คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 357

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 400 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6668/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดฐานใช้เอกสารปลอม-รับของโจร ศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษให้เบาลง
จำเลยทั้งสามได้นำรถยนต์ของกลางออกใช้ขับไปในที่ต่าง ๆโดยมีแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมและแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ปลอมติดอยู่ที่รถยนต์คันเดียวกัน โดยมีเจตนาแสดงเอกสารดังกล่าวต่อผู้อื่นหรือเจ้าพนักงานตำรวจในเวลาเดียวกัน จนกระทั่งถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับ พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสามดังกล่าวย่อมเห็นได้ว่าจำเลยทั้งสามมีเจตนาอย่างเดียวคือเพื่อให้ผู้อื่นหรือเจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่า รถยนต์คันที่จำเลยทั้งสามใช้ขับเป็นรถยนต์ถูกต้องตามกฎหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงมีความผิดกรรมเดียว
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามในความผิดฐานรับของโจร จำคุกคนละ 4 ปี และลงโทษจำเลยทั้งสามในข้อหาใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมกับใช้แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ปลอม โดยจำคุกกระทงละคนละ 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะในความผิดฐานใช้เอกสารปลอมที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าเป็นความผิดสองกรรมว่าเป็นความผิดกรรมเดียวโดยพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามในข้อหานี้ จำคุกคนละ 3 ปี โดยมิได้เปลี่ยนบทและโทษที่ได้รับก็ต่ำกว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนด ซึ่งเป็นผลดีแก่จำเลยทั้งสาม ถือได้ว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อยและยังคงลงโทษจำเลยทั้งสามในแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปีจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6668/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานใช้เอกสารปลอมและการรับของโจร ศาลพิจารณาเป็นกรรมเดียวและจำกัดโทษตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสามได้นำรถยนต์ของกลางออกใช้ขับไปในที่ต่าง ๆโดยมีแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมและแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ปลอมติดอยู่ที่รถยนต์คันเดียวกัน โดยมีเจตนาแสดงเอกสารดังกล่าวต่อผู้อื่นหรือเจ้าพนักงานตำรวจในเวลาเดียวกันจนกระทั้งถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับ พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสามดังกล่าวย่อมเห็นได้ว่าจำเลยทั้งสามมีเจตนาอย่างเดียวคือเพื่อให้ผู้อื่นหรือเจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่า รถยนต์คันที่จำเลยทั้งสามใช้ขับเป็นรถยนต์ถูกต้องตามกฎหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้นการกระทำของจำเลยทั้งสามจึงมีความผิดกรรมเดียว ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามในความผิดฐานรับของโจรจำคุกคนละ 4 ปี และลงโทษจำเลยทั้งสามในข้อหาใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมกับใช้แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ปลอม โดยจำคุกกระทงละคนละ 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะในความผิดฐานใช้เอกสารปลอมที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าเป็นความผิดสองกรรมว่าเป็นความผิดกรรมเดียวโดยพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามในข้อหานี้ จำคุกคนละ 3 ปี โดยมิได้เปลี่ยนบทและโทษที่ได้รับก็ต่ำกว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนด ซึ่งเป็นผลดีแก่จำเลยทั้งสาม ถือได้ว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อยและยังคงลงโทษจำเลยทั้งสามในแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3209/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์ของกลางต้องพิสูจน์ความเชื่อมโยงกับความผิดฐานลักทรัพย์ก่อน จึงจะรับฟังได้ว่าจำเลยมีความผิดฐานรับของโจร
เมื่อคดียังฟังไม่ได้ว่าเงินของกลางเป็นทรัพย์ของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป ก็ไม่อาจรับฟังได้ว่าเงินของกลางดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ อันจะทำให้จำเลยมีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3200/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับซื้อทรัพย์สินที่ได้มาจากการลักทรัพย์ โดยรู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย ถือเป็นความผิดฐานรับของโจร
จำเลยได้รับซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางไว้ซึ่งเป็นรถที่มีทะเบียนแต่จำเลยก็ยังรับซื้อมาในราคาเพียง3,000บาทซึ่งเป็นราคาถูกผิดปกติอย่างมากโดยมิได้สนใจเรื่องการโอนทะเบียนรถพฤติการณ์มีเหตุบ่งชี้ชัดแจ้งว่าจำเลยรับซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์จำเลยจึงมีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3200/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร: รู้หรือควรจะรู้ว่าทรัพย์นั้นได้มาจากการกระทำความผิด
จำเลยได้รับซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางไว้ ซึ่งเป็นรถที่มีทะเบียน แต่จำเลยก็ยังรับซื้อมาในราคาเพียง 3,000 บาท ซึ่งเป็นราคาถูกผิดปกติอย่างมากโดยมิได้สนใจเรื่องการโอนทะเบียนรถ พฤติการณ์มีเหตุบ่งชี้ชัดแจ้งว่าจำเลยรับซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ จำเลยจึงมีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2518/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความประสงค์เรียกค่าไถ่รถยนต์ที่ถูกลักยืม ไม่เข้าข่ายความผิดฐานรับของโจร
พี่ชายจำเลยที่1ลักรถยนต์ไปจากการครอบครองของผู้เสียหายที่2ผู้เสียหายที่2ได้บอกให้จำเลยที่1ช่วยติดตามรถยนต์คืนจำเลยทั้งสองได้พบพ. และพ.ต้องการเงิน30,000บาทเป็นค่าไถ่รถยนต์คืนจำเลยทั้งสองจึงได้บอกให้ผู้เสียหายที่2ทราบและให้โอนเงินไปให้จำเลยที่1ที่ธนาคารจำเลยทั้งสองไปรับเงินที่ธนาคารและถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองมีส่วนจะได้รับประโยชน์จากเงินค่าไถ่รถยนต์เพียงแต่จำเลยทั้งสองแจ้งความประสงค์ของพ. ให้ผู้เสียหายที่2ทราบการจะตัดสินใจอย่างไรเป็นเรื่องของผู้เสียหายที่2จำเลยทั้งสองได้จัดการสืบหารถยนต์ตามความประสงค์ของผู้เสียหายที่2และเมื่อผู้ที่ลักรถยนต์ไปต้องการค่าไถ่จำเลยทั้งสองได้แจ้งให้ผู้เสียหายที่2ทราบและได้มีการโอนเงินเพื่อเสียค่าใช้จ่ายผ่านจำเลยที่1โดยจำเลยทั้งสองมิได้รับประโยชน์ด้วยจำเลยทั้งสองย่อมไม่มีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2518/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความประสงค์ของผู้อื่นเพื่อไถ่รถยนต์ที่ถูกลักไป ไม่ถือเป็นความผิดฐานรับของโจร
พี่ชายจำเลยที่1ลักรถยนต์ไปจากการครอบครองของผู้เสียหายที่2ผู้เสียหายที่2ได้บอกให้จำเลยที่1ช่วยติดตามรถยนต์คืนจำเลยทั้งสองได้พบพ. และพ.ต้องการเงิน30,000บาทเป็นค่าไถ่รถยนต์คืนจำเลยทั้งสองจึงได้บอกให้ผู้เสียหายที่2ทราบและให้โอนเงินไปให้จำเลยที่1ที่ธนาคารจำเลยทั้งสองไปรับเงินที่ธนาคารและถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองมีส่วนจะได้รับประโยชน์จากเงินค่าไถ่รถยนต์เพียงแต่จำเลยทั้งสองแจ้งความประสงค์ของพ. ให้ผู้เสียหายที่2ทราบการจะตัดสินใจอย่างไรเป็นเรื่องของผู้เสียหายที่2จำเลยทั้งสองได้จัดการสืบหารถยนต์ตามความประสงค์ของผู้เสียหายที่2และเมื่อผู้ที่ลักรถยนต์ไปต้องการค่าไถ่จำเลยทั้งสองได้แจ้งให้ผู้เสียหายที่2ทราบและได้มีการโอนเงินเพื่อเสียค่าใช้จ่ายผ่านจำเลยที่1โดยจำเลยทั้งสองมิได้รับประโยชน์ด้วยจำเลยทั้งสองย่อมไม่มีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2518/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยแจ้งความประสงค์เรียกค่าไถ่รถยนต์ที่ถูกลักยืม ไม่ได้มีส่วนได้ประโยชน์ จึงไม่มีความผิดฐานรับของโจร
พี่ชายจำเลยที่ 1 ลักรถยนต์ไปจากการครอบครองของผู้เสียหายที่ 2 ผู้เสียหายที่ 2 ได้บอกให้จำเลยที่ 1ช่วยติดตามรถยนต์คืนจำเลยทั้งสองได้พบ พ.และพ.ต้องการเงิน 30,000 บาท เป็นค่าไถ่รถยนต์คืนจำเลยทั้งสองจึงได้บอกให้ผู้เสียหายที่ 2 ทราบและให้โอนเงินไปให้จำเลยที่ 1ที่ธนาคาร จำเลยทั้งสองไปรับเงินที่ธนาคารและถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับ ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองมีส่วนจะได้รับประโยชน์จากเงินค่าไถ่รถยนต์ เพียงแต่จำเลยทั้งสองแจ้งความประสงค์ของ พ. ให้ผู้เสียหายที่ 2 ทราบ การจะตัดสินใจอย่างไรเป็นเรื่องของผู้เสียหายที่ 2 จำเลยทั้งสองได้จัดการสืบหารถยนต์ตามความประสงค์ของผู้เสียหายที่ 2และเมื่อผู้ที่ลักรถยนต์ไปต้องการค่าไถ่ จำเลยทั้งสองได้แจ้งให้ผู้เสียหายที่ 2 ทราบ และได้มีการโอนเงินเพื่อเสียค่าใช้จ่ายผ่านจำเลยที่ 1 โดยจำเลยทั้งสองมิได้รับประโยชน์ด้วย จำเลยทั้งสองย่อมไม่มีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ต้องมีการสืบพยานให้ชัดเจนถึงฐานความผิดที่จำเลยกระทำ
ฟ้องขอให้ลงโทษ ลักทรัพย์หรือ รับของโจร แสดงว่า โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยข้อหาใดข้อหาหนึ่งเพียงข้อหาเดียวเพราะเป็นความผิดคนละฐานกันจำเลยให้การ รับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการไม่ชัดเจนพอที่จะชี้ขาดว่าจำเลยกระทำผิดฐานใดแม้จะเป็น แบบพิมพ์ คำให้การที่โรเนียวล่วงหน้าไว้ก็ตามก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้อง สืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งของจำเลยมิฉะนั้นลงโทษไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพที่ไม่ชัดเจน จำเลยต้องพิสูจน์ความผิดฐานใดฐานหนึ่ง จึงจะลงโทษได้
ฟ้องขอให้ลงโทษ ลักทรัพย์หรือ รับของโจร แสดงว่า โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยข้อหาใดข้อหาหนึ่งเพียงข้อหาเดียวเพราะเป็นความผิดคนละฐานกันจำเลยให้การ รับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการไม่ชัดเจนพอที่จะชี้ขาดว่าจำเลยกระทำผิดฐานใดแม้จะเป็น แบบพิมพ์ คำให้การที่โรเนียวล่วงหน้าไว้ก็ตามก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้อง สืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งของจำเลยมิฉะนั้นลงโทษไม่ได้
of 40