พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,100 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเล่นพนันเกินเวลาที่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดที่ไม่ตรงกับฟ้อง จำเลยหลงต่อสู้คดีจึงไม่ลงโทษ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเล่นการพนันไพ่ผ่องไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อเท็จจริงปรากฎว่าจำเลยเล่นไพ่โดยได้รับอนุญาต หากแต่เล่นเลยเวลาที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตซึ่งเป็นการผิดเงื่อนไข และจำเลยหลงต่อสู้คดีด้วย จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
(หมายเหตุ อัยการฎีกา ว่า ควรต้องลงโทษจำเลย จะถือตามฎีกาเดิมที่เคยมีมาแล้วไม่ได้ เพราะ วิ.อาญา มาตรา 192 นี้ได้แก้ไขใหม่แล้ว)
(หมายเหตุ อัยการฎีกา ว่า ควรต้องลงโทษจำเลย จะถือตามฎีกาเดิมที่เคยมีมาแล้วไม่ได้ เพราะ วิ.อาญา มาตรา 192 นี้ได้แก้ไขใหม่แล้ว)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของอาคารมีความรับผิดชอบต่อการก่อสร้างโดยจ้างผู้อื่น แม้จะไม่ได้ลงมือเอง ถือเป็นผู้ปลูกสร้างอาคารตามกฎหมาย
ห้องแถวที่ปลูกสร้างลงบนสะพานเป็นเรือนโรงที่อยู่อาศัยจึงเป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารเมื่อปลูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารอยู่ในตัว ถึงแม้จะถือว่าสะพานไม่เป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารก็ตาม
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเจ้าของอาคารปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารเมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุว่าจำเลยบังอาจทำการปลูกสร้าง แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยจ้างคนงานปลูกสร้างโดยเจ้าของอาคารมิได้ลงมือด้วยก็เป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเป็นผู้ปลูกสร้างอาคาร ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับฟ้อง
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเจ้าของอาคารปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารเมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุว่าจำเลยบังอาจทำการปลูกสร้าง แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยจ้างคนงานปลูกสร้างโดยเจ้าของอาคารมิได้ลงมือด้วยก็เป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเป็นผู้ปลูกสร้างอาคาร ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของอาคารมีความรับผิดชอบต่อการก่อสร้างโดยจ้างผู้อื่น แม้ไม่ได้ลงมือเอง การปลูกสร้างอาคารโดยไม่ขออนุญาตเป็นความผิด
ห้องแถวที่ปลูกสร้างลงบนสะพานเป็นเรือนโรงที่อยู่อาศัยจึงเป็นอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร เมื่อปลูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอยู่ในตัว ถึงแม้จะถือว่าสพานไม่เป็นอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารก็ตาม
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเจ้าของอาคารปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร เมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุว่าจำเลยบังอาจทำการปลูกสร้าง แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยจ้างคนงานปลูกสร้างโดยเจ้าของอาคารมิได้ลงมือด้วย ก็เป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเป็นผู้ปลูกสร้างอาคาร ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับฟ้อง
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเจ้าของอาคารปลูกสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร เมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุว่าจำเลยบังอาจทำการปลูกสร้าง แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยจ้างคนงานปลูกสร้างโดยเจ้าของอาคารมิได้ลงมือด้วย ก็เป็นที่เข้าใจว่าเจ้าของเป็นผู้ปลูกสร้างอาคาร ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา จึงไม่ต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ตัวตนผู้ตายในคดีอาญา โจทก์ต้องมีพยานเห็นศพโดยตรง
การที่จะรับฟังว่า ผู้ตายเป็นใครแน่นอนนั้น โจทก์จะต้องนำพยานมาสืบให้ชัด จะฟังเพียงพยานบอกเล่าหรือชื่อในใบชัณสูตรพลิกศพหาเป็นการเพียงพอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ตัวตนผู้ตายในคดีอาญา โจทก์ต้องนำสืบพยานผู้เห็นศพโดยตรง ไม่เพียงแค่พยานบอกเล่าหรือเอกสาร
การที่จะรับฟังว่า ผู้ตายเป็นใครแน่นอนนั้น โจทก์จะต้องนำพยานมาสืบให้ชัด จะฟังเพียงพยานบอกเล่าหรือชื่อในใบชันสูตรพลิกศพ หาเป็นการเพียงพอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278-279/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารทางการค้า: การรวมกระทงลงโทษและการคำนวณค่าเสียหาย
การรวมกระทงลงโทษ เมื่อรวมโทษทุกกระทงเข้าด้วยกันแล้ว จะลงโทษเกินกว่าอัตราขั้นได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมติขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตาม ก.ม.อาญา ม.225(4) และ ป.ม.อาญา ม.266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21 ป.พ.พ.
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง แม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมติขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตาม ก.ม.อาญา ม.225(4) และ ป.ม.อาญา ม.266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21 ป.พ.พ.
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง แม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278-279/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกง, ปลอมหนังสือ, การรวมกระทงโทษ และการบังคับคดีนอกฟ้อง: ข้อพิพาทเรื่องการหลอกลวงทางการค้าและการกำหนดโทษ
การรวมกระทงลงโทษ เมื่อรวมโทษทุกกระทงเข้าด้วยกันแล้วจะลงโทษเกินกว่าอัตราขั้นสูงได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมุตขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา225(4)และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องแม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมุตขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา225(4)และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องแม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องคดีอาญาที่จำเลยต่อสู้คดีแล้ว และการนำสืบข้อเท็จจริงต่างจากฟ้องเดิม
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยทำผิดในวันใดวันหนึ่งแน่นอน จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ ครั้นเมื่อสืบพยานโจทก์หมดแล้ว โจทก์ขอแก้ฟ้องเป็นว่า เมื่อระหว่างวันหนึ่งถึงอีกวันหนึ่ง วันเวลาใดไม่ปรากฎชัดจำเลยได้กระทำผิด ดังนี้ ไม่ใช่เป็นการขอเพิ่มเติม แต่เป็นการขอแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้องตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 158(5),164 เมื่อจำเลยปฏิเสธฟ้องเดิมและได้ต่อสู้คดีในการสืบพยานโจทก์ตลอดมาจนหมดพยาน จึงถือได้ว่าจำเลยได้หลงต่อสู้คดีไปตามที่โจทก์ฟ้องผิดวันนั้นแล้ว ควรต้องยกคำร้องขอแก้ฟ้องนั้นและถือตามฟ้องเดิม
ดังนั้น เมื่อโจทก์นำสืบว่าจำเลยกระทำผิดก่อนวันตามฟ้องเดิมถึง 2 วัน ข้อเท็จจริงที่ปรากฎในการพิจารณา จึงต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสำคัญ ชอบที่จะยกฟ้องเสียตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 192
ดังนั้น เมื่อโจทก์นำสืบว่าจำเลยกระทำผิดก่อนวันตามฟ้องเดิมถึง 2 วัน ข้อเท็จจริงที่ปรากฎในการพิจารณา จึงต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสำคัญ ชอบที่จะยกฟ้องเสียตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องที่จำเลยหลงต่อสู้คดี และการยกฟ้องเมื่อข้อเท็จจริงจากการสืบพยานต่างจากฟ้อง
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยทำผิดในวันใดวันหนึ่งแน่นอนจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ครั้นเมื่อสืบพยานโจทก์หมดแล้วโจทก์ขอแก้ฟ้องเป็นว่า เมื่อระหว่างวันหนึ่งถึงอีกวันหนึ่งวันเวลาใดไม่ปรากฏชัดจำเลยได้กระทำผิดดังนี้ ไม่ใช่เป็นการขอเพิ่มเติม แต่เป็นการขอแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5),164
เมื่อจำเลยปฏิเสธฟ้องเดิมและได้ต่อสู้คดีในการสืบพยานโจทก์ตลอดมาจนหมดพยาน จึงถือได้ว่าจำเลยได้หลงต่อสู้คดีไปตามที่โจทก์ฟ้องผิดวันนั้นแล้วควรต้องยกคำร้องขอแก้ฟ้องนั้นและถือตามฟ้องเดิม
ดังนั้น เมื่อโจทก์นำสืบว่าจำเลยกระทำผิดก่อนวันตามฟ้องเดิมถึง 2 วันข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาจึงต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสำคัญ ชอบที่จะยกฟ้องเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192
เมื่อจำเลยปฏิเสธฟ้องเดิมและได้ต่อสู้คดีในการสืบพยานโจทก์ตลอดมาจนหมดพยาน จึงถือได้ว่าจำเลยได้หลงต่อสู้คดีไปตามที่โจทก์ฟ้องผิดวันนั้นแล้วควรต้องยกคำร้องขอแก้ฟ้องนั้นและถือตามฟ้องเดิม
ดังนั้น เมื่อโจทก์นำสืบว่าจำเลยกระทำผิดก่อนวันตามฟ้องเดิมถึง 2 วันข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาจึงต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสำคัญ ชอบที่จะยกฟ้องเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2013/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเกิดเหตุในฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ไต่สวน ถือเป็นการแตกต่างในสาระสำคัญ ทำให้ต้องยกฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 22 ก.ค. 2499 แต่ตามทางไต่สวนได้ความว่าจำเลยกระทำผิด ในวันที่ 22 ก.ย. 2499 เป็นการผิดเดือนไปเมื่อการแตกต่างดังกล่าว ถือว่า เป็นการแตกต่าง ในข้อสาระสำคัญ ซึ่งเท่ากับว่าจำเลยไม่ได้กระทำ ผิดตามวันที่โจทก์ฟ้อง ต้องยกฟ้อง ไม่จำเป็นต้องพิจารณาถึงว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้หรือไม่ต่อไป
ฉะนั้นแม้คดีนี้จะเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องก็ดี เมื่อชั้นพิจารณายังต้องยกฟ้องเช่นนี้ คดีนี้ก็ต้องยกฟ้องเช่นเดียวกัน .
( ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2501)
ฉะนั้นแม้คดีนี้จะเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องก็ดี เมื่อชั้นพิจารณายังต้องยกฟ้องเช่นนี้ คดีนี้ก็ต้องยกฟ้องเช่นเดียวกัน .
( ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2501)