พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,100 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าและสมคบทำผิด แม้ไม่ได้อ้างบทมาตรา แต่โจทก์บรรยายฟ้องแล้ว ศาลรับฟังลงโทษได้
จำเลยยิงปืนตรงไปทางผู้เสียหายแต่กระสุนปืนไม่ถูกผู้เสียหาย เพราะผู้เสียหายหลบเสียก่อนนั้น เป็นการกระทำไปตลอดแล้ว หากแต่ไม่บรรลุผลตามที่จำเลยเจตนาเท่านั้น กระกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าคน
โจทก์ได้บรรยายในฟ้องว่า ได้มีการสมคบกันกระทำผิด แม้โจทก์จะไม่ได้อ้างบทมาตราที่บัญญัติถึงการร่วมกระทำความผิดศาลก็รับฟังลงโทษจำเลยในฐานสมคบกันกระทำความผิดนั้นได้
โจทก์ได้บรรยายในฟ้องว่า ได้มีการสมคบกันกระทำผิด แม้โจทก์จะไม่ได้อ้างบทมาตราที่บัญญัติถึงการร่วมกระทำความผิดศาลก็รับฟังลงโทษจำเลยในฐานสมคบกันกระทำความผิดนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงวันเกิดเหตุในชั้นพิจารณาคดี ไม่กระทบต่อความเข้าใจข้อหาของจำเลย และถือว่าข้อเท็จจริงไม่ต่างกับฟ้อง
แม้ตัวผู้เสียหายจะเบิกความวันเกิดเหตุผิดจากฟ้องก็ดีและพยานโจทก์คนอื่นจำได้แต่เดือน ส่วนวันจำไม่ได้ก็ดี แต่พยานโจทก์เหล่านี้ก็ได้ให้การชั้นสอบสวนหลังจากเกิดเหตุเพียงเล็กน้อยระบุวันเกิดเหตุตรงตามฟ้อง ดังนี้ ถือได้ว่าข้อเท็จจริงไม่ต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความถูกต้องของวันเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญา แม้พยานเบิกความผิดพลาด แต่หากการสอบสวนยืนยันวันเกิดเหตุเดิมได้ ถือว่าข้อเท็จจริงไม่ต่างกับฟ้อง
แม้ตัวผู้เสียหายจะเบิกความวันเกิดเหตุผิดจากฟ้องก็ดี และพยานโจทก์คนอื่นจำได้แต่เดือน ส่วนวันจำไม่ได้ก็ดี แต่พยานโจทก์เหล่านี้ก็ได้ให้การชั้นสอบสวนหลังจากเกิดเหตุเพียงเล็กน้อย ระบุวันเกิดเหตุตรงตามฟ้อง ดังนี้ ถือได้ว่า ข้อเท็จจริงไม่ต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากปล้นทรัพย์เป็นบุกรุก และผลกระทบต่อการพิพากษา
ฟ้องว่าปล้นทรัพย์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าบุกรุก ลงโทษจำเลยไม่ได้ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากปล้นทรัพย์เป็นบุกรุก: ศาลฎีกายกฟ้องเนื่องจากพฤติการณ์ไม่เข้าข่ายความผิดฐานปล้นทรัพย์
ฟ้องว่า ปล้นทรัพย์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าบุกรุก ลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 791/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาลักทรัพย์: การขอทดลองขี่ม้าแล้วหลบหนี ถือเป็นการแสดงเจตนาทุจริตตั้งแต่แรก
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำผิดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2501 ตรงกับวันขึ้น 13 ค่ำ เดือนยี่ และโจทก์นำสืบว่าจำเลยทำผิดวันขึ้น 13 ค่ำ เดือนยี่ ซึ่งความจริงแล้ววันขึ้น13ค่ำเดือนยี่ ตรงกับวันที่ 2 มกราคม2501 ตามที่จำเลยให้การและลำดับเหตุการณ์ในวันที่ 3กุมภาพันธ์ 2501 เป็นการเจือสมกับการกระทำที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นแต่นำสืบปฏิเสธต่อสู้ปัดความรับผิดเท่านั้น จึงเห็นว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้แต่อย่างใด
จำเลยกับพวกได้พูดกับเจ้าของม้าขอลองกำลังม้า อ้างว่าเพื่อนของจำเลยจะซื้อ ดังนี้ สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับเจ้าของม้า เจ้าของม้ายังไม่ทันอนุญาต จำเลยยัดเยียดส่งบังเหียนให้เพื่อนของจำเลยและพูดรับรอง ในทันใดนั้นเองพวกของจำเลยก็ตีม้าเร่งฝีเท้าขี่หนีไปต่อหน้า ดังนี้จึงเห็นว่า จำเลยมีเจตนาที่จะเอาทรัพย์นั้นไปโดยทุจริตแต่แรก การกระทำของจำเลยกับพวกมีความผิดฐานลักทรัพย์
จำเลยกับพวกได้พูดกับเจ้าของม้าขอลองกำลังม้า อ้างว่าเพื่อนของจำเลยจะซื้อ ดังนี้ สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับเจ้าของม้า เจ้าของม้ายังไม่ทันอนุญาต จำเลยยัดเยียดส่งบังเหียนให้เพื่อนของจำเลยและพูดรับรอง ในทันใดนั้นเองพวกของจำเลยก็ตีม้าเร่งฝีเท้าขี่หนีไปต่อหน้า ดังนี้จึงเห็นว่า จำเลยมีเจตนาที่จะเอาทรัพย์นั้นไปโดยทุจริตแต่แรก การกระทำของจำเลยกับพวกมีความผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 791/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาลักทรัพย์: การกระทำโดยทุจริตตั้งแต่แรก แม้มีการอ้างขอซื้อหรือลองขี่
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำผิดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2501 ตรงกับวันขึ้น 13 ค่ำ เดือนยี่ และโจทก์นำสืบว่าจำเลยทำผิดวันขึ้น 13 ค่ำเดือนยี่ ซึ่งความจริงแล้ววันขึ้น 13 ค่ำเดือนยี่ ตรงกับวันที่ 2 มกราคม 2501 ตามที่จำเลยให้การและลำดับเหตุการณ์ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2501 เป็นการเจือสมกับการกระทำที่โจทก์ฟ้อง จำเลยเป็นแต่นำสืบปฏิเสธต่อสู้ปัดความรับผิดเท่านั้น จึงเห็นว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้แต่อย่างใด
จำเลยกับพวกได้พูดกับเจ้าของม้าขอลองกำลังม้า อ้างว่าเพื่อนของจำเลยจะซื้อ ดังนี้ สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับเจ้าของม้า ๆ ยังไม่ทันอนุญาต จำเลยยัดเยียดส่งบังเหียนให้เพื่อนของจำเลยและพูดรับรอง ในทันใดนั้นเอง พวกของจำเลยก็ตีม้าเร่งฝีเท้าขี่หนีไปต่อหน้า ดังนี้ จึงเห็นว่า จำเลยมีเจตนาที่จะเอาทรัพย์นั้นไปโดยทุจริตแต่แรก การกระทำของจำเลยกับพวกมีความผิดฐานลักทรัพย์
จำเลยกับพวกได้พูดกับเจ้าของม้าขอลองกำลังม้า อ้างว่าเพื่อนของจำเลยจะซื้อ ดังนี้ สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับเจ้าของม้า ๆ ยังไม่ทันอนุญาต จำเลยยัดเยียดส่งบังเหียนให้เพื่อนของจำเลยและพูดรับรอง ในทันใดนั้นเอง พวกของจำเลยก็ตีม้าเร่งฝีเท้าขี่หนีไปต่อหน้า ดังนี้ จึงเห็นว่า จำเลยมีเจตนาที่จะเอาทรัพย์นั้นไปโดยทุจริตแต่แรก การกระทำของจำเลยกับพวกมีความผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมปล้นทรัพย์: การกระทำแจ้งสัญญาณอันตรายถือเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนและร่วมกระทำความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ร่วมมือกับพวกกระทำความผิดเมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้ร่วมกันกับพวกกระทำความผิดตามฟ้องแม้จำเลยมิได้ลงมือกระทำการปล้น จำเลยเพียงรับหน้าที่คอยแจ้งสัญญานอันตรายให้พวกทราบซึ่งเป็นการกระทำส่วนหนึ่งเพื่อให้การปล้นบรรลุผลสำเร็จเช่นนี้เรียกได้ว่าจำเลยเป็นตัวการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แล้ว ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาจึงไม่ต่างกับฟ้องและการกระทำดังกล่าวของจำเลยมิใช่มีผิดเพียงฐานสมรู้ เพราะจำเลยมิใช่เพียงแต่ให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิดเท่านั้นแต่ได้ร่วมกับพวกวางแผนกระทำการปล้นและร่วมในการปล้นมาแต่ต้นโดยตลอด
ถึงแม้ในการปล้น จำเลยได้ร่วมรู้ถึงการที่พวกของจำเลยได้เตรียมอาวุธปืนมาด้วยก็ดี แต่การเตรียมอาวุธปืนมาอาจเพียงเพื่อสำหรับใช้ในการปล้นจำเลยอาจไม่ทราบถึงเจตนาของพวกตนที่ถึงกับจะใช้ปืนยิงเจ้าพนักงานด้วยก็ได้ทั้งขณะที่คนร้ายยิงเจ้าพนักงาน จำเลยก็ได้ถูกเจ้าพนักงานคุมตัวไว้ก่อนแล้วเช่นนี้จำเลยยังไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน คงมีความผิดฐานปล้นเท่านั้น
ถึงแม้ในการปล้น จำเลยได้ร่วมรู้ถึงการที่พวกของจำเลยได้เตรียมอาวุธปืนมาด้วยก็ดี แต่การเตรียมอาวุธปืนมาอาจเพียงเพื่อสำหรับใช้ในการปล้นจำเลยอาจไม่ทราบถึงเจตนาของพวกตนที่ถึงกับจะใช้ปืนยิงเจ้าพนักงานด้วยก็ได้ทั้งขณะที่คนร้ายยิงเจ้าพนักงาน จำเลยก็ได้ถูกเจ้าพนักงานคุมตัวไว้ก่อนแล้วเช่นนี้จำเลยยังไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน คงมีความผิดฐานปล้นเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการปล้นทรัพย์และการพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ร่วมมือกับพวกกระทำความผิด เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้ร่วมกันกับพวกกระทำความผิดตามฟ้อง แม้จำเลยมิได้ลงมือกระทำการปล้น จำเลยพียงรับหน้าที่คอยแจ้งสัญญานอันตรายให้พวกทราบ ซึ่งเป็นการกระทำส่วนหนึ่ง เพื่อให้การปล้นบรรลุผลสำเร็จ เช่นนี้ เรียกได้ว่าจำเลยเป็นตัวการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา ม.83 แล้ว ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาจึงไม่ต่างกับฟ้อง และการกระทำดังกล่าวของจำเลยมิใช่มีผิดเพียงฐานสมรู้ เพราะจำเลยมิใช่เพียงแต่ให้ความช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิดเท่านั้น แต่ได้ร่วมกับพวกวางแผนกระทำการปล้นและร่วมในการปล้นมาแต่ต้นโดยตลอด
ถึงแม้ในการปล้น จำเลยได้ร่วมรู้ถึงการที่พวกของจำเลยได้เตรียมอาวุธปืนมาด้วยก็ดี แต่การเตรียมอาวุธปืนมาอาจเพียงเพื่อสำหรับใช้ในการปล้น จำเลยอาจไม่ทราบถึงเจตนาของพวกตนที่ถึงกับจะใช้ปืนยิงเจ้าพนักงานด้วยก็ได้ ทั้งขณะที่คนร้ายยิงเจ้าพนักงาน จำเลยก็ได้ถูกเจ้าพนักงานคุมตัวไว้ก่อนแล้ว เช่นนี้ จำเลยยังไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน คงมีความผิดฐานปล้นเท่านั้น
ถึงแม้ในการปล้น จำเลยได้ร่วมรู้ถึงการที่พวกของจำเลยได้เตรียมอาวุธปืนมาด้วยก็ดี แต่การเตรียมอาวุธปืนมาอาจเพียงเพื่อสำหรับใช้ในการปล้น จำเลยอาจไม่ทราบถึงเจตนาของพวกตนที่ถึงกับจะใช้ปืนยิงเจ้าพนักงานด้วยก็ได้ ทั้งขณะที่คนร้ายยิงเจ้าพนักงาน จำเลยก็ได้ถูกเจ้าพนักงานคุมตัวไว้ก่อนแล้ว เช่นนี้ จำเลยยังไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน คงมีความผิดฐานปล้นเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเปรียบเทียบความผิดทำร้ายร่างกายขึ้นอยู่กับบาดแผลถึงขั้นบาดเจ็บหรือไม่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์ถึงบาดเจ็บ แต่พนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับจำเลยโดยไม่มีอำนาจทำได้เพราะบาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บจำเลยต่อสู้ว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบได้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปแล้วดังนี้ ประเด็นเรื่องการสอบสวนจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อยู่ที่บาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บหรือไม่ ถ้าบาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บเป็นความผิดตามมาตรา 254 พนักงานสอบสวนก็ไม่มีอำนาจเปรียบเทียบ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ การเปรียบเทียบชอบด้วยกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปแล้วแต่ศาลอุทธรณ์กลับไปวินิจฉัยว่าผู้เสียหายและผู้ต้องหาไม่ได้ให้ความยินยอมในการเปรียบเทียบ การเปรียบเทียบจึงใช้ไม่ได้ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ การเปรียบเทียบชอบด้วยกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปแล้วแต่ศาลอุทธรณ์กลับไปวินิจฉัยว่าผู้เสียหายและผู้ต้องหาไม่ได้ให้ความยินยอมในการเปรียบเทียบ การเปรียบเทียบจึงใช้ไม่ได้ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น