คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 357

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 400 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1151/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: เงินจากการขายของกลางเป็นของจำเลยที่ได้จากการชำระราคาสินค้า ไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้เสียหาย
ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานรับของโจรอาวุธปืน ถูกจับได้พร้อมทั้งเงินที่ขายปืนได้ 17,895 บาท จำเลยให้การว่าเงินขายปืนได้มีเพียง 5,800 บาท เงินที่เหลือเป็นเงินส่วนตัวของจำเลย เฉพาะเงิน 5,800 บาท นี้จำเลยไม่ติดใจโต้แย้ง ดังนี้ แม้จะฟังได้ว่าเงินของกลางเป็นเงินที่จำเลยได้จากการขาดปืนก็ตาม จะถือว่าผู้เสียหายเป็นเจ้าของเงินของกลางทั้งหมดไม่ได้ เพราะมิใช่ทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป และจำเลยรับไว้โดยรู้ว่าเป็นเงินที่ได้จากการกระทำผิด แต่เป็นเงินของผู้ที่ซื้อปืนไปจากจำเลย ให้จำเลยเป็นการชำระราคาปืน ฉะนั้น จึงต้องคืนเงินของกลางให้แก่ผู้เสียหาย 5,800 บาท เท่าจำนวนที่จำเลยพอใจคืนให้แก่ผู้เสียหาย ส่วนที่เหลือต้องคืนให้แก่จำเลย ต่อจากนั้นโจทก์ต้องดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลที่จะให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาปืนที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1151/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจรและสิทธิในเงินจากการขายของกลาง ศาลตัดสินสิทธิในเงินของผู้ขายและผู้เสียหาย
ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานรับของโจรอาวุธปืนถูกจับได้พร้อมทั้งเงินที่ขายปืนได้ 17,895 บาท. จำเลยให้การว่าเงินขายปืนได้มีเพียง 5,800 บาท เงินที่เหลือเป็นเงินส่วนตัวของจำเลย เฉพาะเงิน 5,800 บาท. นี้จำเลยไม่ติดใจโต้แย้ง. ดังนี้ แม้จะฟังได้ว่าเงินของกลางเป็นเงินที่จำเลยได้จากการขายปืนก็ตาม. จะถือว่าผู้เสียหายเป็นเจ้าของเงินของกลางทั้งหมดไม่ได้. เพราะมิใช่ทรัพย์สิน.ของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป. และจำเลยรับไว้โดยรู้ว่าเป็นเงินที่ได้จากการกระทำผิด แต่เป็นเงินของผู้ที่ซื้อปืนไปจากจำเลย ให้จำเลยเป็นการชำระราคาปืน. ฉะนั้น จึงต้องคืนเงินของกลางให้แก่ผู้เสียหาย 5,800บาท เท่าจำนวนที่จำเลยพอใจคืนให้แก่ผู้เสียหาย ส่วนที่เหลือต้องคืนให้แก่จำเลย. ต่อจากนั้นโจทก์ต้องดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลที่จะให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาปืนที่ยังไม่ได้คืน.แก่ผู้เสียหายต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: จำเลยนำทรัพย์ที่ถูกลักไปฝากขาย โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของผิดกฎหมาย
การที่จำเลยเป็นผู้นำเอารถจักรยานของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไปฝากบุคคลอื่นไว้ให้ช่วยขายให้ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์อันได้มาจากการกระทำความผิดนั้น จำเลยย่อมมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: การนำทรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์ไปฝากขายต่อ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของผิดกฎหมาย
การที่จำเลยเป็นผู้นำเอารถจักรยานของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไปฝากบุคคลอื่นไว้ให้ช่วยขายให้. โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์อันได้มาจากการกระทำความผิดนั้น. จำเลยย่อมมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: การนำทรัพย์ที่ได้จากการลักทรัพย์ไปฝากขายต่อ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย
การที่จำเลยเป็นผู้นำเอารถจักรยานของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไปฝากบุคคลอื่นไว้ให้ช่วยขายให้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์อันได้มาจากการกระทำความผิดนั้น จำเลยย่อมมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์: การรับของที่รู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย
จำเลยคอยรับถุงแป้งมันสำปะหลังจากคนร้ายที่ลักมาลงบรรทุกเรือของจำเลยซึ่งจอดคอยรับบรรทุกอยู่ที่ท่าน้ำริมตลิ่งห่างจากโกดังที่คนร้ายไปเอาแป้งมา 30 วา. อันมิใช่รับส่งกันในที่เกิดเหตุ. จึงถือว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิด. ดังนี้จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ประกอบด้วยมาตรา 86.
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา335,83 จำคุก 9 เดือน. ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335,86 จำคุก 6 เดือน. ต้องห้ามมิให้ฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์: การรับของที่รู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย
จำเลยคอยรับถุงแป้งมันสำปะหลังจากคนร้ายที่ลักมาลงบรรทุกเรือของจำเลยซึ่งจอดคอยรับบรรทุกอยู่ที่ท่าน้ำริมตลิ่งห่างจากโกดังที่คนร้ายไปเอาแป้งมา 30 วา อันมิใช่รับส่งกันในที่เกิดเหตุ จึงถือว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิด ดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ประกอบด้วยมาตรา 86
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 83 จำคุก 9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 86 จำคุก 6 เดือน ต้องห้ามมิให้ฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์: การรับของที่ได้จากการลักทรัพย์และการให้ความสะดวก
จำเลยคอยรับถุงแป้งมันสำปะหลังจากคนร้ายที่ลักมาลงบรรทุกเรือของจำเลยซึ่งจอดคอยรับบรรทุกอยู่ที่ท่าน้ำริมตลิ่งห่างจากโกดังที่คนร้ายไปเอาแป้งมา 30 วา อันมิใช่รับส่งกันในที่เกิดเหตุ จึงถือว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิด ดังนี้จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ประกอบด้วยมาตรา 86
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา335,83 จำคุก9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335,86 จำคุก 6 เดือน ต้องห้ามมิให้ฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานรับของโจร แม้ได้รับคำสั่งจากบิดา ก็ไม่อาจยกเว้นความรับผิดได้
บิดาของจำเลยเป็นผู้ติดต่อรับซื้อรถจักรยานยนต์จากคนร้ายตลอดมา ส่วนจำเลยได้นำเอารถจักรยานยนต์เหล่านั้นไปฝากญาติไว้ เพื่อหาคนซื้อต่อไปตามที่บิดาของจำเลยใช้ให้ไป ดังนี้ บิดาของจำเลยและจำเลยย่อมมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานรับของโจร แม้ได้รับคำสั่งจากบิดา ก็ไม่อาจอ้างเป็นเหตุไม่ต้องรับโทษ
บิดาของจำเลยเป็นผู้ติดต่อรับซื้อรถจักรยานยนต์จากคนร้ายตลอดมา ส่วนจำเลยได้นำเอารถจักรยานยนต์เหล่านั้นไปฝากญาติไว้เพื่อหาคนซื้อต่อไปตามที่บิดาของจำเลยใช้ให้ไปดังนี้บิดาของจำเลยและจำเลยย่อมมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357
of 40