พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6985/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานในคดีทรัพย์สินทางปัญญา: บันทึกถ้อยคำยืนยันจากต่างประเทศ
พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 บัญญัติว่า กระบวนพิจารณาในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้และข้อกำหนดตามมาตรา 30 ในกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติและข้อกำหนดดังกล่าว ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง... มาใช้บังคับโดยอนุโลม ป.วิ.พ. มาตรา 85 บัญญัติว่า คู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริง ย่อมมีสิทธิที่จะนำพยานหลักฐานใดๆ มาสืบได้ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการรับฟังพยานหลักฐานและการยื่นพยานหลักฐาน และมาตรา 104 บัญญัติว่าให้ศาลมีอำนาจเต็มในอันที่จะวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานที่คู่ความนำมาสืบนั้นจะเกี่ยวกับประเด็นและเป็นอันเพียงพอให้เชื่อฟังเป็นยุติได้หรือไม่ แล้วพิพากษาคดีไปตามนั้น นอกจากนี้ในข้อกำหนดคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2540 ข้อ 31 ยังกำหนดให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขออนุญาตต่อศาลเสนอบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของผู้ให้ถ้อยคำซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศแทนการนำบุคคลนั้นมาเบิกความเป็นพยานต่อหน้าศาลได้ ซึ่งโจทก์ก็ขออนุญาตต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยื่นบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของ ม. พร้อมเอกสารแนบท้ายเป็นพยานแทนการนำพยานปากนี้มาเบิกความต่อหน้าศาล และศาลได้อนุญาตซึ่งจำเลยทั้งสามไม่ได้คัดค้าน ดังปรากฏในรายงานกระบวนพิจารณาอันแสดงว่าเป็นพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับประเด็น ศาลจึงรับฟังบันทึกถ้อยคำเอกสารพร้อมเอกสารแนบท้ายได้ในฐานะเป็นพยานเอกสารที่โจทก์นำสืบในชั้นพิจารณาของศาล โดยไม่จำเป็นต้องเคยยื่นหรืออ้างส่งเป็นหลักฐานในชั้นพิจารณาของนายทะเบียนและของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้ามาก่อนแต่อย่างใด ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าและมิให้รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอดังกล่าว ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8245/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเครื่องหมายการค้า: การพิจารณาผู้ใช้สิทธิก่อนและเจตนาในการสร้างเครื่องหมาย
โจทก์และจำเลยต่างยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า คำว่า KIPLING ซึ่งนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าเห็นว่าเหมือนหรือคล้ายกันจนอาจทำให้สาธารณชนสับสนหรือหลงผิดในความเป็นเจ้าของของสินค้าหรือแหล่งกำเนิดของสินค้า แต่จำเลยได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทสำหรับสินค้าจำพวกที่ 18 ก่อนโจทก์ประมาณ 1 ปี โดยโจทก์ไม่ทราบมาก่อน นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าจึงไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าให้แก่โจทก์ ทั้ง ๆ ที่โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเช่นเดียวกันนี้สำหรับสินค้าจำพวกที่ 25 ไว้แล้วและไม่ปรากฏว่านายทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้มีคำสั่งให้โจทก์และจำเลยปฏิบัติตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 24 กรณีจึงถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้วว่าโจทก์หรือจำเลยมีสิทธิที่จะได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทดีกว่ากัน แม้เครื่องหมายการค้าของจำเลยที่ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนไว้ยังไม่ได้รับการจดทะเบียนตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 67 เพราะมาตรานี้เป็นเรื่องผู้มีส่วนได้เสียฟ้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนไว้แล้ว แต่โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55