คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 343

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 201 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฉ้อโกงและการหลอกลวงประชาชนทั่วไป: การพิสูจน์องค์ประกอบความผิดตามมาตรา 341 และ 343
การกระทำอันจะเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 นั้น ผู้กระทำจะต้องกระทำด้วยเจตนาแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนโดยทั่วไป จะถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากหรือน้อย และผลเสียหายอันเกิดจากคำหลอกลวงของจำเลยมีมากหรือน้อยเป็นหลักหาได้ไม่ และเมื่อโจทก์มิได้ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยได้หลอกลวงประชาชนโดยทั่วไป จึงเป็นฟ้องที่ไม่ครบองค์ความผิดตามมาตรา 343
เมื่อผู้ว่าจ้างแต่ละคนได้รับความเสียหายโดยได้จ่ายเงินสดและเช็คให้จำเลยรับไป ผู้ว่าจ้างแต่ละคนก็เป็นผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฉ้อโกงและการหลอกลวงประชาชนทั่วไปตามมาตรา 343 กับฐานความผิดฉ้อโกงตามมาตรา 341
การกระทำอันจะเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343นั้นผู้กระทำจะต้องกระทำด้วยเจตนาแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนโดยทั่วไปจะถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากหรือน้อยและผลเสียหายอันเกิดจากคำหลอกลวงของจำเลยมีมากหรือน้อยเป็นหลักหาได้ไม่และเมื่อโจทก์มิได้ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยได้หลอกลวงประชาชนโดยทั่วไปจึงเป็นฟ้องที่ไม่ครบองค์ความผิดตามมาตรา 343
เมื่อผู้ว่าจ้างแต่ละคนได้รับความเสียหาย โดยได้จ่ายเงินสดและเช็คให้จำเลยรับไปผู้ว่าจ้างแต่ละคนก็เป็นผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นซึ่งหน้าพระภิกษุ แม้ไม่ได้กล่าวต่อหน้า หากผู้ถูกดูหมิ่นได้ยิน ก็เป็นความผิดตามกฎหมาย
จำเลยลงบันไดกุฎิเดินไปราว 9-10 วา แล้วพูดว่า "ถ้าไม่เห็นแก่ผ้าเหลืองหรือไม่ใช่พระ จะเตะให้ตกกุฏิให้หมดเลย" จำเลยกล่าวถ้อยคำเหล่านี้แก่พระภิกษุซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชน แม้จะไม่ได้กล่าวต่อหน้าแต่พระภิกษุซึ่งถูกกล่าวนั้นได้ยินถ้อยคำที่จำเลยกล่าว ก็เป็นความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจร้องทุกข์ในคดีอาญา: นายสนามม้าองค์การทหารผ่านศึกมีฐานะเป็นผู้เสียหายได้
นายสนามม้าขององค์การทหารผ่านศึกมีหน้าที่ปกครองบังคับบัญชาคนทำงานและรับผิดชอบในกิจการแข่งม้า เมื่อเกิดมีการทุจริตยักยอกเงินของสนามม้าขึ้น นายสนามม้านั้นย่อมเป็นผู้เสียหายด้วย และมีอำนาจร้องทุกข์ให้เจาพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงด้วยการหลอกลวงเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์ ศาลตัดสินว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยหลอกหลวงว่าน้ำที่พุขึ้นนั้นเจ้าแม่สำโรงบันดาลให้มีขึ้นและว่าน้ำพุนั้นศักดิ์สิทธิใช้เป็นยารักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ประชาชนคนดูหลงเชื่อ ได้เอาน้ำนั้นไปใช้กินและทารักษาโรค แต่ไม่หายเพราะเป็นน้ำธรรมดาในลำคลองนั้นเอง และได้ให้เงินแก่จำเลยรวมประมาณหมื่นบาทโดยหลงเชื่อว่าน้ำนั้นเป็นของเจ้าแม่สำโรงรักษาโรคได้ แต่ความจริงนั้น จำเลยที่ 1 เอาเท้าพุ้ยน้ำในคลองทำให้น้ำผุดพุขึ้นมาเอง ไม่เกี่ยวแก่เจ้าแม่อะไรเลย จำเลยที่ 2 ได้ร่วมกระทำผิดด้วย โดยอ้างว่าน้ำพุนั้นเจ้าแม่สำโรงบันดาลให้เกิดขึ้นเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ซึ่งเป็นการปกปิดความจริง และแสดงข้อความเท็จจริง ถือว่า จำเลยทั้งสองสมคบกันและมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกง โดยอ้างประมวลกฎหมายอาญา ม. 343 แม้โจทก์ไม่ได้อ้างถึง ม. 341, 342 แต่ ม.343 ได้อ้างถึง ม.341,342 อยู่แล้ว และโจทก์ก็ได้บรรยายไว้ในฟ้องชัดแจ้งแล้วว่า จำเลยหลอกลวงประชาชน จึงเท่ากับอ้าง ม. 341, 342 โดยปริยายแล้ว
จำเลยได้เงินมาเพราะหลอกลวงเขาว่า น้ำพุนั้นเป็นน้ำพุที่เจ้าแม่สำโรงบันดาลให้เกิดขึ้นเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ใช้เป็นยารักษาโรคได้ ประชาชนหลงเชื่อจึงให้เงินแก่จำเลย ย่อมถือได้ว่าเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นการทุจริตตามกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงโดยหลอกลวงประชาชนว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์รักษาโรคได้ และแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
จำเลยหลอกลวงว่าน้ำที่พุขึ้นนั้นเจ้าแม่สำโรงบันดาลให้มีขึ้นและว่าน้ำพุนั้นศักดิ์สิทธิ์ใช้เป็นยารักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ประชาชนคนดูหลงเชื่อได้เอาน้ำนั้นไปใช้กินและทารักษาโรค แต่ไม่หายเพราะเป็นน้ำธรรมดาในลำคลองนั้นเองและได้ให้เงินแก่จำเลยรวมประมาณหมื่นบาทโดยหลงเชื่อว่าน้ำนั้นเป็นของเจ้าแม่สำโรงรักษาโรคได้แต่ความจริงนั้น จำเลยที่ 1 เอาเท้าพุ้ยน้ำในคลองทำให้น้ำผุดขึ้นมาเอง ไม่เกี่ยวแก่เจ้าแม่อะไรเลยจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกระทำผิดด้วยโดยอ้างว่าน้ำพุนั้นเจ้าแม่สำโรงบันดาลให้เกิดขึ้นเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ซึ่งเป็นการปกปิดความจริงและแสดงข้อความเท็จถือว่าจำเลยทั้งสองสมคบกันและมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงโดยอ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา343 แม้โจทก์ไม่ได้อ้าง มาตรา341,342. แต่ ม.343 ได้อ้างถึงมาตรา341,342 อยู่แล้วและโจทก์ก็ได้บรรยายไว้ในฟ้องชัดแจ้งแล้วว่าจำเลยหลอกลวงประชาชนจึงเท่ากับอ้าง มาตรา341,342 โดยปริยายแล้ว
จำเลยได้เงินมาเพราะหลอกลวงเขาว่าน้ำพุนั้นเป็นน้ำพุที่เจ้าแม่สำโรงบันดาลให้เกิดขึ้นเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ใช้เป็นยารักษาโรคได้ประชาชนหลงเชื่อจึงให้เงินแก่จำเลยย่อมถือได้ว่าเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเป็นการทุจริตตามกฎหมายแล้ว
of 21