คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 279

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 87 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2568-2569/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากเป็นการแก้ไขโทษเล็กน้อยและฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 279, 285 ลงโทษจำเลยตามมาตรา 285 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลยสำนวนละ 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 285 ประกอบด้วยมาตรา 279 จำคุกจำเลยสำนวนละ 3 เดือน เป็นการที่ศาลอุทธรณ์มิได้แก้บทมาตราแห่งความผิด เพียงแต่ปรับบทกฎหมายที่ลงโทษให้ถูกต้อง ทั้งโทษเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้แล้วก็ให้จำคุกจำเลยสำนวนละไม่เกิน 5 ปี จึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อย คู่ความต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2878/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานกระทำอนาจารเด็ก พฤติการณ์ไม่ถึงขั้นพยายามข่มขืน
ผู้เสียหายอายุ 5 ขวบ จำเลยเป็นพี่เขยของบิดาของผู้เสียหาย อยู่บ้านใกล้กัน วันเกิดเหตุผู้เสียหายไปเล่นที่ใต้ถุนบ้านของจำเลย จำเลยเรียกผู้เสียหายขึ้นไปบนบ้านแล้วหาผู้เสียหายไปในครัว จำเลยนั่งบนโต๊ะแล้วเอาผู้เสียหายใส่เอวด้านหน้า ขาคาบเอวของจำเลย และจับก้นของผู้เสียหายกระแทกเช้าออก อวัยวะเพศของผู้เสียหายช้ำบวมเล็กน้อย และไม่มีน้ำหรือเชื้ออสุจิของชายในช่องคลอดของผู้เสียหาย ข้อเท็จจริงแสดงว่าจำเลยมิได้เอาอวัยวะเพศของจำเลยจ่อที่ช่องคลอดของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นเพียงกระทำอนาจารผู้เสียหายเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2878/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานกระทำอนาจารเด็ก พฤติการณ์ไม่ถึงขั้นพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
ผู้เสียหายอายุ 5 ขวบ จำเลยเป็นพี่เขยของบิดาของผู้เสียหาย อยู่บ้านใกล้กัน วันเกิดเหตุผู้เสียหายไปเล่นที่ใต้ถุนบ้านของจำเลย จำเลยเรียกผู้เสียหายขึ้นไปบนบ้านแล้วพาผู้เสียหายไปในครัว จำเลยนั่งบนโต๊ะแล้วเอาผู้เสียหายใส่เอวด้านหน้า ขาคาบเอวของจำเลย และจับก้นของผู้เสียหายกระแทกเข้าออก อวัยวะเพศของผู้เสียหายช้ำบวมเล็กน้อยและไม่มีน้ำหรือเชื้ออสุจิของชายในช่องคลอดของผู้เสียหาย ข้อเท็จจริงแสดงว่าจำเลยมิได้เอาอวัยวะเพศของจำเลยจ่อที่ช่องคลอดของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นเพียงกระทำอนาจารผู้เสียหายเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2008/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำชำเราเด็กอายุ 8 ปี แม้ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน แต่จากอาการบาดเจ็บและพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่ามีการล่วงล้ำทางเพศเกิดขึ้น
จำเลยถอดกางเกงผู้เสียหายซึ่งมีอายุ 8 ปี ออก เอาของลับของจำเลยใส่ของลับของผู้เสียหายจนเข้าไปแล้ว แม้ไม่ปรากฏชัดว่าของลับของจำเลยล่วงล้ำเข้าไปในของลับผู้เสียหายได้มากน้อยเพียงใดก็ตาม แต่แพทย์ตรวจมีความเห็นว่า แคมเล็กช้ำบวมถลอกเป็นแผลมีเลือดออกต้องมีวัตถุไม่มีคมถูผ่าน และพอตกกลางคืนผู้เสียหายเจ็บที่ของลับมากจนถึงร้องไห้ ดังนี้ แสดงว่าของลับจำเลยได้ผ่านของลับของผู้เสียหายเข้าไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำอนาจารและเป็นความผิดสำเร็จฐานกระทำชำเราผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามข่มขืนกระทำชำเรา แม้อวัยวะเพศไม่ล่วงล้ำเข้าไปในช่องอวัยวะเพศ แต่มีการจ่อดันและสำเร็จความใคร่
จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายอายุ 9 ปี อวัยวะเพศของจำเลยเพียงเข้าไปจ่อดันอยู่ที่อวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้วจำเลยก็สำเร็จความใคร่ อวัยวะเพศของจำเลยยังไม่ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา หาใช่จำเลยเจตนาเพียงกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามข่มขืนกระทำชำเรา แม้ไม่อวัยวะเพศล่วงล้ำ แต่สำเร็จความใคร่ด้วยการจ่อดัน
จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายอายุ 9 ปี อวัยวะเพศของจำเลยเพียงเข้าไปจ่อดันอยู่ที่อวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้วจำเลยก็สำเร็จความใคร่ อวัยวะเพศของจำเลยยังไม่ล่วงล้ำเข้าไปในช่องอวัยวะเพศของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา หาใช่จำเลยเจตนาเพียงกระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานพยายามข่มขืนฯ แม้ไม่ได้ขอในคำฟ้อง ศาลมีอำนาจลงโทษได้หากเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำผิด
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในฐานข่มขืนกระทำชำเรา การกระทำของจำเลยผิดเพียงฐานพยายาม ที่ศาลลงโทษจำเลยฐานพยายาม ก็เป็นวิธีการเพื่อแบ่งส่วนลงโทษตามความผิดนั้น ศาลมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้ ไม่เกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานหลอกลวงเพื่อกระทำอนาจารและการกระทำอนาจาร การลงโทษกระทงความผิด และการลดโทษจากคำรับสารภาพ
จำเลยใช้อุบายหลอกลวงหญิงผู้เสียหายว่าจะให้สีผึ้ง 1 ตลับ ผู้เสียหายหลงเชื่อตามไปเอาจากจำเลยที่สวนหลังบ้านแล้วจำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหาย ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานหลอกลวงหญิงไปเพื่อการอนาจารกระทงหนึ่ง และฐานกระทำอนาจารอีกกระทงหนึ่ง
สีผึ้งของกลางเป็นทรัพย์ที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิดต้องริบ
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่ต้องมีการสืบพยานหลักฐานอย่างใดถือว่าเป็นเหตุบรรเทาโทษ ควรลดโทษให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยหลอกลวงเหยื่อด้วยของล่อ แล้วกระทำอนาจาร ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำความผิดสองกรรม ต้องลงโทษตามกฎหมาย
จำเลยใช้อุบายหลอกลวงหญิงผู้เสียหายว่าจะให้สีผึ้ง 1 ตลับ ผู้เสียหายหลงเชื่อตามไปเอาจากจำเลยที่สวนหลังบ้าน แล้วจำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหาย ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานหลอกลวงหญิงไปเพื่อการอนาจารกระทงหนึ่ง และฐานกระทำอนาจารอีกกระทงหนึ่ง
สีผึ้งของกลางเป็นทรัพย์ที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด ต้องริบ
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่ต้องมีการสืบพยานหลักฐานอย่างใด ถือว่าเป็นเหตุบรรเทาโทษ ควรลดโทษให้จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนทางทวารหนัก ไม่ถือเป็นความผิดฐานชำเรา แต่เป็นกระทำอนาจาร
การกระทำชำเราตามกฎหมายจะต้องปรากฏว่าของลับหรืออวัยวะสืบพันธุ์ของชายล่วงล้ำเข้าไปในช่องสังวาสหรืออวัยวะสืบพันธุ์ของหญิง การที่จำเลยขืนใจเด็กหญิงผู้เสียหายโดยใช้ของลับของจำเลยใส่เข้าไปในทางทวารหนักของผู้เสียหาย จึงไม่เป็นการกระทำชำเราคงมีความผิดฐานกระทำอนาจารเท่านั้น
of 9