คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 357

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 400 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร: การรับเอาทรัพย์ที่ลักมาโดยรู้ว่าเป็นของผู้อื่น และการพิจารณาโทษ
จำเลยหาบข้าวของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไปไปกองไว้ด้วยตนเอง เมื่อปรากฏว่าลักษณะของฟ่อนข้าวของผู้เสียหายกับของจำเลยแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากวัสดุที่ใช้มัดข้าวของผู้เสียหายเป็นไม้ไผ่ของจำเลยเป็นหญ้าแฝก ข้าวก็เป็นคนละพันธุ์ ข้าวของผู้เสียหายที่อยู่ในลานข้าวของจำเลยก็มิได้วางไว้พื้นนาแต่มีกองข้าวของจำเลยปิดทับอยู่ ต้องรื้อกองข้าวของจำเลยออกจึกพบข้าวของผู้เสียหาย พฤติการณ์เหล่านี้แสดงว่าจำเลยรับเอาข้าวของผู้เสียหายไว้ โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ลักมาจำเลยจึงมีความผิดฐานรับของโจร.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1458/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่เข้าข่ายความผิดฐานรับของโจร แม้จะนั่งรถที่ได้มาจากการลักทรัพย์ หากไม่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ
จำเลยที่ 2 นั่งรถยนต์แท็กซี่ซึ่งจำเลยที่ 1 กับ ส.ลักมาเพื่อจะไปเที่ยวด้วยกัน โดยมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถเอง ดังนี้รถแท็กซี่ยังอยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 1 กับ ส.จำเลยที่2 มิได้กระทำการใดอันเป็นการช่วยเหลือจำเลยที่ 1 กับ ส.ในการพารถแท็กซี่ไป พฤติการณ์ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำผิดฐานรับของโจร.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อของโดยไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิด ไม่เป็นความผิดฐานรับของโจร
การซื้อขายวิทยุเทปติดรถยนต์ของกลางได้กระทำกันโดยเปิดเผยและจำเลยรับซื้อของกลางไว้โดยไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์จำเลยจึงไม่มีความผิด เพราะขาดองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดฐานรับของโจร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยซื้อทรัพย์โดยไม่รู้ว่าเป็นของโจร ขาดองค์ประกอบความผิดฐานรับของโจร
การซื้อขายวิทยุเทปติดรถยนต์ของกลางได้กระทำกันโดยเปิดเผยและจำเลยรับซื้อไว้โดยไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ ย่อมขาดองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดฐานรับของโจรจำเลยไม่มีความผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อของโดยไม่รู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย ไม่เป็นความผิดฐานรับของโจร
การซื้อขายวิทยุเทปติดรถยนต์ของกลางได้กระทำกันโดยเปิดเผยและจำเลยรับซื้อของกลางไว้โดยไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์จำเลยจึงไม่มีความผิด เพราะขาดองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจรและการคืนทรัพย์สิน ผู้เสียหายได้ทรัพย์คืนแล้วไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มเติม
จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์ จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานรับของโจรเฉพาะเตารีดไฟฟ้า และจำเลยที่ 4 มีความผิดฐานรับของโจรเฉพาะวิทยุสเตอริโอเท่านั้น เมื่อทรัพย์ทั้งสองสิ่งนี้ผู้เสียหายได้รับคืนไปแล้ว จำเลยที่ 3 และที่ 4 จึงไม่ต้องร่วมกับจำเลยอื่นคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหายอีกแม้จำเลยที่ 3 ไม่ได้ฎีกาปัญหานี้ขึ้นมาศาลฎีกาก็แก้ไขเสียให้ถูกต้องได้เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานรับของโจร: รู้ว่าของได้มาจากการลักทรัพย์ ช่วยขนย้ายหวังผลประโยชน์
จำเลยรู้อยู่แล้วว่า จ. ไปลักเครื่องยนต์ของผู้เสียหายมาจำเลยช่วยพาเครื่องยนต์นั้นไปเพื่อหวังว่าจะได้ส่วนแบ่งจากการขายเครื่องยนต์ดังกล่าวจึงมีความผิดฐานรับของโจร.(ที่มา-เนติ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 855/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดทางแพ่งในคดีรับของโจร: การบังคับคดีชำระหนี้เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับความผิดอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์เงินเหรียญของผู้เสียหายรวมเป็นเงิน 110,000 บาท หรือรับของโจรเงินเหรียญของผู้เสียหาย ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจยึดได้จากจำเลยรวมเป็นเงิน22,300 บาท และขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์เป็นเงิน 87,700 บาทที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหายจำเลยให้การรับสารภาพฐานรับของโจรเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษฐานรับของโจร ความรับผิดทางแพ่งของจำเลยคงมีอยู่เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดทางอาญาฐานรับของโจรเท่านั้น แม้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์เป็นเงิน 87,700 บาท ตามคำขอท้ายฟ้องแก่ผู้เสียหาย ก็ต้องแปลว่าเป็นคำสั่งให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ในส่วนที่จำเลยรับของโจร เมื่อผู้เสียหายได้รับของกลางที่จำเลยรับของโจรไว้คืนไปแล้วย่อมไม่อาจขอให้ยึดทรัพย์ของจำเลยขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้อีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 855/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดทางแพ่งในคดีรับของโจร ศาลจำกัดเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับความผิดอาญา ผู้เสียหายขอบังคับคดีเกินกว่านั้นไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรและขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหายเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษฐานรับของโจร ความรับผิดทางแพ่งของจำเลยคงมีอยู่เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดทางอาญาฐานรับของโจรเท่านั้น แม้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ ก็ต้องแปลว่าเป็นคำสั่งให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ในส่วนที่จำเลยรับของโจร เมื่อผู้เสียหายได้รับของกลางที่จำเลยรับของโจรไว้คืนไปแล้ว ย่อมไม่อาจขอให้ยึดทรัพย์ของจำเลยขายทอดตลาดอีกได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2530)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4048/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความผิดฐานลักทรัพย์และรับของโจร ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยข้อหาเดิมตามฎีกาโดยไม่ต้องย้อนสำนวน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพฐานรับของโจร จำเลยที่ 2ให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานลักทรัพย์ จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานรับของโจร ดังนี้ ถือได้ว่าศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 ในข้อหาฐานรับของโจร เมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ต้องถือว่าข้อหารับของโจรสำหรับจำเลยที่ 1ยุติแล้วตั้งแต่ศาลชั้นต้นจำเลยที่ 1 อุทธรณ์ขอให้พิพากษายกฟ้องในข้อหาลักทรัพย์ที่ศาลอุทธรณ์ต้องวินิจฉัยจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานรับของโจรไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา เมื่อโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานลักทรัพย์ ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยข้อหาฐานลักทรัพย์ตามฎีกาของโจทก์โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาใหม่
of 40