ต่อมามีการคิดบัญชีกันแล้วจำเลยได้ทำหนังสือรับว่ายังมีเงินค่าเศษยางที่จำเลยรับไปล่วงหน้าเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่เหลือนั้นคือ ดังนี้ หาใช่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไปตามมาตรา 165 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ จะนำอายุความ 2 ปี มาใช้บังคับไม่ได้ ต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1326/2511)
จำเลยทำหนังสือรับสารภาพหนี้ให้โจทก์ มีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้ที่จำเลยรับสภาพต่อโจทก์ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสิ้นสุดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172, 181 ตามหนังสือรับสภาพหนี้นี้จำเลยรับว่าจะผ่อนชำระหนี้โจทก์ให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2508 ฉะนั้น เหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงจึงสุดสิ้นลงเมื่อครบกำหนด 2 ปี ในวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ 2510 และเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้นซึ่งเป็นวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป
จำเลยทำหนังสือรับสารภาพหนี้ให้โจทก์ มีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้ที่จำเลยรับสภาพต่อโจทก์ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสิ้นสุดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172, 181 ตามหนังสือรับสภาพหนี้นี้จำเลยรับว่าจะผ่อนชำระหนี้โจทก์ให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2508 ฉะนั้น เหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงจึงสุดสิ้นลงเมื่อครบกำหนด 2 ปี ในวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ 2510 และเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้นซึ่งเป็นวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้จากการซื้อขายและการรับสภาพหนี้: การสะดุดหยุดและเริ่มต้นนับอายุความใหม่
โจทก์จำเลยติดต่อซื้อขายเศษยางกัน โดยจำเลยรับเงินล่วงหน้าไปจากโจทก์จำนวนหนึ่งเมื่อจำเลยนำยางและเศษยางมาขายให้โจทก์ก็คิดราคายางหักจากเงินที่จำเลยรับไปแล้ว ต่อมามีการคิดบัญชีกันแล้วจำเลยได้ทำหนังสือรับว่ายังมีเงินค่าเศษยางที่จำเลยรับไปล่วงหน้าเหลืออยู่จำนวนหนึ่งโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่เหลือนั้นคืน ดังนี้ หาใช่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไปตามมาตรา 165(1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ จะนำอายุความ 2 ปี มาใช้บังคับไม่ได้ ต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1326/2511)
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้โจทก์ มีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้ที่จำเลยรับสภาพต่อโจทก์ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสิ้นสุดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172,181 ตามหนังสือรับสภาพหนี้นี้จำเลยรับว่าจะผ่อนชำระหนี้โจทก์ให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2508 ฉะนั้น เหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงจึงสุดสิ้นลงเมื่อครบกำหนด 2 ปี ในวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ 2510 และเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้นซึ่งเป็นวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้โจทก์ มีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้ที่จำเลยรับสภาพต่อโจทก์ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสิ้นสุดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172,181 ตามหนังสือรับสภาพหนี้นี้จำเลยรับว่าจะผ่อนชำระหนี้โจทก์ให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2508 ฉะนั้น เหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงจึงสุดสิ้นลงเมื่อครบกำหนด 2 ปี ในวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ 2510 และเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้นซึ่งเป็นวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อมีอายุความ 2 ปี ตามมาตรา 165(6) แม้ในสัญญาจะระบุเป็นสัญญาเช่าซื้อ
สัญญาเช่าซื้อคือสัญญาเช่าทรัพย์ประกอบกับคำมั่นว่าจะขาย ค่าเช่าซื้อก็คือค่าเช่าในการใช้ทรัพย์สินที่โจทก์นำออกให้เช่า แม้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 5 ว่าด้วยเช่าซื้อจะมิได้บัญญัติในเรื่องอายุความไว้โดยตรงก็ตาม โจทก์ก็จะต้องฟ้องเสียภายในกำหนดอายุความ 2 ปี ตามนัยแห่งประมวกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(6) (อ้างฎีกาที่ 798/2508 และ 192/2512)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อมีอายุความ 2 ปี หากฟ้องเกินกำหนดขาดอายุความ แม้กฎหมายเช่าซื้อไม่ได้บัญญัติอายุความโดยตรง
สัญญาเช่าซื้อคือสัญญาเช่าทรัพย์ประกอบกับคำมั่นว่าจะขายค่าเช่าซื้อก็คือค่าเช่าในการใช้ทรัพย์สินที่โจทก์นำออกให้เช่าแม้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 5 ว่าด้วยเช่าซื้อจะมิได้บัญญัติในเรื่องอายุความไว้โดยตรงก็ตามโจทก์ก็จะต้องฟ้องเสียภายในกำหนดอายุความ 2 ปี ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(6)(อ้างฎีกาที่ 798/2508 และ 192/2512)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้และการสะดุดหยุดอายุความจากการชำระหนี้เป็นงวดๆ
จำเลยซื้อเชื่อสินค้าของโจทก์ตามใบสั่งของรวม 7 คราว แล้วจึงได้ผ่อนชำระหนี้ให้เป็นครั้งแรก ต่อมาเมื่อซื้อเชื่อครั้งที่ 8 อันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจึงผ่อนชำระให้อีก 2 ครั้ง เงินที่ชำระแต่ละครั้งมีจำนวนไม่เท่ากับราคาของสินค้าที่ปรากฏในใบสั่งของแม้แต่ฉบับเดียว และโจทก์ไม่เคยกำหนดจำนวนเงินที่ชำระมาแล้วให้พอประมาณกับราคาสินค้าในใบส่งของแล้วเลือกคืนใบส่งของแก่จำเลยไปด้วย ตามพฤติการณ์ดังกล่าวรับฟังได้ว่า โจทก์และจำเลยได้ตกลงกันให้รวมยอดหนี้สินตามใบสั่งของทั้งหมดเป็นหนี้ก่อนเดียวกันแล้วการที่จำเลยชำระหนี้ค่าสินค้าให้แก่โจทก์รวม 3 ครั้งนั้น เป็นการรับสภาพหนี้โดยใช้เงินให้บางส่วนในหนี้สินรายพิพาทที่ตกลงรวมกันเป็นหนี้ก้อนเดียวแล้ว มีผลให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 อันจะต้องเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่นับแต่เวลานั้น (วันที่ชำระครั้งสุดท้าย) สืบไปตามมาตรา 181 คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความและกรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 328 วรรค 2
ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงซึ่งเป็นสารสำคัญในประเด็นที่จะชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายซึ่งคู่ความฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยไปเสียเลยทีเดียวโดยไม่ย้อนสำนวนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 240 (3) ประกอบด้วยมาตรา 247
ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงซึ่งเป็นสารสำคัญในประเด็นที่จะชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายซึ่งคู่ความฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยไปเสียเลยทีเดียวโดยไม่ย้อนสำนวนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 240 (3) ประกอบด้วยมาตรา 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมหนี้และการรับสภาพหนี้ส่งผลต่ออายุความคดีแพ่ง
จำเลยซื้อเชื่อสินค้าของโจทก์ตามใบสั่งของรวม 7 คราว แล้วจึงได้ผ่อนชำระหนี้ให้เป็นครั้งแรก ต่อมาเมื่อซื้อเชื่อครั้งที่ 8 อันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจึงผ่อนชำระให้อีก 2 ครั้ง เงินที่ชำระแต่ละครั้งมีจำนวนไม่เท่ากับราคาของสินค้าที่ปรากฏในใบสั่งของแม้แต่ฉบับเดียว และโจทก์ไม่เคยกำหนดจำนวนเงินที่ชำระมาแล้วให้พอประมาณกับราคาสินค้าในใบส่งของแล้วเลือกคืนใบส่งของแก่จำเลยไปด้วย ตามพฤติการณ์ดังกล่าวรับฟังได้ว่า โจทก์และจำเลยได้ตกลงกันให้รวมยอดหนี้สินตามใบสั่งของทั้งหมดเป็นหนี้ก้อนเดียวกันแล้ว การที่จำเลยชำระหนี้ค่าสินค้าให้แก่โจทก์รวม 3 ครั้งนั้น เป็นการรับสภาพหนี้โดยใช้เงินให้บางส่วนในหนี้สินรายพิพาทที่ตกลงรวมกันเป็นหนี้ก้อนเดียวแล้ว มีผลให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 อันจะต้องเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่นับแต่เวลานั้น (วันที่ชำระครั้งสุดท้าย) สืบไปตามมาตรา 181 คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความและกรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 328 วรรคสอง
ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงซึ่งเป็นสารสำคัญในประเด็นที่จะชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายซึ่งคู่ความฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยไปเสียเลยทีเดียวโดยไม่ย้อนสำนวนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 240(3) ประกอบด้วยมาตรา 247
ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงซึ่งเป็นสารสำคัญในประเด็นที่จะชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายซึ่งคู่ความฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยไปเสียเลยทีเดียวโดยไม่ย้อนสำนวนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 240(3) ประกอบด้วยมาตรา 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้อง, ฟ้องเคลือบคลุม, อายุความสลากกินแบ่ง: สัญญาซื้อสลากกับจังหวัด, การส่งมอบเพื่อขายต่อ, และข้อยกเว้นอายุความ 5 ปี
จำเลยทำสัญญาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งกระทำในนามของจังหวัด ถือได้ว่าจำเลยได้ทำสัญญากับจังหวัด ดังนั้น จังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีอำนาจฟ้องจำเลย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยขาดส่งเงินค่าสลากกินแบ่งรวม 14 งวด แต่บรรยายงวดที่ขาดส่งเพียง 10 งวด ส่วนอีก 4 งวด บรรยายว่าจำเลยนำเงินหลายๆ งวดรวมส่งเข้าบัญชีในคราวเดียวกัน โดยมิได้แยกว่าเป็นเงินงวดใดบ้างนั้น จำเลยพอเข้าใจข้อความแห่งข้อหาแล้ว ไม่เป็นห้องที่เคลือบคลุม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (5) ที่กำหนดให้มีอายุความ 2 ปีนั้น ได้บัญญัติเฉพาะบุคคลจำพวกที่ขายตั๋วสลากกินแบ่งเรียกเอาเงินค่าที่ได้ขายตั๋ว แต่ถ้าเป็นการที่ได้ส่งมอบตั๋วเพียงสำหรับให้ขายต่อไปแล้วก็เข้าข้อยกเว้น ไม่อยู่ในบังคับอายุความ 2 ปี แต่มีอายุความ 5 ปีตามวรรคสุดท้าย โจทก์ส่งมอบสลากกินแบ่งให้จำเลยไปขายอีกต่อหนึ่ง กรณีจึงเข้าข้อยกเว้นดังกล่าว เมื่อนับเงินค้างงวดแรกถึงวันฟ้องยังไม่ถึง 5 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยขาดส่งเงินค่าสลากกินแบ่งรวม 14 งวด แต่บรรยายงวดที่ขาดส่งเพียง 10 งวด ส่วนอีก 4 งวด บรรยายว่าจำเลยนำเงินหลายๆ งวดรวมส่งเข้าบัญชีในคราวเดียวกัน โดยมิได้แยกว่าเป็นเงินงวดใดบ้างนั้น จำเลยพอเข้าใจข้อความแห่งข้อหาแล้ว ไม่เป็นห้องที่เคลือบคลุม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (5) ที่กำหนดให้มีอายุความ 2 ปีนั้น ได้บัญญัติเฉพาะบุคคลจำพวกที่ขายตั๋วสลากกินแบ่งเรียกเอาเงินค่าที่ได้ขายตั๋ว แต่ถ้าเป็นการที่ได้ส่งมอบตั๋วเพียงสำหรับให้ขายต่อไปแล้วก็เข้าข้อยกเว้น ไม่อยู่ในบังคับอายุความ 2 ปี แต่มีอายุความ 5 ปีตามวรรคสุดท้าย โจทก์ส่งมอบสลากกินแบ่งให้จำเลยไปขายอีกต่อหนึ่ง กรณีจึงเข้าข้อยกเว้นดังกล่าว เมื่อนับเงินค้างงวดแรกถึงวันฟ้องยังไม่ถึง 5 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้อง, ฟ้องไม่เคลือบคลุม, อายุความสัญญาสลากกินแบ่ง: การส่งมอบสลากเพื่อขายต่อและข้อยกเว้นอายุความ
จำเลยทำสัญญาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งกระทำในนามของจังหวัด ถือได้ว่าจำเลยได้ทำสัญญากับจังหวัด ดังนั้น จังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีอำนาจฟ้องจำเลย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยขาดส่งเงินค่าสลากกินแบ่งรวม 14 งวด แต่บรรยายงวดที่ขาดส่งเพียง 10 งวด ส่วนอีก 4 งวด บรรยายว่าจำเลยนำเงินหลายๆ งวดรวมส่งเข้าบัญชีในคราวเดียวกัน โดยมิได้แยกว่าเป็นเงินงวดใดบ้างนั้นจำเลยพอเข้าใจข้อความแห่งข้อหาแล้ว ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(5) ที่กำหนดให้มีอายุความ 2 ปี นั้น ได้บัญญัติเฉพาะบุคคลจำพวกที่ขายตั๋วสลากกินแบ่งเรียกเอาเงินค่าที่ได้ขายตั๋วแต่ถ้าเป็นการที่ได้ส่งมอบตั๋วเพียงสำหรับให้ขายต่อไปแล้วก็เข้าข้อยกเว้น ไม่อยู่ในบังคับอายุความ 2 ปี แต่มีอายุความ5 ปี ตามวรรคสุดท้าย โจทก์ส่งมอบสลากกินแบ่งให้จำเลยไปขายอีกต่อหนึ่ง กรณีจึงเข้าข้อยกเว้นดังกล่าว เมื่อนับเงินค้างงวดแรกถึงวันฟ้องยังไม่ถึง 5 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยขาดส่งเงินค่าสลากกินแบ่งรวม 14 งวด แต่บรรยายงวดที่ขาดส่งเพียง 10 งวด ส่วนอีก 4 งวด บรรยายว่าจำเลยนำเงินหลายๆ งวดรวมส่งเข้าบัญชีในคราวเดียวกัน โดยมิได้แยกว่าเป็นเงินงวดใดบ้างนั้นจำเลยพอเข้าใจข้อความแห่งข้อหาแล้ว ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(5) ที่กำหนดให้มีอายุความ 2 ปี นั้น ได้บัญญัติเฉพาะบุคคลจำพวกที่ขายตั๋วสลากกินแบ่งเรียกเอาเงินค่าที่ได้ขายตั๋วแต่ถ้าเป็นการที่ได้ส่งมอบตั๋วเพียงสำหรับให้ขายต่อไปแล้วก็เข้าข้อยกเว้น ไม่อยู่ในบังคับอายุความ 2 ปี แต่มีอายุความ5 ปี ตามวรรคสุดท้าย โจทก์ส่งมอบสลากกินแบ่งให้จำเลยไปขายอีกต่อหนึ่ง กรณีจึงเข้าข้อยกเว้นดังกล่าว เมื่อนับเงินค้างงวดแรกถึงวันฟ้องยังไม่ถึง 5 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ