คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 357

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 400 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร: การซื้อรถยนต์ที่ได้จากการปล้นในราคาต่ำกว่าตลาด ชี้ความไม่สุจริต
การที่จำเลยที่ 4 อ้างว่าเช่าซื้อรถยนต์ต่อจากผู้เช่าซื้อเดิม โดยชำระเงินดาวน์ ให้ จ. ทันที เป็นเงินถึง 20,000 บาททั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนเช่าซื้อและใครเป็นเจ้าของที่แท้จริงทั้งยังไม่ทราบว่าคู่สัญญาเดิม จะยอมให้จำเลยที่ 4 เข้าเป็นผู้เช่าซื้อแทนหรือไม่ เป็นการผิดปกติวิสัยที่คนทั่วไปจะทำกัน ไม่มีเหตุผลให้รับฟังได้ นอกจากนั้นในชั้นสอบสวน จำเลยที่ 4 ก็ให้การว่าเป็นการซื้อขายไม่ใช่เช่าซื้อ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 4ซื้อรถยนต์ของผู้เสียหายจากจำเลยที่ 1 ในราคาเพียง 20,000 บาท จำเลยที่ 4 รู้อยู่แล้วว่ารถยนต์คันที่ถูกปล้นราคาที่แท้จริงเป็นจำนวนเท่าใด และรับซื้อไว้ในราคาที่ถูกกว่ากันมาก เป็นการชี้ให้เห็นว่าไม่น่าจะซื้อไว้โดยสุจริต.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5621/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร: โจทก์ต้องพิสูจน์จำเลยรู้ว่าเป็นทรัพย์ผิดกฎหมาย การครอบครองทรัพย์เพียงอย่างเดียวไม่ถือเป็นความผิด
คดีเกี่ยวกับรับของโจรนั้น โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้เห็นว่าจำเลยรับทรัพย์ไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์อันได้มาจากการกระทำความผิดมิใช่เพียงแต่คิดหรือเห็นว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองทรัพย์แล้วต้องให้จำเลยนำสืบแก้ตัวว่าไม่รู้ว่าเป็นของร้าย การที่เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยที่ 1 ได้ขณะเอาลูกกุญแจไปไขจะติดเครื่องขับรถจักรยานยนต์ของ ม. ซึ่งมีหน้าปัดวัดความเร็วอันเป็นชิ้นส่วนหนึ่งของรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่ถูกลักไปติดอยู่ เพียงเท่านี้จะฟังว่าจำเลยที่ 1 ครอบครองจักรยานยนต์ของกลางโดยรู้แล้วว่ามีของผิดกฎหมายซึ่งเป็นทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3483/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฐานความผิดจากรับของโจรเป็นลักทรัพย์โดยตรงจากพยานหลักฐานที่ได้จากการพิจารณา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์รับของโจร ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจร จำเลยฎีกาว่า จำเลยมิได้กระทำความผิดฐานรับของโจรศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่กระทำความผิดเข้าองค์ประกอบฐานลักทรัพย์ ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 334 ประกอบด้วยมาตรา 336 ทวิแต่ให้กำหนดโทษคงเดิมได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2328/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนรถยนต์ของกลางแก่เจ้าของ เมื่อไม่รู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกับจำเลยที่ 2ลักทรัพย์หรือรับของโจรเศษเหล็ก เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 ลักเอาเศษเหล็ก และไม่ทราบว่าเศษเหล็กดังกล่าวที่ซื้อไว้จากจำเลยที่ 2 ที่บรรทุกใส่รถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ เมื่อจำเลยที่ 1กับภรรยามายื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลาง จึงเป็นผลให้รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กับภรรยาไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับจำเลยที่ 2 ใช้รถยนต์ของกลางในการกระทำความผิด ต้องคืนรถยนต์ของกลางแก่จำเลยที่ 1กับภรรยา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1928/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร – สุจริต – ไม่รู้ว่าเป็นของชำรุด – ไม่ต้องคืนของ
จำเลยรับซื้อสินค้าไว้โดยไม่มีพฤติการณ์ใดส่อให้เห็นว่าเป็นการรับซื้อไว้โดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่ ร. ฉ้อโกงมาจากโจทก์ร่วม เป็นการซื้อไว้โดยสุจริตย่อมไม่เป็นความผิดฐานรับของโจร การที่จำเลยรับซื้อสินค้าของโจทก์ร่วมไว้จาก ร.พนักงานขายของโจทก์ร่วมถือได้ว่าเป็นการซื้อสินค้าไว้จาก ร.ผู้ขายสินค้าชนิดนั้น เมื่อจำเลยซื้อมาโดยสุจริตและไม่ปรากฎว่าโจทก์ร่วมเสนอชดใช้ราคาให้ จำเลยจึงไม่จำต้องคืนสินค้าของกลางหรือชดใช้ราคาสินค้านั้นให้แก่โจทก์ร่วม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1928/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจรสุจริต - ไม่ต้องคืนทรัพย์สิน - ผู้เสียหายไม่เสนอราคา
พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรและให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่โจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหาย เมื่อศาลฟังว่าจำเลยรับซื้อสินค้าไว้โดยสุจริตไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานฉ้อโกงและพิพากษายกฟ้อง โจทก์ร่วมมิได้เสนอราคาสินค้าให้จำเลย จำเลยจึงไม่ต้องคืนหรือใช้ราคาสินค้านั้นแก่โจทก์ร่วมตาม ป.พ.พ. มาตรา 1332

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1910/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การพิสูจน์ในความผิดฐานรับของโจร โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าจำเลยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิด
ในคดีความผิดฐานรับของโจรนั้น โจทก์มีหน้าที่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยรับทรัพย์ไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์อันได้มาจากการกระทำผิดไม่ใช่ว่าเมื่อจำเลยเป็นผู้ครอบครองทรัพย์นั้น จำเลยก็ต้องนำสืบแก้ตัวว่าตนไม่รู้ว่าเป็นของคนร้าย เมื่อการนำสืบของโจทก์ยังไม่พอฟังว่าจำเลยรับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมา จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานรับของโจร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1910/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร: โจทก์ต้องพิสูจน์ความรู้เป็นสำคัญ
ในคดีความผิดฐานรับของโจรนั้น โจทก์มีหน้าที่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยรับทรัพย์ไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์อันได้มาจากการกระทำผิด ไม่ใช่ว่าเมื่อจำเลยเป็นผู้ครอบครองทรัพย์นั้น จำเลยก็ต้องนำสืบแก้ตัวว่าตนไม่รู้ว่าเป็นของคนร้าย เมื่อการนำสืบของโจทก์ยังไม่พอฟังว่าจำเลยรับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมา จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 975/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองเช็คที่ได้จากการลักทรัพย์และการนำไปเบิกเงินเข้าข่ายความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
จำเลยรับเช็คไว้โดยทราบว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมาอันเป็นความผิดฐานรับของโจร แล้วจำเลยนำเช็คดังกล่าวไปเบิกเงินจากธนาคารจึงเป็นการเอาไปเสียซึ่งเช็คของผู้เสียหายในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 188 อีกบทหนึ่งด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5719/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: พฤติการณ์เร่งรื้อย้ายไม้หลังแจ้งความเป็นเหตุให้เชื่อว่าจำเลยรู้ว่าเป็นของลักมา
ไม้ของกลางของผู้เสียหายได้หายไป ผู้เสียหายพบว่าไม้ที่หายถูกนำไปใช้ทำคอกหมูของจำเลย จึงขอคืนจากจำเลย จำเลยไม่ยอมคืนให้ขณะผู้เสียหายไปแจ้งความจำเลยรีบรื้อคอกหมูและขนย้ายไม้ดังกล่าวของผู้เสียหายไป แสดงว่าจำเลยรับไม้ดังกล่าวไว้จากคนร้ายโดยรู้ว่าเป็นไม้ที่ถูกลักมา การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานรับของโจร.
of 40